พอดีตอนนี้ช่วงปิดเทอมจากการเรียนAPN และได้ไปสมัครเรียนการใช้ภาษาphpก้เลยจะเขียนทบทวนควบคู่ไปกับการเรียนนะครับ จึงขอนำเสนอความรู้เบื้องต้นก่อนนะครับดังนี้
PHP เป็นภาษาจำพวก scripting language
คำสั่งต่างๆจะเก็บอยู่ในไฟล์ที่เรียกว่าสคริปต์ (script)
และเวลาใช้งานต้องอาศัยตัวแปลชุดคำสั่ง ตัวอย่างของภาษาสคริปก็เช่น
JavaScript, Perl เป็นต้น ลักษณะของ PHP
ที่แตกต่างจากภาษาสคริปต์แบบอื่นๆ คือ PHP ได้รับการพัฒนาและออกแบบมา
เพื่อใช้งานในการสร้างเอกสารแบบ HTML โดยสามารถ
สอดแทรกหรือแก้ไขเนื้อหาได้โดยอัตโนมัติ ดังนั้นจึงกล่าวว่า PHP
เป็นภาษาที่เรียกว่า server-side หรือ HTML-embedded scripting
language เป็นเครื่องมือที่สำคัญชนิดหนึ่ง
ที่ช่วยให้เราสามารถสร้างเอกสารแบบ Dynamic HTML
ได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีลูกเล่นมากขึ้น
PHP ได้รับการเผยแพร่เป็นครั้งแรกในปีค.ศ.1994
จากนั้นก็มีการพัฒนาต่อมาตามลำดับ เป็นเวอร์ชั่น 1 ในปี 1995
เวอร์ชั่น 2 (ตอนนั้นใช้ชื่อว่า PHP/FI) ในช่วงระหว่าง 1995-1997
และเวอร์ชั่น 3 ช่วง 1997 ถึง 1999 จนถึงเวอร์ชั่น4ในปัจจุบัน
รายชื่อของนักพัฒนาภาษา PHP
ที่เป็นแก่นสำคัญในปัจจุบันมีดังต่อไปนี้
- Zeev Suraski, Israel
- Andi Gutmans, Israel
- Shane Caraveo, Florida USA
- Stig Bakken, Norway
- Andrey Zmievski, Nebraska USA
- Sascha Schumann, Dortmund, Germany
- Thies C. Arntzen, Hamburg, Germany
- Jim Winstead, Los Angeles, USA
- Rasmus Lerdorf, North Carolina, USA
เนื่องจากว่า PHP ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของตัว Web Server ดังนั้นถ้าจะใช้ PHP ก็จะต้องดูก่อนว่า Web server นั้นสามารถใช้สคริปต์ PHP ได้หรือไม่
ตอนนี้ก็ขอนำเสนอให้รู้ว่า ส่วนใดเป็นคำสั่ง PHP ที่อยู่ภายในเอกสาร HTML จึงได้มีการกำหนดสัญลักษณ์ไว้ดังนี้ ซึ่งสามารถทำได้หลายรูปแบบ เช่น
- <? ... ?> (SGML style)
- <?php ... ?> (XML style)
- <script language="php"> ... </script> (JavaScript style)
- <% ... %> (ASP style)
ที่นิยมก็คือแบบแรก โดยเริ่มต้นด้วย <?
และจบด้วย ?> และตรงกลางจะเป็นคำสั่งในภาษา PHP
นะครับโดยเราสามารถวางคำสั่ง PHP ไว้ภายในเอกสาร HTML
ตามที่ต้องการได้ อาจจะสลับกับ Tag ของภาษา HTML ก็ได้
ตัวอย่างเช่น
<HTML>
<HEAD><TITLE>
My Homepage </TITLE></HEAD>
<BODY
BGCOLOR=#FFFFFF>
<H1><? echo "Hello
World"; ?></H1>
Your web browser is <?
echo $HTTP_USER_AGENT; ?>.
</BODY>
</HTML>
คำสั่งแรกที่ง่ายที่สุดสำหรับการเรียนรู้ ก็คือคำสั่ง echo
แล้วตามด้วยข้อความหรือสตริงค์ (string)
ข้อความในภาษา PHP จะเริ่มต้นและจบด้วย double quote (")
เหมือนในภาษาซี
ตัวอย่าง แสดงข้อความลงในเอกสาร
HTML
<?
echo
"Hello Mr_Jod";
?>
โปรดสังเกตว่า คำสั่งแต่ละคำสั่งในภาษา PHP
จะจบท้ายคำสั่งด้วย semicolon (;) เหมือนในภาษาซี ซี่ง
คำสั่งหรือฟังก์ชันในภาษา PHP นั้นจะเขียนด้วยตัวพิมพ์เล็กหรือใหญ่
ก็ได้ (case-insensitive)
คำสั่งแรกที่ง่ายที่สุดสำหรับการเรียนรู้ ก็คือคำสั่ง echo แล้วตามด้วยข้อความหรือสตริงค์ (string)ข้อความในภาษา PHP จะเริ่มต้นและจบด้วย double quote (") เหมือนในภาษาซี<?
สิ่งที่จะขาดเสียมิได้คือ การกำหนดและใช้ตัวแปร (variable)
ตัวแปรในภาษา PHP จะเหมือนกับในภาษา Perl คือเริ่มต้นด้วยเครื่องหมาย
dollar ($) โดยเราไม่จำเป็นต้องกำหนดแบบของข้อมูล (data type)
อย่างเจาะจงเหมือนในภาษาซี เพราะว่า
ตัวแปลภาษาจะจำแนกเองโดยอัตโนมัติว่า ตัวแปรดังกล่าว ใช้ข้อมูลแบบใด
ในช่วงเวลานั้นๆ เช่น ข้อความ จำนวนเต็ม จำนวนที่มีเลขจุดทศนิยมตรรก
เป็นต้น ตัวอย่างการใช้งาน เช่น
$mystring = "Hello World!";
$myinteger = 1031;
$myfloat =
3.14;
ถ้าเราต้องการจะแสดงค่าของตัวแปร ก็อาจจะใช้คำสั่ง
echo ได้ ตัวอย่างเช่น
สัญลักษณ์ หมายถึงการขึ้นบรรทัดใหม่ เป็น escape character ตัวหนึ่ง
เมื่อพิมพ์ข้อความเป็นเอาพุต และโปรดสังเกตว่า
สำหรับการใช้งานภายในเอกสาร HTML การขึ้นบรรทัดใหม่โดยใช้
จะแตกต่างจากการขึ้นบรรทัดโดยใช้
ใน HTML
$mystring = "Hello World!";
$myinteger = 1031;
$myfloat = 3.14;
echo "$mystring
";
echo "$myinteger
";
echo "$myfloat
";
?>
แค่นี้ก่อนนะ.....
บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย นาย ศราวุธ จ้อน อยู่เกษม ใน พยาบาลกับคลินิกบริการ
ไม่อนุญาตให้แสดงความเห็น
อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก