คนไร้ที่พึ่งโอดถูกตีกัน-ลิดรอนสิทธิ

สำหรับบุคคลทั่วไปแล้ว การจะทำความเข้าใจสถานการณ์ด้านการจัดบริการสวัสดิการสำหรับคนไร้ที่พึ่งอย่างเร็วและย่นย่อ การเริ่มต้นจากการอ่านข่าวจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ โดยการแถลงข่าวของ รศ.ศักดิ์ชัย เลิศพานิชพันธุ์ จากคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ดูท่าว่าน่าจะช่วยทำให้มองเห็นภาพและเห็นสถานการณ์ในปัจจุบันได้อย่างรวดเร็ว อ่านกันดูนะครับ

คนไร้ที่พึ่งโอดถูกตีกัน-ลิดรอนสิทธิ [19 ก.ค. 51 - 04:14]

รศ.ศักดิ์ชัย เลิศพานิชพันธุ์ จากคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดเผยถึงผลการวิจัยเรื่อง "การศึกษาแนวทางกฎหมายสำหรับคนไร้ที่พึ่ง" ว่า เป็นการศึกษาจากเอกสารและภาคสนาม ทั้งจากผู้บริหารกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) หน่วยงานที่ทำหน้าที่ช่วยเหลือคนไร้ที่พึ่ง และคนไร้ที่พึ่ง พบว่า

กฎหมายปัจจุบันไม่ครอบคลุมถึงกลุ่มคนไร้ที่พึ่ง เช่น คนเร่ร่อน คนไร้บ้าน เป็นต้น การมองว่าคนไร้ที่พึ่งเป็นตัวปัญหา การขาดความพร้อมในการบริหารจัดการของภาครัฐ และการขาดกฎหมายรองรับอย่างชัดเจน

ทั้งนี้ ข้อมูลจากการสัมภาษณ์และระดมความคิดเห็นผู้บริหาร พม.มองว่า คนไร้ที่พึ่งคือบุคคลที่ประสบปัญหาขาดความมั่นคงในชีวิตทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม ไม่มีรายได้เพียงพอสำหรับการยังชีพ ไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่ง

ในส่วนผู้บริหารกระทรวงยุติธรรมมองว่าควรส่งเสริมให้สังคมและผู้มีหน้าที่ในการออกกฎหมายเห็นความสำคัญในแง่ของความเท่าเทียมและความเป็นธรรมทางสังคม เน้นประสานความร่วมมือ

รศ.ศักดิ์ชัย กล่าวอีกว่า ในขณะที่คนเร่ร่อนมีความเห็นว่า การส่งตัวเข้าสถานสงเคราะห์ ไม่ตรงกับความต้องการของคนไร้ที่พึ่ง เป็นการลิดรอนสิทธิมากกว่าการพิทักษ์สิทธิ์ บริการจากสถานสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่งที่รัฐจัดให้ไม่สามารถตอบสนองและแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด

นอกจากนี้ยังพบว่าคนไร้ที่พึ่งเป็นกลุ่มบุคคลที่ไม่มีกฎหมายรองรับสถานภาพ เช่น บัตรประจำตัวประชาชน ทะเบียนบ้าน เป็นผลทำให้ไม่สามารถเข้ารับบริการทางสังคมจากภาครัฐได้ ทั้งนี้มีข้อเสนอร่วมกันว่าควรมีการพัฒนากฎหมายเพื่อให้เป็นเครื่องมือหนึ่งในการแก้ไขและจัดการปัญหาให้กับกลุ่มคนไร้ที่พึ่ง ผ่านขั้นตอนสำคัญได้แก่ การให้ความช่วยเหลือฟื้นฟู การบรรเทาความเดือดร้อน การป้องกันก่อนเปลี่ยนผ่านสู่ภาวะไร้ที่พึ่ง.

 

ข่าวจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/news.php?section=education&content=97531 

 

เริ่มต้นจากข่าวนี้
แล้วเราค่อยมาร่วมกันคิด
ร่วมกันคุยนะครับ