Einstein เคยพูดไว้ว่า
"Peace cannot be kept by force. It can only be achieved by understanding"
(สันติภาพ ไม่มีทางได้มาจากความรุนแรงที่ปราศจากความเข้าใจ)
แม้นี่เป็นคำพูดที่เน้นเรื่องของสันติภาพโดยรวม แต่ผมกลับรู้สึกว่าคำพูดนี้ของ Einstein สามารถประยุกต์ใช้เพื่ออธิบายเหตุการณ์ของประเทศไทยได้เป็นอย่างดี ... ในความคิดของผม Einstein นอกจากจะเป็นนักฟิสิกส์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งแล้ว เขายังเป็นนักปรัชญาระดับปรมาจารย์อีกด้วย คำพูดคมๆของเขาบางประโยค สามารถอธิบายปรากฏการณ์ในชีวิตได้เป็นอย่างดี
ผมจะลองวิเคราะห์คำพูดนี้เทียบกับสถานการณ์ปัจจุบัน (และอดีต) ดูนะครับ
สรุปแล้วนะครับ ในความเห็นของผมเอง สิ่งที่รัฐบาลทำอยู่ก็ดี สิ่งที่พันธมิตรทำอยู่ก็ดี ล้วนแต่เป็นประชาธิปไตยที่ไม่ยั่งยืืน และก่อให้เกิดความแตกแยก รัฐบาลแม้จะผ่านการเลือกตั้งชนะมา แต่ไม่สามารถได้ความเชื่อใจจากประชาชนบางกลุ่มได้ และการเริ่มดึงดันแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยไม่ชี้แจงสาเหตุให้ชัดเจนเสียก่อน ทำให้ประชาชนเกิดความสงสัย .... ผมคาดว่าหากรัฐบาลมีการแสดงให้เห็นถึงการศึกษาผลกระทบการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก่อนที่จะประกาศว่าต้องการแก้ไข ผู้คนคงยอมรับได้มากกว่านี้ (แม้ตัวผมเองไม่ชอบรัฐธรรมนูญฉบับนี้นัก ผมยังเคลือบแคลงสงสัยสิ่งที่รัฐบาลต้องการทำ)
ส่วนสิ่งที่พันธมิตรทำอยู่ที่หวังผล "ชัยชนะ" โดยใช้กำลังเข้าผลักดัน แม้เขาชนะจริงๆ วัฎจักรเดิมๆก็จะกลับมาหลอกหลอนพวกเขาอีก เพราะในระบอบประชาธิปไตยนั้น "กำลัง" ที่เคยใช้ได้ผลในสมัยก่อน มันใช้ไม่ได้อีกแล้ว .... การรัฐประหารที่ผ่านมาก็เป็นบทเรียนที่เห็นได้ัชัด
ผมเองเคยแอบคาดหวังนิดๆกับ "การเมืองใหม่" ของพันธมิตร ว่าอาจจะออกมาในรูปแบบที่ดี เป็นการเมืองที่เน้นการให้ความเข้าใจกับประชาชน เป็นการเมืองที่สนับสนุนการมองสถานการณ์จากทั้งสองด้าน แต่มาถึงตอนนี้แล้ว คงไม่ได้ออกมาเป็นแบบนั้นเสียแล้ว
ผมได้แต่คาดหวังว่า "การเมืองใหม่" ที่แท้จริง ที่เป็นการเมืองของ "ความเข้าใจ" จะมาเผยโฉมให้พวกเราได้เห็นสักวัน
สวัสดีค่ะ
เป็นเหมือนครูอ้อย ไหมคะ การเมืองของเรานี่
สวัสดีค่ะ
* สร้างความคาดหวังไว้สูง
* เมื่อผิดหวังตกจากที่สูง
* เมื่อรู้สึกเจ็บก็หงุดหงิด
* จนพาลโกรธ
* แรงดึงดูดของโลก
สวัสดีครับ,
ผมผิดหวังกับทั้งสองฝ่ายสองขั้วเลยล่ะครับ ฝ่ายหนึ่งหวังพึ่งแต่กำลัง ยั่วยุการรัฐประหาร อีกฝ่ายไม่ค่อยพยายามทำความเข้าใจกับประชาชน ทั้งสองฝ่ายต่างเดินเกมในทิศทางที่ออกห่างจาก "การปรับความเข้าใจ"
ผมเลยนั่งอยู่บ้านเฉยๆเขียนด่ามันทั้งสองฝ่ายนี่แหละครับ สนุกดี ไม่เครียด :)
สวัสดีครับ
ขอเข้ามาศึกษาแนวคิดที่ดีๆ ครับ
อ่านแล้วคงต้องขออนุญาตนำไปอ้างอิง
ขอบคุณครับ
สวัสดีครับ คุณ small man,
ขอบคุณครับที่สนใจ นำไปใช้ได้ตามสบายเลยครับ :)
สวัสดีครับครูโย่ง,
ตามความเห็นของผมนะครับ ประโยคนี้ประโยคเดียวของ Einstein นี่ทำให้ผมจัดแกเป็นนักปรัชญาได้เลยนะครับ ระดับน้องๆโสเครติสเลยครับ (นี่ก็เวอร์ไปหน่อย :P )
แต่ความหมายมันลึกซึ้งมาก และเหมาะกับ "ประชาธิปไตย" เป็นอย่างดี
ขอบคุณครับที่เข้ามาเยี่ยม
สวัสดีครับคุณ naree,
ผมดีใจนะครับ ที่มีหลายท่านเห็นด้วยกับผมที่ว่า ความสงบสุขที่ยั่งยืนต้องเริ่มจากความเข้าใจ ...