ประสบการณ์ในอเมริกา ของ ธนากร สาน้อยกุล ตอนที่ ๓


แบกไม่ไหว

สวัสดีครับ ประสบการณ์ในอเมริกา ตอนที่ ๓ มาแล้วครับ.......ผมจะเล่าต่อเลยนะครับ...หลังจากที่ผมทนแบกแผ่นมุงหลังคาบ้าน ได้เพียงไม่กี่สัปดาห์ผมก็โบกมือลา จะทำต่อไปได้ยังไงล่ะครับ ตั้งแต่เกิดมาในชีวิตนี้ ไม่เค้ย ไม่เคยทำงานหนักแบบนี้มาก่อน เอาล่ะครับเมื่อไม่ยอมทนแบกของหนักๆ แล้วจะทำอะไร จะไปขอข้าววัดกินเหมือนเมืองไทย หรือจะหนีกลับไปหลบเลียแผลอยู่เมืองไทย โอ๊ย..อายหมามันแย่ซีครับ มาถึงอเมริกาแล้วก็ต้องสู้ต่อ หางานใหม่ทำครับ งานหลักของคนไทยที่คิดจะมาสร้างเนื้อสร้างตัวหรือทำงานหาเงินในอเมริกา เมื่อมาถึงแรกๆยังไม่มีใบอนุญาตทำงาน ก็หนีไม่พ้นงานครัวในร้านอาหารไทยหรอกครับ ผมก็เหมือนกันเมื่อมาถึง ใบอนุญาตให้ทำงานเต็มเวลายังไม่มี จะไปหางานที่ไหนได้ล่ะครับ ผมเปิดหนังสือพิมพ์ไทยในอเมริกาที่มีโฆษณาหาคนงาน ดูมันทุกฉบับล่ะครับหนังสือพิมพ์ไทยฉบับไหนที่ตีพิมพ์ ในมหานครลอส แองเจลิส เป็นไม่พ้นสายตาผม ก็เล่นแจกฟรีนี่ครับผมก็หยิบมันทุกฉบับ งานในครัวร้านอาหารไทยส่วนใหญ่ถึงไม่มีใบอนูญาตทำงานเขาก็ให้ทำครับ เพราะมันไม่มีทางเลือก จะไปหาคนมีใบอนุญาตทำงานได้จากที่ไหน เพราะคนไทยส่วนใหญ่เข้าอเมริกาด้วยวีซ่า ท่องเที่ยว แล้วก็ถือโอกาสหนีมันซะเลย แม้แต่คนที่ตั้งใจมาเรียนหนังสืออย่างผมและเพื่อนๆที่ได้วีซ่านักเรียน ก็หนีกันเยอะแยะครับ เพราะหาเงินเรียนไม่ทัน พ่อแม่ทางบ้านก็ใช่ว่าจะรวย แล้วจะเอาเงินที่ไหนเกือบหมื่นดอลล่าร์ มาเสียค่าเทอม ผมต้องหาเงินก่อนล่ะครับเรื่องเรียนใส่ลิ้นชักไว้ก่อน เมื่อผมลาโรงจากงานเดิม ก็มาได้งานใหม่ในครัวร้านอาหารไทยแห่งหนึ่ง ชื่อร้านเป็นภาษาอังกฤษแปลเป็นไทยได้ว่า สวรรค์ของไทย เจ้าของร้านเป็นคนมีชื่อเสียงพอสมควร ในสังคมไทย ลอส แองเจลิส ตกลงค่าจ้างกัน ผมได้วันละ ๖๐ ดอลล่าร์ มากกว่าตอนเป็นช่างซ่อมหลังคานิดหน่อย ใหม่ๆเจ้าของร้านก็ไม่กล้าให้ผมทำอาหารออกไปหรอกครับ เจ้าของร้านเขากลัวเจ๊ง แขกหนีไปร้านอื่นกันหมด อันนี้จริงๆนะครับผมไม่ได้เขียนให้คนอ่านตลกขบขันเล่นๆ คนงานใหม่ทุกคนที่เพิ่งมาจากเมืองไทย ไม่มีทางที่เจ้าของร้านอาหารไทยในอเมริกาจะยอมให้ทำอาหารออกไป แม้แต่ญาติสนิทหรือเป็นลูกแท้ๆ เขายังไม่ยอมครับ หน้าที่โดยหลักๆของผมก็คือ ช่วยเขาหั่นผัก หั่นไก่หั่นเนื้อ หยิบโน่น หยิบนี่ แล้วแต่เขาจะสั่ง เสร็จแล้วก็ช่วยเขาทำความสะอาดเมื่อถึงเวลาร้านปิด จริงๆแล้วงานในครัวร้านอาหารไทยนี่เป็นงานที่หยุมหยิม น่าเบื่อหน่าย บางคนทำได้อาทิตย์เดียวก็ขอลาออก บางคนทำได้สามวันก็ไป แต่บางคนความอดทนมีขีดจำกัดทำแค่วันเดียวก็โบกมือลา บางคนรับเงินเสร็จก็หนีไปดื้อๆ ปล่อยให้เจ้าของร้านแช่งชักหักกระดูกตามหลัง คนที่ทนทำได้นานๆก็คือคนที่ตั้งใจมาทำงานเก็บเงินส่งกลับบ้านจริงๆและต้องเป็นคนที่ไม่มีทางเลือก ไม่มีใบอนุญาตทำงานหรือพูดภาษาอังกฤษได้แค่ เยส กับ โน เท่านั้น ส่วนคนที่พอจะมีทางไปอยู่บ้างอย่างผม ทนได้ไม่กี่มากน้อยหรอกครับ แต่ในเมื่อใบอนุญาตทำงานที่กำลังเดินเรื่องยังไม่เสร็จเรียบร้อยดีก็ต้องทนทำงานครัวต่อไปล่ะครับ วิธีการของผมก็คือย้ายร้านหางานใหม่ ถ้าเกิดความรู้สึกว่าไม่สามารถทนอยู่ร้านเดิมต่อไปได้อีกแล้ว หลายต่อหลายคนก็ใช้วิธีแบบเดียวกันกับผมนี่แหละครับ ก็ในเมื่อภูมิหลังของแต่ละคนที่ไม่สามารถทนทำงานในครัวได้ ต่างก็ถือว่าตัวเองดีตัวเองเด่นสมัยเมื่ออยู่เมืองไทย บางคนเรียนมาสูงๆจบปริญญาโททำงานดีๆ เป็นระดับหัวหน้า เป็นข้าราชการระดับใหญ่ๆ แต่มีเหตุให้ต้องมาตายเอาดาบหน้าในอเมริกา เมื่อมาถึงอเมริกาเข้าทำงานในครัวทั้งถูกสับ ถูกโขก สารพัด ก็เกิดความรู้สึกรับไม่ได้ บางคนที่เป็นผู้หญิงทำงานไปร้องให้ไปก็มีครับ จะหนีกลับเมืองไทยก็กลับไม่ได้ต้องทนทำงานต่อไป สำหรับผมเมื่อออกมาจากร้าน สวรรค์ของไทย ก็ไปอีกหลายร้านครับ ได้เห็นวิถีชีวิตของคนไทยมากมาย ที่จากบ้านจากเมืองอันแสนจะอบอุ่นมาหางานทำในอเมริกา........ตอนต่อไปผมจะเล่าถึงสิ่งที่ผมได้เห็นมานะครับว่า ผมไปเจออะไรมาบ้าง>>>>แล้วพบกันตอนต่อไปครับ

คำสำคัญ (Tags): #ทนไม่ได้
หมายเลขบันทึก: 203792เขียนเมื่อ 27 สิงหาคม 2008 12:43 น. ()แก้ไขเมื่อ 9 มิถุนายน 2012 14:31 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)
  • มารออ่านต่อครับ
  • สนุกดี
  • ขอชื่นชมว่ามีความอดทนมากๆๆๆ
  • ลองพิมพ์ใน word
  • ใช้อักษร Tahoma นะครับ
  • ประมาณ 14-16 point
  • จัดตัวอักษร
  • เว้นย่อหน้า
  •  copy มาวางใน gotoknow
  • จะน่าอ่านมากครับ
  • ขอบคุณมากครับ

ขอบคุณอาจารย์มากเลยครับที่ให้คำแนะนำ ผมจะปรับปรุงตัวหนังสือให้น่าอ่านมากขึ้นในครั้งต่อไปครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท