คนผิวดำมีสุขภาพดีหรือแย่กว่าคนผิวขาว


...

ภาพร้านตัดผมกลางชุมชนคนผิวดำรอบๆ มหาวิทยาลัยพิทซ์เบิร์ก สหรัฐฯ

...

เป็นที่ทราบกันดีว่า คนผิวดำในอเมริกา (อาฟริกัน-อเมริกัน) มีชื่อเสียงในเรื่องกีฬา ดนตรี (โดยเฉพาะแจ๊ซ) และการเต้นรำ

คนผิวดำ (จากอาฟริกา) เองก็เข้าสู่วงการกีฬา เช่น ฟุตบอล ฯลฯ หากินไปทั่วยุโรป ทำให้เราๆ ท่านๆ คงจะคิดว่า คนผิวดำน่าจะมีสุขภาพดี และอายุยืนมากกว่าคนตะวันตก (ฝรั่ง)

...

ท่านอาจารย์ดอกเตอร์สตีเฟน โตมัส ผู้อำนวยการศูนย์สุขภาพชนกลุ่มน้อย มหาวิทยาลัยพิทซ์เบิร์ก สหรัฐฯ กล่าวว่า

คนผิวดำในสหรัฐฯ มีอัตราตายในขวบปีแรกสูงกว่า มีปัญหาสุขภาพจิตมากกว่า ติดเชื้อ HIV (ที่ทำให้เกิดโรคเอดส์) มากกว่าคนผิวขาวในสหรัฐฯ

...

สาเหตุการตายอันดับ 1 ในคนผิวดำช่วงอายุ 25-44 ปีคือ โรคเอดส์ นอกจากนั้นโรคอื่นๆ ก็พบมากกว่าคนผิวขาว (ฝรั่ง) ดังตาราง

โรค พบมากกว่าคนผิวขาว (ร้อยละ)
โรคหัวใจ-ระบบไหลเวียนเลือด 30%
เบาหวาน 70%
มะเร็งต่อมลูกหมาก 66%

...

ภาพร้านตัดผมกลางชุมชนคนผิวดำรอบๆ มหาวิทยาลัยพิทซ์เบิร์ก สหรัฐฯ

...

ยังไม่มีใครทราบแน่ว่า ทำไมคนกลุ่มน้อยบางกลุ่มในอเมริกามีฐานะความเป็นอยู่ดีขึ้น และฐานะดีขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะคนจากเอเชีย และอเมริกากลาง (ฮิสพานิค)

ขณะเดียวกัน... คนกลุ่มน้อยบางกลุ่มกลับมีฐานะความเป็นอยู่ (รวมทั้งสุขภาพ) ไม่ค่อยดี โดยเฉพาะคนเชื้อสายอินเดียนแดง และอาฟริกัน-อเมริกัน (คนผิวดำ)

...

คำอธิบายที่อาจเป็นไปได้คือ กลุ่มคนที่มีความเจริญในชีวิตมักจะมี "วัฒนธรรม" หรือ "มงคลธรรม" ที่ส่งเสริมความเจริญในชีวิต

ตัวอย่างเช่น ความขยันขันแข็ง ซื่อสัตย์ กตัญญู อดออม ทำงานหนัก ฯลฯ ซึ่งมาจากคำสอนขงจื่อ (confucion) มีแนวโน้มจะทำให้ชาติในภูมิภาคตะวันออกไกล เช่น จีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น เกาหลี ฯลฯ ประสบความสำเร็จ

...

ตรงกันข้าม... กลุ่มคนที่ไม่ค่อยมีความเจริญในชีวิตมักจะมี "วัฒนธรรม" ที่ขัดขวางความเจริญในชีวิต

ตัวอย่างเช่น ความเกียจคร้าน ไม่ซื่อสัตย์ อกตัญญู ไม่ชอบทำงานหนัก ฯลฯ

...

อาจารย์แพทย์ท่านหนึ่งที่รักษามะเร็งกล่าวว่า เพียงแค่ให้คนไข้พลิกตัวก็รู้แล้วว่า คนไข้รายนี้จะไปถึงไหน (ผลการรักษาดี) หรือไปไม่ถึงไหน (มักจะรอดยาก...)

ท่านสังเกตว่า คนไข้ที่หลับตา และพลิกตัวช้าๆ (เวลาบอกให้พลิกตัว) หรือทำตัว 'passive' ไม่ค่อยช่วยตัวเอง... คนไข้พวกนี้ผลการรักษามักจะไม่ดี

...

ตรงกันข้าม... คนไข้ที่ลืมตา และพลิกตัวเร็ว (เวลาบอกให้พลิกตัว) หรือทำตัว 'active' พยายามช่วยตัวเอง และสนใจคำแนะนำในการดูแลตัวเอง... คนไข้กลุ่มนี้ผลการรักษามักจะดี

เรื่องคนผิวดำอ้วน เป็นโรคความดันเลือดสูง เบาหวาน เอดส์ และมะเร็งมากกว่าคนผิวขาวนี้... ผู้เชี่ยวชาญบางท่านสันนิษฐานว่า อาจเป็นผลจากพันธุกรรม หรือยีนส์ (genes) ที่ทำหน้าที่กักเก็บอาหารและเกลือทำงานมากกว่าคนกลุ่มอื่นๆ เนื่องจากคนผิวดำอยู่ในภูมิภาคที่มีความอดอยากยากแค้นมาก่อน

...

เมื่อมาอยู่ในภูมิภาคที่อุดมสมบูรณ์ และกินมากไปหน่อย เลยมีโรคตามมาเพียบ

ชีวิตบนจอ (ในข่าว) ของคนผิวดำส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของความสำเร็จ และความสามารถ ส่วนชีวิตนอกจอ (ชีวิตจริง) เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งจะไปถึงไหน หรือไปไม่ถึงไหน... ส่วนใหญ่จะขึ้นกับการกระทำ (ของคนนั้นๆ)

...

 

...

 

 

ที่มา                                                             

...

  • Thank Reuters > Terri Coles > Barbershops become urban community health centers > [ Click ] > September 18, 2008.

...

  • ข้อมูลและการอ้างอิงในบล็อก "บ้านสุขภาพ" เป็นไปเพื่อส่งเสริมสุขภาพ และป้องกันโรค ไม่ใช่รักษาโรค
  • ท่านที่มีโรคประจำตัว หรือมีความเสี่ยงต่อโรคสูง... ควรปรึกษาแพทย์ ทันตแพทย์ พยาบาล เภสัชกร หรือหมออนามัยที่ดูแลท่านก่อนนำข้อมูลไปใช้

...

  • ขอขอบพระคุณ > อ.นพ.ศิริชัย ภัทรนุธาพร สสจ.ลำปาง + อ.นพ.โอฬาร ยิ่งเสรี ผอ.รพ.ห้างฉัตร + อ.อรพินท์ บุญเสริม + อ.อนุพงษ์ แก้วมา + อ.ณรงค์ ม่วงตานี > สนับสนุนเทคนิค iT. 
  • นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ ศูนย์แพทย์ชุมชน (CMU) แม่สัน-เมืองยาว โรงพยาบาลห้างฉัตร ลำปาง > 23 กันยายน 2551.
หมายเลขบันทึก: 211038เขียนเมื่อ 23 กันยายน 2008 17:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 มิถุนายน 2012 11:40 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

ถ้าพูดถึงคนผิวดำผมนึกถึง 

Michael Jordan  สุดยอดนักบาสเก็ตบอล NBA

โคฟี อันนัน อดีตเลขาธิการสหประชาชาติ

นักวิ่งระยะสั้น 100 เมตร 200 เมตร

นักวิ่งระยะไกล ล้วนแต่คนผิวดำที่วิ่งเข้าเส้นชัยในลำดับที่ 1,2,3

นิเชาว์ สุดยอดนักแสดงเทวดาท่าจะบ๊องส์ ทำให้กระผมหัวร่องอหาย

แต่ถ้านึกถึงคนผิวขาวผมนึกถึง

ผู้นำบางประเทศเอาระเบิดไปบอมบ์ประเทศแล้วประเทศเล่า เช่น อัฟกานิสถาน ต่อด้วยอิรัก ลำดับต่อไปก็อิหร่าน

นึกถึงค่าเงินบาทถูกโจมตีโดย จอร์จ โซรอส จนเกิดวิกฤติต้มยำกุ้ง

นึกถึงประวัติการค้าทาสการซื้อขายมนุษย์ของชาวอเมริกันในยุคก่อน

.....และอีกสิ่งหนึ่งที่นึกถึง คือลูกหมาแรกคลอดที่บ้านนอกมีหลายสี บางตัวสีดำ บางตัวสีขาว บางตัวสีแดง แม้บางตัวยังมีสีลายจุด แม่ของหมาก็ยังแบ่งนมให้ลูกหมากินทุกตัวโดยมิได้ให้กินแต่ลูกหมาตัวสีขาวเท่านั้น

ทั้งหมดเป็นเพียงบางส่วนที่ผมนึกได้ครับ แต่ที่สุดแล้ว เราควรอยู่ในสังคมร่วมกันอย่างสันติเถิด อีกไม่นานก็ตายจากกันแล้ว

ขอบคุณความรู้ดี ๆ ค่ะ...ขอบคุณคุณหมอมากค่ะ

Nominated by UN as the best Poem of 2006 - Written by an African Kid

When I born, I black

When I grow up, I black

When I go in Sun, I black

When I scared, I black

When I sick, I black

And when I die, I still black

And you white fellow

When you born, you pink

When you grow up, you white

When you go in sun, you red

When you cold, you blue

When you scared, you yellow

When you sick, you green

And when you die, you grey

And you calling me colored??

-แปล-

*** บทกลอนของเด็กอัฟริกันผู้ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมจาก UN ***

เมื่อผมเกิด ผมผิวดำ

เมื่อผมโตขึ้น ผมก็ยังผิวดำอยู่

เมื่อผมอยู่ใต้แสงแดด ผมก็คงยังผิวดำ

เมื่อผมกลัว ผมก็ผิวดำ

เมื่อผมป่วย ผมก็ยังผิวดำ

และเมื่อผมตาย ผมก็ยังคงผิวดำ

และคุณ...เพื่อนมนุษย์ผิวขาว

เมื่อแรกเกิด คุณมีผิวสีชมพู

เมื่อคุณโตขึ้น คุณมีผิวสีขาว

เมื่อคุณอยู่ใต้แสงแดด คุณมีผิวสีแดง

เมื่อคุณหนาว คุณมีผิวสีน้ำเงิน

เมื่อคุณกลัว คุณมีผิวสีเหลือง

เมื่อคุณป่วย คุณมีผิวสีเขียว

เมื่อคุณตาย คุณมีผิวสีเทา

และคุณเรียกผมว่า คนผิวสี ??

เอามาฝากครับ ดีมากๆเลยนะครับ

ขอบคุณครับ ที่นำสาระความรู้มาให้อ่านครับ

ขอขอบคุณข้อคิดจากคุณร่มไม้ฯ

  • เมืองไทยเราควรมีองค์ความรู้จากทั่วโลกไว้
  • เราไม่จำเป็นต้องไปรัก ไปชัง หรือแบ่งแยกใคร

ทว่า...

  • คนไทยควรรู้จักคนทั่วโลกให้มากจากข้อมูลที่ผ่านการศึกษาวิจัยครับ

ขอขอบคุณอาจารย์วรางค์ภรณ์...

  • ขอขอบคุณมากๆ ครับ

ขอขอบคุณคนพลัดถิ่น...

  • บทประพันธ์ที่มีชื่อเสียงของเด็กผิวดำท่านนี้ให้ข้อคิดดีมากๆ ครับ

อ่านแล้วได้เมตตาดีด้วย...

ไม่อนุญาตให้แสดงความเห็น
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท