- ลุงบางทรายสบายดีครับ
- ลุงก็คิดถึงเช่นกัน
- ลุงอยู่ขอนแก่น กับมุกดาหารครับ วันปกติอยู่มุกดาหาร วันหยุดมาขอนแก่นครับ กลับบ้าน
- หวังว่าการเรียนคงสนุกและก้าวหน้าดีนะครับ
เทียบเชิญ: ได้รับเทียบเชิญจากท่าน paleeyon ให้ชวนคุณวรรณาเพื่อนร่วมงานไปเมืองหงสา ลาว ระหว่างวันที่ 8-12 ที่ผ่านมา ไปฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ลาวเรื่อง PRA เมืองหงสานี้ติดกับเมืองเงิน ซึ่งติดกับ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ์ จังหวัดน่านของเรา เมืองหงสาอยู่ในแขวงไชยบุรี สปป.ลาว
เดินทาง: เริ่มต้นที่สุวรรณภูมินั่ง PB air ไปลงน่านแล้วนั่งรถจากน่านไป “ด่านห้วยโก๋น” อ.เฉลิมพระเกียรติ์ ระยะทางประมาณ 133 กิโลเมตร ผ่าน อ.ท่าวังผา อ.เชียงกลาง อ.ทุ่งช้าง เข้า “ด่านน้ำเงิน” ของลาว แล้วเข้าเมืองเงิน จากเมืองเงินไปเมืองหงสา ระยะทางจากด่านถึงเมืองหงสาประมาณ 40 กิโลเมตร แต่ใช้เวลาทั้งหมดจากน่านไปถึงเมืองหงสาประมาณ 4 ถึง 4.30 ชั่วโมง แบบไม่มีอะไรติดขัดนะ
สองข้างทางจากน่านไปถึงด่านห้วยโก๋นนั้น คนที่ชอบภูเขาและธรรมชาติจะตื่นตาตื่นใจ เพราะจะเห็นต้นไม้ ป่า พืชเศรษฐกิจของชาวบ้าน วิถีชีวิต และถนนหนทางที่สะดวกสบาย ตรงข้ามจากด่านน้ำเงินของลาวไปเมืองเงินไปเมืองหงสานั้น แม้ธรรมชาติป่าจะดีกว่าฝั่งไทยแต่สภาพถนนนั้นมีแต่ลูกรังและถนนอยู่บนยอดภูเขา ไหล่เขา ทั้งสิ้น แต่ก็สวยงามไปอีกแบบหนึ่งครับ
ด่านชายแดนเหงาๆ: ที่ด่านห้วยโก๋น สภาพเงียบเหงา ไม่โอ่อ่าฟู่ฟ่าเหมือนด่านมุกดาหาร-สะหวันนะเขต มีร้านค้าสองสามร้าน เป็นร้านที่ขายของกินของใช้ที่จำเป็น และร้านอาหารหนึ่งร้าน ช่วงที่เราเดินทางนั้นมีเพียงเราสามคนเท่านั้นที่ข้ามผ่านแดน เจ้าหน้าที่นั่งตบยุงทั้งวัน เพื่อนผู้ร่วมเดินทางจัดการเอา Passport ไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่ แล้วเราก็นั่งกินข้าวกลางวันกันที่นั่นแล้วจึงเดินทางต่อไปโดยขออนุญาตนายด่านเอารถไปส่งเราที่ด่านฝั่งลาวอีกประมาณ 100 เมตร
ตื่นเต้นอ่ะ: ที่ด่านน้ำเงินฝั่งลาวนี้มีเรื่องให้ตื่นเต้น คือ นายด่านไม่อนุญาตให้เราเข้าไปเพราะไม่มี Visa เอาแล้วซี.... เราต้องนั่งโคนต้นพิกุลที่เห็นนั่น(รูปล่าง)ประมาณสองชั่วโมง รอให้เจ้าหน้าที่บริษัทเจรจา จัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อยก่อน ในฐานะที่เราไม่เคยผ่านด่านนี้ก็ลุ้น เพื่อนร่วมทางก็วางแผนขณะที่รอการเจรจาว่ามี 2 หนทางที่แก้ไขหากไม่สามารถผ่านด่านนี้ได้ คือ เดินทางกลับไปน่านแล้วต่อไปเชียงใหม่นั่งเครื่องบินไปหลวงพระบางแล้วนั่งเรือเร็วในแม่น้ำโขงประมาณ 3 ชั่วโมงขึ้นมาถึงท่าส่วง แล้วนั่งรถมาเมืองหงสา(อะไรจะอ้อมโลกขนาดนั้น..) อีกทางคือนั่งรถไปน่าน ไปชียงราย ไป อ.เชียงของแล้วนั่งเรืออีก 6 ชั่วโมงล่องแม่น้ำโขงมาบ้านท่าส่วง แล้วนั่งรถมาเมืองหงสา แต่ไม่สนุกสักเส้นทางเพราะกินเวลามากมาย และจะทำให้โปรแกรมการฝึกอบรมต้องเสียหายไปด้วย
ทำไมไม่ทำ Visa : ขอไม่อธิบายนะครับเป็นเหตุผลเฉพาะ
ได้เฮ: เมื่อเรานั่งตื่นเต้นอยู่ 2 ชั่วโมงการเจรจาบรรลุผลอนุญาตให้ผ่านได้ แต่ต้องมีคนค้ำประกัน.....เฮ.... เมื่อเราเดินทางต่อ แม้จะนั่งหน้ารถแต่ไม่สามารถจะถ่ายรูปได้เลย เพราะทางขรุขระโยกไปโยกมาตลอด แม้วิว ทิวทัศน์จะสวยงามแต่ก็ไม่อยากรบกวนพนักงานขับรถให้หยุดเพื่อถ่ายรูป.. แท้ในใจอยากจะหยุดรถหลายต่อหลายครั้ง.... เส้นทางบนยอดเขานั้น ธรรมชาติในช่วงฤดูฝนสดชื่นมาก เขียวขจีไปหมด ไม่รู้ว่าในช่วงฤดูแล้งจะมีไฟป่าเหมือนบ้านเราหรือไม่... .
เราผ่านเมืองเงิน และในที่สุดพนักงานขับรถดูนาฬิกาแล้วบอกว่าพอมีเวลา จะพาไปวนดูเมืองเงินซะหน่อย (ค่อยเล่าทีหลัง)
ผมทำงานในพื้นที่ชนบทมาตลอดชีวิต ก็ได้คิดไปต่างๆนานาเมื่อเดินทางในทริปนี้
สิ่งที่คิดส่วนหนึ่ง: การได้มาน่านในวันข้างหน้า แล้วเลยไปหงสา คิดว่าต้องหาเวลามาเที่ยวในสถานที่หลายๆแห่งดังนี้
· เส้นทางก่อนไปหงสา ควรเที่ยวจังหวัดน่านก่อน แค่มากราบพระเก้าวัดที่เมืองน่านก็คุ้มสุดคุ้มแล้ว มีวัดพระธาตุแช่แห้ง วัดพญาภู วัดภูมินทร์ วัดมิ่งเมือง วัดหัวข่วง วัดพระธาตุช้างค้ำ วัดสวนตาล วัดพญาวัด วัดพระธาตุเขาน้อย
· แค่ไปดูพิพิธภัณฑ์งาช้างดำ พิพิธภัณฑ์ผ้าพื้นบ้าน โบราณ ก็สุดคุ้มแล้ว
· แค่ไปดูดอกชมพูภูคาที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคา อ.ปัวเดือน กุมภา-มีนาก็คุ้มแล้ว
· ไม่ต้องนั่ง “ยนต์เหาะ” (เครื่องบิน) เอารถไปเที่ยวก็สนุกโขแล้ว
· น่านเป็นเมืองค่อนข้างปิด เพราะมิใช่เมืองผ่าน สภาพธรรมชาติ วิถีชีวิตยังเดิมๆอยู่มาก ใครที่ชอบแบบนี้ ไม่ผิดหวังครับ
· ยิ่งข้ามไปเมืองหงสา โอยคุณเอ๋ย ผมนึกถึงชนบทภาคเหนือของไทยเมื่อ 30 ปีที่ผ่านมาจริงๆ
· การเดินทางข้ามประเทศ แม้ใช้เวลาถึง 4 ชั่วโมง แต่ก็ชอบ สนุก และแปลกหูแปลกตาต่อธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ชีวิตเพื่อนร่วมโลกอีกซีกหนึ่ง
· คนเรานี่ก็ดิ้นรนจริงๆ ป่าเขาสูงชัน ไกลแหล่งความสะดวกสบาย ทำไมพากันมาอยู่ได้ ในป่าในเขาเช่นนี้
· คิดถึง bloggers ชาวเฮฮาศาสตร์ หากมาจัดเปลี่ยนบรรยากาศที่เมืองหงสา ตั้งแค้มป์เรียนรู้วิถีชีวิตเรียบง่ายของชาวหงสากันสักสองสามวันน่าจะดี โดยเฉพาะคนที่ชอบ “ลุยๆ”
· หากข้ามไปเมืองเงิน เมืองหงสาแล้ว เราไปหาคำตอบกันว่า ความพอเพียงคือระดับที่เหมาะสมของการดำรงชีวิต และเป็นทางออกของเป้าหมายการพัฒนาหรือไม่
· สน ม๊ะ....... หากสน..คุณเปลี่ยนเทหมดหน้าตักแน่ๆ..
หวัดดีน้องขจิต
หวัดดีครับน้องหมอเจ๊
เพิ่มนึกขึ้นได้น้องหมอเจ๊
สวัสดีเจ้าค่ะ ลุงบางทรายจ๋า
ลุงจ๋า สบายดีหรือเปล่าค่ะ น้องจิคิดถึงนะค่ะ ตอนนี้ลุงอยู่ที่ไหนค่ะ ลุงรักษาสุขภาพด้วยนะเจ้าค่ะ กอดๆๆๆ รักลุงค่ะ
เป็นกำลังใจให้เจ้าค่ะ คึดฮอดหลายๆเด้อจ้า ---->น้องจิ ^_^
เจ้าเก่ามาแล้ว แบบนี้แหละที่รอคอย อิอิอิ..
สวัสดีครับน้องสาว 7. dd_L
สวัสดีเด็กน้อย 8. โก๊ะจิจัง แซ่เฮ~natadee ที่สุดในแก๊ง
สวัสดีครับท่านครูบาครับ
สวัสดีครับอาจารย์ประจักษ์ครับ
สวัสดีครับ
แวะมาอ่านและทักทายครับ
เคยไปน่าน แต่ไม่เคยข้ามไปฝั่งโน้นเลย
น่าสนุกนะครับ
เสียดายที่ไม่ได้ถ่ายรูประหว่างทาง
สวัสดีครับอาจารย์ธวัชชัย
สวัสดีครับน้องสิงห์ 17. สิงห์ป่าสัก
อยากเห็นรูปถ่ายด้วยทำยังไงครับ
อ้ะ ไม่ทันสังเกตุภาพใหม่
พี่ท่าน บางทรายนี่เอง น้องก็ยังไม่เคยไปหงสาค่ะ
เคยได้ข่าวคราว นี่เป็นเส้นทางเปิดใหม่หรือเปล่าคะ
เห็นเส้นทางแล้ว ว้าว ชอบๆ มากๆ ค่ะ แต่ฮือๆ ...
จะลาได้ไหมคะเนี่ย หรือไม่ก็ต้อง ลาออกเลย 5 5
พี่ท่านบรรยาย แล้ว ผ่านเส้นทางงามๆ ทั้งนั้น
อยากเห็นรูปถ่ายด้วยทำยังไงครับ
รูปถ่ายเมืองหงษาหรือครับ มีมากมายครับ ไม่ทราบใช้วิธีไหนดี ผมเลยแนะนำเข้าไปดูบางส่วนที่นี่ครับ
http://gotoknow.org/blog/proiad/209268
http://gotoknow.org/blog/proiad/209914
ลองดูนะครับ
น้องปูครับ
เมืองหงสา อดีตนั้นเคยอยู่ใต้การปกครองของสยามพร้อมกับเมืองไชยบุรี หลวงพระบาง สภาพคล้ายนครพิงค์ เชียงใหม่ คือเป็นเมืองอยู่ในหุบเขา ห่างไกลความเจริญ เป็นเมืองปิด ปัจจุบันอาจเรียกกึ่งปิดกึ่งเปิด เพราะมีรถเข้าถึงแต่ยังลำบากอยู่ มีแผงรับคลื่นดาวเทียม ถนนหนทางมีฝุ่นกับโคลน ฝุ่นคือหน้าแล้ง โคลนคือหน้าฝน
แต่เมืองที่อยู่ในสภาพแบบนี้แหละ ทุนทางสังคมเพียบ วัฒนธรรม ประเพณียังเดิมๆ ใครที่ชอบชนบทแบบนี้หาโอกาสไปเถอะครับ
มีทางรถไปจาก น่าน ห้วยโกล๋น ด่านระหว่างประเทศ เมืองเงินและเมืองหงสา ได้ทราบว่ารัฐบาลกำลังมีนโยบายลงทุนโดย ADB พัฒนาถนน จาก หลวงพระบาง ไชยบุรี เมืองหงสา เมืองเงิน น่าน แต่คงอีกนานครับน้องปูครับ
คิดถึงน้องปู
ได้ข่าวมาว่ามีบริษัทเอกชนของไทยจะไปสร้างรงไฟฟ้าที่นั่นเหรอครับ
เป็นมายังไงพี่พอทราบไหมครับอยากรู้ เพราะถ้าธรรมชาติยังดีอยู่เสียดายที่จะไปทำลายมันนะครับ
ใช่ครับ บริษํทที่มีราคาหุ้นสูงที่สุดบริษัทหนึ่งของไทย ผมไม่ทราบรายละเอียดนะครับ เอาแค่พอรู้ก็แล้วกัน
ประเทศไทยในแต่ละปีมีปริมาณการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างมาก มากเท่าไหร่ไม่ทราบ...ครับ
แต่แหล่งผลิตกระแสไฟฟ้าของไทยจำกัดลงมากแล้ว มีบางแห่งสามารถสร้างเขื่อนทำหระแสไฟฟ้าได้ก็ไม่เหมาะสมกับสิ่งแวดล้อม จะเอาพลังนิวเครียเข้ามาก็มีแรงต้านมาก นักธุรกิจจึงไปสร้างโรงไฟฟ้าที่ลาวแล้วเอากระแสไฟฟ้าขายให้ไทย...จึงเกิดโครงการนี้ที่เมืองหงสา...เราไม่พูดว่าดีไม่ดีนะ..
ลาวมีโครงการสร้างเขื่อนหลายแห่งกั้นแม่น้ำโขงเลย และหากทุกอย่างเป็นไปตามนั้นลาวเขาเรียกตัวเองว่าเป็น "แบตเตอรรี่แห่งเอเซีย" เพราะจะขายให้ใครก็ได้ ทั้งไทย เวียตนาม จีน.... ทุกประเทศกำลังโตทางอุตสาหกรรม และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆจึงต้องการกระแสไฟฟ้าจำนวนมากดังกล่าวข้างต้น
สร้างแล้วทำลายสิ่งแวดล้อมไหม.... แน่นอนครับ นักก่อสร้างเขาก็ระมักระวังมากที่สุด พยายามหาทางทำอย่างไรจะกระทบสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด แต่สถานภาพประชาชนของลาวกับไทยต่างกัน ไทยนั้นเป็นเสรีประชาธิปไตย และกระบวนการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมนั้นเติบโตมาก ส่วนลาวนั้นเป็นระบบเผ็ดการคอมมิวนิสต์ ประชาชนไม่มีสิทธิ์หือ รัฐสั่งได้ทุกอย่างแม้จะมีประชาชนจำนวนหนึ่งไม่เห็นด้วยแต่กระบวนการต่อต้านนั้นไม่เข้มแข็งเหมือนบ้านเรา..
อนาคตเรื่องการหากระแสไฟฟ้ามาใช้นั้นเป็นปัญหาที่ยิ่งใหญ่ ตราบใดที่เราไม่ประหยัด นักวิชาการจำนวนหนึ่งจึงพยายามหาทางออกดดยหาพลังงานทดแทนไงครับ แกสโซฮอล พลังลม พลังน้ำขนาดย่อม พลังแสงอาทิตย์ ฯ ซึ่งมีงานวิจัยพัฒนาในมหาวิทบยาลัยมากมายที่กำลังทำเรื่องนี้ การพัฒนาพืชเป็นพืชพลังงานก็น่าสนใจ แม้เร็วๆนี้ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ก็คิดหมักต้นข้าวโพด และมันสำปะหลังให้เป็นก๊าซมีเทน และอนาคตหากผลิตได้มากๆก็เอาไปปั่นเป็นกระแสไฟฟ้า นี่ก็เป็ยนทางออกในอนาคต เพียงแต่งว่าประสิทธิภาพการผลิตยังไม่สูงพอ เรารอพวกเราประหยัด และเร่งศึกษาค้นคว้าพลังงานทดแทนเพื่อการพึ่งตนเองครับ...
ขอบคุุณคร้าบบ......ได้ความรู้เยอะเลย
คนไทยเรานี่จิรงๆเลย อีกหน่อยต้องซื้อไฟเพื่อบ้านใช้แล้ว ต้องช่วยกันประหยัดไฟครับ และจริงจังด้วย
ด้วยความยินดีแลกเปลี่ยนครับคุณไม่แสดงตน
ลองคิดสักนิดว่าเมื่อวิถีชีวิตเราไปพึ่งกระแสไฟฟ้าทั้งวันทั้งคืน แล้ววันหนึ่งไฟฟ้าน้อย หรือหมด หรือแพงมหาโหด วิถีเราจะเป็นอย่างไร เราจะกลับไปใช้ตะเกียง ก่อฟืนหุงข้าวเหมือนเมื่อ 50 ปีที่ผ่านมา คนชนบทจะหัวเราะใส่คนเมืองที่ปรับตัวไม่ได้
หากวันนี้เราไม่แก้ปัญหาวิถีการใช้กระแสไฟ วันข้างหน้าเราก็จะตกอยู่ในสภาพเช่นนั้น
หนึ่ง จำนวนประชากรมากเกินไป
สอง สิ่งที่เราผลิตขึ้นมาล้วนต้องใช้กระแสไฟ
สาม เราคิดสร้างสรรค์พลังงานทดแทนไม่ทันกับปริมาณน้ำมันที่จะหมดโลก
สี่ นิสัยของคนเราที่ใช้กระแสไฟจนติด เคยชิน ไปจนถึงละเลยการประหยัด
ช่วยกันประหยัดและคิดอ่านหาทางใช้พลังงานทดแทนเป็นหนทางเแพาะหน้าของเราครับ
ยากทำธุระกิจประเทศสาวยานหลวงพระบางทำอะไรตอบด้วยครับใครมีความรู้ไปเที่ยวบ่อยน่าลงทุนอะไร
สวัสดีค่ะลุงบางทราย ดิฉันเป็นสมาชิกใหม่ ขอแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้วยคนนะคะ
อยากไปเที่ยวเมืองลาวจังเลย บ้านพี่เมืองน้องของไทยเรา ขอบคุณสำหรับข้อมูลดี ๆ นะคะ
สวัสดีครับคุณศุภชัย
ผมเรียนตรงๆว่าผมไม่มีความรู้เรื่องธุรกิจเลยแม้แต่นิดหน่อย แต่
ผมพบน้องคนหนึ่งจากเชียงใหม่ไปขายสินค้าในตลาดกลางคืน เหมือน ไนท์บาร์ซาร์ที่เชียงใหม่ ขายดีครับ
เนื่องจากหลวงพระบางเป็นเมืองมรดกโลก คงต้องปรึกษากับท่านผู้รู้ว่ามีข้อห้ามอะไรบ้างครับ
สวัสดีครับเกศศิรินครับ ด้วยความยินดีครับ
ว่าจะพา นศ.สสสส ไปเมืองเงิน และหงสา ถ้าจะยากเพราะเส้นทางลำบาก
เรียนลุงเอกครับ ถนนกำลังก่อสร้างครับ หากจะเป็นปีหน้าจะสดวกกว่าปีนี้ครับเพราะถนนคงสร้างเสร็จแล้วครับ และการโยกย้ายหมู่บ้านที่เหมืองแร่ไปกระทบก็โยกย้ายแล้ว ทำกิจกรรมเพื่อการดำรงชีพแล้ว ก็เหมาะกว่าปีนี้ที่กำลังโยกย้ายครับ ลักษณะเหมืองก็คงก้าวหน้าไปมาก แล้วนะครับ
หากต้องการดูเรื่องความขัดแย้งอีกแห่งหนึ่งคือ เหมืองแม่เมาะลำปางครับ ผมก็มีส่วนบ้างในด้านบริษัทที่ปรึกษาที่เข้าไปดำเนินการทำ Public scoping หรือ Public participation ตามกฏหมายครับ
ต้องขออภัยลุงเอก ที่ไม่ได้ตอบทันที เพราะกลับมาจากหงสาก็เป็นหวัดแรงเลยครับ