กินปลาทูป้องกัน "โรคหัวใจ"


ก่อนไปเรียน เอ๊ย ทำงาน อยากฝากพี่น้องว่าปลาทู ปลากะพง ก็มี "โอเมก้า 3"







"โอเมก้า 3" ที่มีอยู่ในน้ำมันปลา ซึ่งเป็นไขมันประเภทอิ่มตัว มีประโยชน์ในเรื่องลดอัตราการตาย จากโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดตีบ และยังลดคอเลสเตอรอล ไตรกลีเซอไรด์ รวมทั้งลดความหนืดของเลือด ลดการอักเสบ ทำให้ความข้นในเลือดอยู่ในเกณฑ์ปกติ


การรับประทานน้ำมันปลา จะสร้างความสมดุลปรับระดับเลือดในร่างกายให้อยู่ในภาวะปกติ ไขมันปลาประกอบด้วยสารอีพีเอและดีเอชเอ ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกาย และมีอยู่ในปลาทะเลน้ำลึกในเขตหนาว เช่น ปลาแซลมอน ปลาแมคเคอเรล


ส่วนเมืองไทยปลาเหล่านี้มีราคาสูง จึงแนะนำให้รับประทานปลาทู และปลากะพง ทดแทน เพราะปลาทูจะมีสารโอเมก้า 3 ค่อนข้างมาก ในเนื้อปลาทู 100 กรัมมีสารโอเมก้า 3 ราว 2-3 กรัมโดยปกติในหนึ่งวันร่างกายต้องการโอเมก้า 3 ประมาณวันละ 3 กรัมต่อวัน


อย่างไรก็ตาม การจะรับประทานอาหารเสริมน้ำมันปลาซึ่งมีโอเมก้า 3 นั้น ต้องได้รับการตรวจเช็กจากแพทย์ก่อนว่าร่างกายขาดโอเมก้า 3 หรือไม่ เพราะหากร่างกายได้รับสารโอเมก้า 3 เพียงพอแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องซื้อน้ำมันปลามารับประทาน




ที่มา : กระทรวงสาธารณสุข
__________________
ความสุข เริ่มต้นมาจากหัวใจ...
หมายเลขบันทึก: 208739เขียนเมื่อ 15 กันยายน 2008 06:36 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 02:07 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

เยี่ยมมากคะ สำหรับบทความดี ๆ ที่แนะนำเรื่องสุขภาพ ถูกใจคนชอบทานปลาทูคะ

Thank you

ยุดประหยัดนี่ครับ อยากกินปลาแซลมอนก้ได้แค่มองง่ะครับ ขอบคุณครับ

เจริญพร โยมคนพลัดถิ่น

กินทั้งปลาทูและน้ำมันปลา

น้ำมันปลาแพงไปบ้างก็เพื่อสุขภาพ

 

เจริญพร

นมัสการพระคุณเจ้าครับ

ปลาทูดีนะครับ อร่อยด้วย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท