ยิ้มกับเพื่อน


ดูแลสุขภาพนะ

          มีเพื่อนสนิทกันอยู่สามคน คือ ตู่ กบ ดำ ไปไหนมาไหนด้วยกัน และมีเรื่องสนุก ๆ มาเล่ากันฟังอยู่เสมอ ไอ้ตู่แอบมากระซิบในเช้าวันหนึ่งก่อนเข้าเรียนวิชาแรก “เมื่อเย็นวานกูไปซื้อสมุดร้านเจ๊กเฮง ได้ดินสอแถมหนึ่งแท่ง”  มันหยิบขึ้นมาอวด แต่พวกเรารู้ว่าไม่จริง ไอ้ตู่พูดว่า “มึงเดาเก่ง แกไม่ได้แถมหรอก แต่กูแอบจิ๊กมาเฉย ๆ” พวกเราอุทานว่า “บ้าชิบ...แล้วแกไม่เห็นรึไง”  “มือชั้นนี้แล้ว”  ไอ้ตู่ยกนิ้วโป้งชี้เข้าหาอกตัวเองอย่างหยิ่ง ๆ กบเห็นอย่างนั้นจึงบอกว่าอยากลองบ้าง ด.ช. ตู่บอกว่าจะช่วย แล้วหันมาถามดำ ซึ่งเป็นคนไม่กล้าทำผิด เพราะพ่อแม่สอนอยู่เป็นประจำ แต่เพราะกลัวเพื่อนจะเห็นว่าเป็นคนขี้ขลาด จึงรับว่าไปด้วยแต่จะอยู่ข้างนอกเท่านั้น
          ทั้งสามก็ไปที่ร้าน ตู่กับกบเข้าไปในร้าน โดยที่ตู่เป็นฝ่ายเข้าไปเจรจาพูดคุยดึงความสนใจเจ้าของร้าน สักพักทั้งสองก็เดินออกมา สิ่งที่กบหยิบมาคือยางลบ อันที่จริงทั้งสามคนมีสิ่งเหล่านี้อยู่แล้ว เพราะฐานะทางบ้านก็ดี ฝ่ายดำซึ่งโดนเพื่อนทั้งสองดูถูกว่าเป็นคนขี้ขลาดก็โผล่เข้ามาในร้าน สมองไวเท่าทันความคิดมือจึงหยิบเอาโปรแทกเตอร์ซ่อนในสมุด ใจเต้นเหมือนตีกลองเดินไปจ่ายเงิน แต่ใบหน้าซีดขาวและมือสั่นน้อย ๆ เจ้าของร้านมองดูอย่างผิดสังเกต ขณะที่กำลังจะเดินออกจากร้านไม้โปรแทกเตอร์ก็หล่นลง “เดี๋ยว...อาดำ ลื้อทำไม้โปรตก ลื้อจ่ายเงินค่าไม้โปรแล้วหรือยัง “ดำตกใจตัวสั่น” พูดว่า “อ้อ....ผมลืมไป นี่ค่าไม้โปรครับ”  แต่ก่อนที่ดำจะเดินออกจากร้าน เจ้าของร้านที่คนอื่นว่าเป็นคนขี้เหนียวก็ได้พูดกับดำว่า “ลี้อก็มีเงินนี่อาดำ ทำไมทำอย่างนี้ อั๊วนึกว่าลี้อไม่ได้เอาเงินมา ติดไว้ก่อนก็ได้ ดำเงียบ “เกียรติยศชื่อเสียงของลื้อมีราคาเพียงสองบาท เท่านั้นรึ ถ้าคนอื่นรู้เรื่อง ลี้อจะมองเขาได้ยังไง ลื้ออย่าไปเอาอย่างไอ้เพื่อนสองคนนั้น อั๊วรู้...แต่ไม่อยากให้มันอายต่อหน้าคนมาก ๆ เชื่ออั๊วเถอะมันไม่ใช่ความกล้าหาญ ไม่ใช่ความเป็นลูกผู้ชายอย่างที่ลื้อคิด ลื้อต้องกล้าหาญที่จะเอาชนะใจใฝ่ต่ำในตัวเอง เอาเถอะอั๊วจะไม่บอกให้ใครรู้...เอ้าเอาไม้โปรไป อั๊วให้ลื้อเป็นเครื่องสอนใจ” ดำเดินออกมาจากร้านไปยืนอยู่ที่สะพานด้วยใจระทึก นึกย้อนเหตุการณ์ สมองอึงอลไปด้วยคำพูดของเจ๊กเฮง คนที่ใคร ๆ หาว่าแกขี้เหนียว ดำเพิ่งรู้เดี๋ยวนี้ว่า ในใจของแกนั้นเปี่ยมล้นด้วยคุณธรรม ถ้าแกเอะอะโวยวายเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน พ่อแม่ของเขา ครูของเขาจะเสียใจแค่ไหน
          มันเป็นวินาทีพลิกชีวิตอย่างแท้จริง พลิกชีวิตจากความคิดชั่วร้ายมาสู่ชีวิตที่ซื่อสัตย์ดีงาม เขาจึงบอกตัวเองว่าจะไม่ทำผิดซ้ำอีก และจะให้อภัยเด็กทุกคนที่ก้าวพลาดอย่างไม่ตั้งใจเหมือนอย่างที่เขาพลาดมาแล้ว พร้อมกับหยิบไม้โปรแทกเตอร์ขึ้นมาเหวี่ยงมันลงพื้นน้ำที่ใส และเรียบสนิทใต้ราวสะพาน
หมายเลขบันทึก: 202767เขียนเมื่อ 22 สิงหาคม 2008 21:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 01:42 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

การให้โอกาสคนเป็นสิ่งสำคัญมากๆ ผมได้รับโอกาสจากครูมาก่อนดังที่เคยเล่าในบันทึกเก่าๆ วันนี้จึงมาเป็นนักกฎหมายและให้โอกาสคนอยู่เรื่อย ถ้าไม่เหนือบ่ากว่าแรงก็จะให้โอกาส แต่ถ้าการกระทำไปสร้างความเดือดร้อนให้กับสังคมเขาจะต้องถูกสั่งสอนให้รู้จักความรับผิดชอบครับ

เรื่องที่อาจารย์เล่าดีมากๆ ขอนำไปใช้บรรยายให้นักเรียนฟังนะครับ

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆ

ไม่อนุญาตให้แสดงความเห็น
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท