ได้อ่านบันทึกของพี่นา http://gotoknow.org/blog/envi-8/210352 แล้วอดนึกถึงตัวเองไม่ได้ ผมเองเวลาไม่สบาย (มีโรคประจำตัวเป็น sinusitis) จะต้องไปหาหมอ เมื่อก่อนไม่ชอบใช้เส้น (ความที่เป็นบุคลากรทางการแพทย์ เส้นจึงมีอยู่มากมาย ทั้งเส้นเล็ก เส้นใหญ่ เส้นก๋วยจั๊บ) อย่างที่พี่นาเล่านั้นแหละคนไข้ของโรงพยาบาลเยอะมาก ๆๆๆๆ โดยเฉพาะคลินิกที่เป็นโรคเฉพาะทาง บางครั้งผมต้องรอเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมง (ต้องลางานไปครับ ขอออกนอกสถานที่นานอย่างนี้ เกรงใจราชการ) นี่ไม่รวมเวลารอยาอีกประมาณ 1-2 ชั่วโมงนะครับ มธุรสวาจาจึงเป็นสิ่งที่คนไข้ทุกคนโหยหา แต่ต้องเป็นโชคจึงจะได้รับการตอบสนอง บางครั้งเวลาที่นานกลับดูเหมือนไม่นานหากได้รับความเอื้ออาทรแม้เพียงเล็กน้อย แต่จะดูนานมาก แม้เวลาจะน้อยก็ตาม เมื่อผู้บริการมีจิตที่ไม่เป็นบริการ ก่อให้เกิดวาจาที่นอกจากไม่ก่อให้เกิดบรรยายกาศที่ดีแล้ว ยังทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ให้กับผู้รับเลวลงไปอีก
อย่างที่บอกนะครับพอไม่ใช้เส้น เวลาที่สูญเสียไปมันมากจริง ๆ ถ้าหากจะแลกกับความสะดวกสบายโดยการเสียเงินไปคลินิกเอกชน แต่ยารักษา Sinus มันแพงมาก และต้องกินยาตลอดเป็นปี ความรู้สึกเสียดายเงินมันมีมากกว่าความเกรงใจครับ ความคิดการใช้เส้นจึงเขามาเยือน
วิธีใช้เส้น ก็คือฝากให้เพื่อนหาบัตร และวางบัตรให้ จากนั้นนัดเวลาที่จะมาพบแพทย์ เมื่อถึงเวลาพยาบาลก็จะรู้แล้วละว่าเป็นเรา ก็จะเรียกให้ (ไม่ได้เป็นการแทรกคิวนะครับ เพราะคิวเลยไปแล้ว) เวลารับยาก็จะรับบัตรคิว แล้วรอตอนเย็นมารับ หรือให้เพื่อนรับให้ ฟังดูเหมือนกับว่าไม่ได้เห็นมีอะไรเลย เส้นก็ไม่ใช้เส้นจริง เป็นที่ระบบมากกว่า
ผมจึงมานั่งคิดว่าทำไม โรงพยาบาลจึงไม่วางระบบการนัดหมาย และการหมุนเวียนคนไข้ให้มันดีกว่านี้ กำหนดเวลาให้คนได้ไหมว่าบัตรคิวเวลาเท่านี้ จะได้ตรวจเวลาเท่าไร หากคนไข้มีมาก ขอให้แพทย์มาตรวจเพิ่มได้ไหม (แพทย์มี 10 ท่าน แต่มาตรวจแค่ 1 ท่าน เห็นบอกว่าท่านอื่นต้องไป (ลาว) Round) ผมว่าระบบการนัดหมาย การให้ความห่วงหาอาทร เป็นสิ่งที่คนไข้ทุกคนโหยหา และอยากได้ รองไปจากการหายจากโรค บุคลากรทางการแพทย์ โดยเฉพาะพยาบาลต้องเป็นผู้ที่เสียสละ และเป็นผู้ให้อย่างแท้จริง ฤา ความห่วงหาอาทร และมธุรสเวจาจะห่างหายไปจากสังคมไทยจริง ๆ
ไม่นะ ........... ไม่จริงใช่ไหม
ขอบคุณค่ะ สำหรับเรืองที่เป็นประโยชน์ ได้อีกหนึ่งมุมมอง ในความเป็นจริงของระบบบริการสาธษรณสุข ประเทศไทย การขาดแคลน แพทย์ พยาบาลและเจ้าหน้าที่ต่างๆ และปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้นมากมาย ทำให้ความต้องการของผู้ป่วยและผู้ให้บริการไม่สมดุลกัน แต่มีบางรพ.ได้พยายามปรับปรุง ปรับระบบการนัดหมาย การจัดการต่างๆ เพื่อไม่ให้รอนานมากคะ แต่เพราะจำนวนผู้ป่วยที่มากมายทั้ผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก ทำให้จำเป็นต้องรอบ้าง แต่รพ.บางแห่ง มีการเพิ่มคุณค่าระหว่างรอให้ผู้ป่วยอยู่หลากหลายวิธีด้วยกันค่ะ และพยายามที่จะลดระยะเวลาการรอคอยให้มากที่สุดค่ะ เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ
ขอบคุณอาจารย์ ขจิต ฝอยทองที่ปรึกษา~natadee และคุณ paula ที่ปรึกษา~natadee ครับ จาก Kong-natamidee
โรงเรียนอุตรดิตถ์แวะมาชมเส้นด้วยครับ
เส้นยังไม่ตายและใช้ได้อยู่ในสังคมนี้ แทบทุกองค์กรจริงๆครับ
ดิฉันไม่ชอบใช้เส้น เพราะรู้สึกว่าถึงไม่ยุติธรรม
แต่ความเป็นจริงของสังคมไทย ถ้าไม่ใช้เส้นโดยเฉพาะระบบราชการนั้นยากลำบากมาก
เกือบทุกวงการ เส้นสายมีอิทธิพลสูง
ช่างน่าเศร้า อยากให้ไทยเรามีระบบระเบียบที่ดี มองคนที่ความสามารถและตัวตนที่แท้จริงของคนๆนั้น ให้เกียรติกับทุกๆคนไม่ว่าเขาจะเป็นใคร เป็นระบบแบบแผน+รัดกุม+ทั่วถึง โรงพยาบาลที่เจ้าหน้าที่ทุกคนมีรอยยิ้มทำงานอย่างมีความสุข เอาใจใส่คนไข้(ทุกคน) อย่างเท่าเทียมกัน คล่องแคล่ว+ว่องไว ^-^
แต่ตอนนี้คงต้องนอนพักก่อนใช่ไหมค่ะ โรงพยาบาลในฝัน T-T