เมื่อ 21 มีนาคม หลังจากประชุมคณะกรรมการมูลนิธิเสร็จแล้ว ก็มีการรับประทานอาหารร่วมกัน โดยผมเชิญน้องแพทย์ทุกคนมาร่วมรับประทานด้วยเพื่อจะได้รู้จักคุ้นเคยกับกรรมการพัฒนาและกรรมการมูลนิธิ โดยเป็นอาหารง่ายๆที่แม่ครัวโรงพยาบาลทำให้
มีการพูดคุยกันในหลายประเด็นเช่นการโยกย้ายที่น้อง 3 คนจะย้ายกลับบ้าน ซึ่งผมก็ได้ขอหมอศิวดลอยู่ส่งงานต่ออีก 2 สัปดาห์ก่อนย้ายเนื่องจากต้องส่งงานคลินิกการให้บริการผู้ปแวยที่ได้รับยาต้านไวรัสเอดสา ที่มีคนไข้ถึง 60 คน ไม่มีลดลงมีแต่เพิ่มขึ้น จนทำให้การให้บริการเริ่มช้าเนื่องจากเภสัชกรจ่ายยาไม่ทันเพราะต้องมีการให้คำแนะนำและคำอธิบายมาก รวมทั้งแพทย์เอง ก็ต้องตรวจคนไข้เยอะมากด้วย เราก็มีการคุยกันว่าจะให้พยาบาลในคลินิกช่วยดูแลคนไข้บางคนที่ไม่มีปัญหาได้อย่างไรบ้าง
อีกเรื่องที่เรมจะคุยกันเสมอก็คือบทเรียนจากความผิดพลาดของที่อื่นที่รับทราบอาจเป็นทางเพื่อนๆกรือทางสื่อมวลชน เราก็จะเอามาคุยกันเพื่อเป็นบทเรียนและข้อเตือนใจช่วยป้องกันไม่ให้ผิดพลาด เช่นที่เจอเรื่องบ่อยๆตามสื่อก็คือ มา 2 ครั้งแล้วได้นอนโรงพยาบาล พอมาครั้งที่ 3 ก็เป็นเรื่องใหญ่ไป เราก็มีข้อตกลงขององค์กรแพทย์ว่าถ้ามาครั้งที่ 2 ด้วยเรื่องเดิมให้รับผู้ป่วยไว้นอนโรงพยาบาลเพื่อสืบค้นและดูอาการ เป้นต้น
ทางหมอเสฐียรพงศ์ ประธานองค์กรแพทย์ก็ได้แจ้งเรื่องจากการประชุมคณะกรรมการบริหารในประเด็นที่เป็นข้อตกลงร่วงมทางวิชาชีพที่หากว่าวิชาชีพอื่นเห็นว่าถ้าทำตามคำสั่งแพทย์แล้วอาจมีปัญหาหรืออาจสั่งผิดพลาดไปก็สามารถพูดคุยทักท้วงกันได้ เพื่อให้สาขาวิชาชีพอื่นได้เย้ามาร่วมช่วยกันดูแลผู้ป่วย ซึ่งจะช่วยลดความผิดพลาด(ที่อาจเกิดขึ้น)ของแพทย์ลงได้ ซึ่งน้องๆแพทย์ทุกคนก็ยอมรับ
ไม่มีความเห็น