ในทางการแพทย์ได้นำรังสีมาใช้ 3 รูปแบบ คือ
1. รังสีวินิจฉัย (radiation diagnotic) เป็นการนำรังสีจากต้นกำเนิดรังสีนอกร่างกาย ฉายเข้าสู่ร่างกายผู้ป่วยในเวลาสั้นๆ ให้เพียงพอในการตรวจวินิจฉัยอวัยวะเฉพาะส่วน เช่น เครื่องเอกซเรย์ทั่วไป
เครื่องเอกซเรย์ถ่ายภาพฟัน เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT) เครื่องถ่ายภาพด้วยสนามแม่เหล็ก(MRI) เคริ่องเอกซเรย์ตรวจหลอดเลือด (DSI) เครื่องตรวจโรคด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (ultrasound) เป็นต้น
2. เวชศาสตร์นิวเคลียร์ ( nuclear medicine) เป็นการนำเอาสารกัมมันตรังสีมาใช้ในการตรวจรักษา และศึกษาการทำงานของระบบอวัยวะในร่างกาย เพื่อช่วยตรวจวิเคราะห์หาสมมุฏฐาน หรือรักษาอาการของโรค บรรเทาความทุกข์ทรมานของผู้ป่วย และร่นระยะเวลาการรักษาในโรงพยาบาล เช่น
- การใช้ลวดแทนทาลัม- 182 ในการรักษามะเร็งปากมดลูก
- การนำไอโอดีน - 131 ใช้ตรวจ วินิจฉัย และรักษาโรคคอพอก
- การรักษามะเร็งในระดับตื้นของร่างกายด้วยโปรตอน
- ใช้คริปทอน-81 m ตรวจการทำงานของหัวใจ
3. รังสีรักษา ( radiation oncology ) เป็นการนำรังสีจากต้นกำเนิดรังสีชนิดต่างๆมารักษาผู้ป่วย ( โรคมะเร็ง) แบ่งเป็น 2 วิธี ดังนี้
1) การใช้ต้นกำเนิดรังสีระยะไกล ( teletherapy ) โดยใช้ต้นกำเนิดรังสีที่มีความแรงของรังสีสูง และอยู่ภายนอกร่างกายผู้ป่วย เช่น เครื่องเร่งอนุภาคอิเล็กตรอน เครื่องโคบอลต์-60
2) การใช้ต้นกำเนิดรังสี สอดใส่หรือฝังเข้าไปยังตำแหน่งที่มีรอยโรค ( brachytherapy)
ต้นกำเนิดรังสีที่ใช้มีขนาดเล็กเหมาะที่จะสอดใส่เข้าไปในช่องเปิดของร่างกายหรือผ่าตัดเข้าไปในก้อนมะเร็ง เช่น
- เรเดียม -226 ชนิดเข็มหรือแท่งเล็กๆ
- โคบอลต์ - 60 ชนิดเม็ด
- ซีเซียม - 137 ชนิดเม็ด
- อิริเดียม - 192 ชนิดเข็มหรือแท่ง
- ทองคำ - 198 ชนิดเม็ด