คณะกรรมการชุดนี้ประชุมกันปีละ ๓ ครั้ง แต่มีการทำงานตลอดปีผ่านการสื่อสารกันทาง อี-เมล์ เป็นวิธีทำงานที่ไม่เป็นภาระมาก ผสมผสานไปกับงานอื่นๆ หรือวิถีชีวิตของกรรมการแต่ละคนอยู่แล้ว โดยมีระบบการจัดการคอยสนับสนุนและติดตามประสานงานโดยคุณผึ้ง ซึ่งก็ทำงานมา ๖ ปี มีความชำนาญขึ้นเรื่อยๆ นอกจากคุณผึ้งซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลฯ แล้ว กรรมการทั้ง ๑๕ คน (คนไทยล้วน) ทำงานถวายในหลวงโดยไม่ได้รับค่าตอบแทน แม้ค่าน้ำมันรถมาประชุมที่ศาลายา ก็ออกเอง
วันที่ ๑๓ ส.ค. ๕๑ เป็นการประชุมครั้งสุดท้ายของปี ๒๕๕๑ เพื่อคัดเลือกผู้มีผลงานเหมาะสม (short list) เสนอต่อคณะกรรมการรางวัลนานาชาติ (IAC) เราคัดออกมาได้ ๘ คน จากจำนวน ๔๙ รายที่ได้รับการเสนอชื่อ มอบหมายผู้เขียนคำเสนอ (recommendation) ต่อ IAC ซึ่งจะประชุมระหว่างวันที่ ๒๒ – ๒๔ ต.ค. ๕๑ ที่โรงแรมโอเรียนเตล
ผมเขียนรายละเอียดไม่ได้ เพราะต้องเก็บเป็นความลับ จะเปิดเผยต่อสาธารณะได้เมื่อคณะกรรมการมูลนิธิตัดสิน และแถลงข่าวโดยประธานคณะกรรมการประชาสัมพันธ์ คืออธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งคงจะแถลงได้ในเดือนพฤศจิกายน
นอกจากทำหน้าที่ให้คำปรึกษาหรือเสนอแนะเกี่ยวกับผู้สมควรได้รับรางวัล ปีนี้ SAC ยังทำหน้าที่สำคัญอีก ๒ อย่าง คือเสนอแนะผู้สมควรได้รับเชิญมาเป็น IAC เพิ่มเติม เพราะท่านหนึ่งคือ Prof. Lederberg เสียชีวิต เราเสนอ ๒ ชื่อและคณะกรรมการมูลนิธิเห็นด้วยทั้ง ๒ ชื่อ คือ Sir John Salston จากสหราชอาณาจักร กับ Dr Were จากอัฟริกา
อีกเรื่องหนึ่งคือ การเจรจาลู่ทางความร่วมมือกับ ทีมของ Grand Challenges Program ของ Bill & Melinda Gates Foundation การร่วมมือของ PMAF น่าจะเป็นเรื่อง PMAC เป็นสำคัญ
ชีวิตการทำงานแบบนี้ ให้การเรียนรู้มาก ได้ทำงานกับกลุ่มคนดีและเก่ง และได้ความสุขใจที่ได้ทำงานเล็กๆ ถวายในหลวง สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร์ฯ และสมเด็จพระเทพรัตน์ฯ
วิจารณ์ พานิช
๑๔ ส.ค. ๕๑
ขอเป็นกำลังใจกับการทำงานเผื่อแผ่นดินไทยค่ะ