เมื่อวันที่ 20-22
มีนาคม 2549 มหาชีวลัย ได้ต้อนรับ
คณะผู้บริหารในเครือปูนซีเมนต์ไทย จำนวน 35 ท่าน การที่คณะผู้บริหารชุดนี้ได้ลงมาสัมผัสกับ
วิถีชีวิตในระดับรากหญ้า พบกับตัวจริง / พื้นที่จริง /
กิจกรรมที่ทำจริง / และปัญหาที่เกิดขึ้นจริง
ซึ่งนับว่าเป็นปัญหาที่เป็นมรดกของชาติ โดยแบ่งกลุ่มออกเป็น
6 กลุ่มๆ ละ 5 ท่าน
พื้นที่ ๆ ผู้สำรวจเลือกในครั้งนี้มีทั้งหมด 6 จุด คือ
1.
นางสาวพัทยา
เพียพยัคฆ์
บัณฑิตคืนถิ่น
2.
พ่อทอง
ศรีธรรมมา คันนาเงินหมื่น
( บ้านแก้จน คนสู้งาน )
3.
พ่อวิจิต
จันทรานุวงศ์ หมูกู้อีจู้ ( โรงแรงหมู
)
4. พ่อกว้าง
สุวรรทา
เกษตรกรนักประดิษฐ์
5. อาจารย์เจิด
ภูมิกระจ่าง
คันนาแก้จน – ปั้นดินให้เป็นดาว
6. อาจารย์สมาน
บุบผา
ครูผีบ้า
1. ศึกษาข้อมูล /
กิจกรรมพี้นฐาน
“ โจทย์ชีวิตจริง ตัวจริง เสียงจริง “
2.
ศึกษากระบวนการทำงาน
“ ดิ้นรน ดิ้นดับ หรือดิ้นได้ ต้องทำอย่างไร”
3.มุมที่เห็นควรพัฒนา/ยกระดับ“
ฉุกคิดในกรณีที่สังคมชนบทประสบปัญหาทั้งระบบจะทำอย่างไร”
4
ประมวลประเด็นในเชิงบริหาร
“ ข้อคิดเห็น ข้อชี้แนะเบื้องต้น”
“ ตั้งสมมุติฐานถ้าเป็นท่านจะแก้ปัญหานี้อย่างไร”
โดยมีประเด็น คือ
20 มี.ค. 49 สอดส่องให้รู้ /
ใคร่รู้ ใคร่เห็น
การจัดการความรู้เครือข่ายระดับชุมชน
นวัตกรรมความรู้ระดับชุมชน
Project Assignmint
การถอดรหัสความรู้
Reflection
21 มี.ค. 49 ทำให้รู้
ดูให้เป็น
Reality Workshop
เรียนรู้แนวทางการแก้ไขปัญหา
การสร้าง Solution
Group Activity
Show & Share
Reflection
22 มี.ค. 49 ทำให้ได้
ทำให้เป็น
Learning
Point
การประยุกต์ใช้ความรู้กับชีวิตจริง
การประยุกต์ใช้สำหรับการเป็น BU
Innovation Facilitator
หลังจากการลงพื้นที่แล้วนั้นสิ่งที่คณะนี้ได้เรียนรู้และได้สัมผัสกับตัวจริงในพื้นที่จริงทำให้แต่ละท่านนั้นเห็นแล้วอดที่จะคันไม่ได้
และสิ่งที่ทำได้ในระยะเวลาที่มีอยู่น้อยกับสิ่งที่ได้เรียนรู้ที่อยู่ไม่น้อยเหมือนเวลานั้น
คือ ตีโจทย์ให้แตกและ ให้ข้อเสนอแนะ ข้อคิดเห็นได้ระดมความคิดรอบ
midnight
โดยเจ้าของพื้นที่ในแต่ละจุดและหัวหน้าฐานได้มาร่วมรับฟังและรับข้อเสนอแนะแง้คิด
ในมุมของของนักธุรกิจ การที่ คณะปูนซีเมนต์ไทย
มาในครั้งนี้ได้ให้ประโยชน์อันใหญ่หลวงสำหรับเราชาว KM บุรีรัมย์
คือได้เรียนรู้ถึงการวางระบบงาน / การวิเคราะห์ปัญหา /
การสร้างแนวทางในการแก้ปัญหา ฯลฯ
และสิ่งที่ทุกคนที่นี้ได้รับกันอย่างเต็มอิ่มคือ
การที่ได้มีผู้ที่ให้ความสนใจและอยากที่จะพัฒนาเพื่อแนวความคิด
และสิ่งที่เราทำอยู่นั้นให้เกิดความก้าวหน้า
และเราทุกคนคิดว่าเป็นเสมือนญาติของเรา ดังคำกล่าวของพ่อวิจิต
(หัวหน้าฐานการเรียนรู้บ้านหายโศก 1 ) ที่ว่า “
คนทั้งชาติคือญาติ KM “