ขอพร ให้ทาน การอุทิศส่วนกุศล


                                                                                                                        ในยามเช้าตรู่ของทุกวันหลังจากทำกิจวัตรก่อนรับอรุณเสร็จอาตมาก็
ได้ออกบิณฑบาตกับญาติโยมที่มีศรัทธาซึ่งเป็นกิจวัตรที่ได้ปฏิบัติมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่บวช จนถึงวันนี้เกือบจะสิบปีจะมีวันที่ไม่ได้บิณบาตบ้างในกรณีที่เกิดอาพาธ(ป่วย)ถึงขั้นไปไม่ไหวหรือในบางวันที่ฝนตกมากๆเพราะอาตมาไม่ใช้ร่มเวลาออกบิณฑบาต มีหลายครั้งที่เดินบิณฑบาตเปียกน้ำฝน ญาติโยมที่อยู่ตามบ้านเห็นพระเปียกฝนก็เป็นห่วงรีบหาร่มมาให้ด้วยคิดว่าจะเป็นไข้ไม่สบาย ก็อนุโมทนากับโยมที่มีเมตตาอาตมาทนได้และไม่ใช้ร่มเวลาออกบิณฑบาตโปรดสัตว์ ก็บอกโยมไปตามเหตุ
     ญาติโยมที่ใส่บาตรประจำก็จะใส่ด้วยอาหารมังสวิรัติ(ทำจากพืช ผักผลไม้ ข้าว ถั่ว งา)ส่วนโยมที่เวลาเจอพระตอนออกจากบ้านคิดอยากทำบุญใส่บาตรบางคนก็หาอาหารที่มีขายในร้านตามฟุตบาธที่แม่ค้ามาตั้งรถเข็นขาย หรือตามร้านอาหาร  เพราะสายบิณฑบาตที่ผ่านจะอยู่ใกล้ตลาดและชุมชนเมืองอาตมาพร้อมทั้งหมู่สงฆ์ที่ไปด้วยกันก็รับอาหารที่ฉันได้ ส่วนอาหารที่เป็นเนื้อสัตว์ ก็รับมาแล้วคืนโยมไปพร้อมทั้งบอกให้โยมได้ทราบ ว่าที่วัด เราไม่ได้ฉันเนื้อสัตว์มานานหลายปีแล้ว..จะเล่าไว้ที่นี่สักเล็กน้อย..ตั้งแต่หลวงพ่อ  ท่านเจ้าอาวาสมาตั้งวัดที่นี่ก็ รวม ๒๙ปี..แรกเริ่มก็ยังฉันเนื้อสัตว์กันอยู่พอครบสามปีหลวงพ่อท่านก็เปลี่ยน  มาเป็นอาหารมังสวิรัติซึ่งไม่ใช่เรื่องๆง่ายๆเลย ทั้งพระภิกษุสามเณรที่อยู่ร่วมกันและแม่ชี..และชาวบ้านต่างก็มีปฏิกิริยา ไม่เห็นด้วยบางท่าน บางคนก็แยกไปอยู่ที่อื่น ญาติโยมถึงขนาดรวมกันต่อต้านไม่เห็นด้วยกับหลวงพ่อและพระสงฆ์กลัวว่าจะพาญาติโยมเดินผิดทางของศาสนาพุทธแม้จนวันนี้ก็ยังมีผู้ที่ไม่เข้าใจอยู่เป็นจำนวนมากแต่ด้วยความเอาจริงเอาจังของพระสงฆ์ที่มีความเห็นถูกตรง(สัมมาทิฏฐิ)ด้วยการเคร่งครัดที่ตนผ่อนปรนผู้อื่นทำให้อุปสรรคผ่านพ้นไปด้วยดี  จนทุกวันนี้ก็มีญาติโยมหันมาปฏิบัติธรรม รักษาศีล ๕ลดเลิกอบายมุขทานมังสวิรัติตามได้หลายคน.. 

 




  ตอนเช้ามีโยมคนหนึ่งใส่บาตร พอเสร็จก็นั่งรอพอไม่เห็นพระ สวดภาษาบาลี (สัพพี ติโย วิวัชชันตุ สัพพโรโค วินัสสตุฯ)โยมเลยถามว่า ไม่ให้พรกรวดน้ำหรือครับ โดยปกติอาตมาจะกล่าวเพียง "คำว่าสาธุ"เมื่อโยมใส่บาตรเสร็จไม่ได้สวดเหมือนที่โยมเคยเห็นส่วนมาก..อาตมาก็บอกโยมว่า โยมทำบุญใส่บาตรนั่นแหละคือพรแท้ๆของโยมเพราะพรหมายถึงความเจริญ ความประเสริฐเกิดขึ้นได้ด้วยการทำดีทางกาย วาจาใจ มีเวลาก็อ่านหนังสือธรรมะที่แจกให้ไปนะจะได้เข้าใจพุทธศาสนามากขึ้น..มีวันหนึ่งโยมผู้หญิงวัยสามสิบต้นๆเอาอาหารหลายอย่างทั้งไก่ย่าง หมูย่าง และลาบวัว มีข้าวสุก ผัก มาใส่บาตร พอพระรับเสร็จก็ส่งคืนให้โยม รับได้แต่ข้าวและผัก ผลไม้ที่ฉันได้
โยมก็พูดว่า "รับไปเถอะคะดิฉันใส่บาตรเพื่อจะส่งไปให้พ่อ เมื่อคืนฝันถึงพ่อที่ตายจากไปได้เกือบปีและในฝันพ่อบอกว่าอยากกินอาหารพวกนี้ " หากท่านทุกรูปไม่รับพ่อจะไม่ได้กิน"(โยมเข้าใจว่าอาหารที่ทำบุญถวายพระหากพระนำไปฉันแล้วผู้ที่ล่วงลับไปที่เกี่ยวข้องกับผู้ทำบุญจะได้กินได้ใช้ไปด้วย) อาตมาได้ฟังแล้วรู้สึกสงสารโยม ดูจากสีหน้าของโยมที่กังวล เลยบอกให้โยมฟังว่า การทำบุญแล้วจะส่งไปให้ผู้(อุทิศส่วนบุญ)ตายศาสนาพุทธไม่ได้สอนอย่างนี้ ที่โยมเคยได้ยินได้ฟังมานะท่านสอนกันมาผิดๆทำบุญแล้วจะกรวดน้ำส่งไปให้ผู้ตายนั้นเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ "บาป-บุญ" ใดๆแบ่งให้ ปันให้กันไม่ได้ของใครของมัน ศาสนาพุทธสอนให้เราเชื่อเรื่องกรรม (การกระทำ)  
                                       

               กัมมัสโกมหิ   เรามีกรรมเป็นของของตน
               กัมทายาโท    เรามีกรรมเป็นทายาท
               กัมมโยนิ        เรามีกรรมเป็นกำเนิด
               กัมมพันธุ       เรามีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์
              กัมมปฏิสรโณ เรามีกรรมเป็นที่พึงที่อาศัย

เพราะเหตุนี้กรรม(การกระทำใดๆ)ของใครๆจะมีได้เป็นได้เพียงตอนมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ เท่านั้น หลังจากละโลกนี้ไปแล้วก็จะได้เพียงกรรมที่ตนเองสร้างไว้ในขณะมีชีวิตอยู่นั่นแหละติดตัวติดตนไป จนกว่าจะได้มาเกิดใหม่เป็นมนุษย์ก็กลับมาสร้างกรรมกันใหม่ ฉะนั้นกรรมดี (กุศลกรรม) กรรมชั่ว (อกุศลกรรม)ที่ทุกคนกระทำทางกาย วาจาใจ จึงเป็นทรัพย์แท้ๆของทุกคนติดตามตนไปทุกภพทุกชาติจนกว่าจะหลุดพ้นจากกิเลส ตัณหา อุปาทาน ถึงพระนิพพาน..   ด้วยเหตุนี้เราทั้งหลายพึงตั้งจิตทำความดี รักษาศีล ให้ทาน สร้างปัญญาให้แก่ชีวิตกัน อย่าประมาท..อนุโมทนาสาธุ 
                

    " ทางเดินยังยาวไกล(วัฏฏสงสาร)  เตรียมเสบียงไว้ให้พอสั่งสมบุญใหม่รักษาบุญเก่าชีวิตจะมีแต่ความเจริญ"
        ขอความสุขที่ยิ่งใหญ่และยั่งยืนจงมีแด่มวล    มนุษยชาติ          พุทโธ  ธมฺโม สงฺโฆ     

                                                     

     ดอกและยอดฟักทองบำรุงสายตา บำรุงกระดูกให้แข็งแรงทานได้ทั้งดิบและลวกน้ำร้อนก่อน


หมายเลขบันทึก: 198767เขียนเมื่อ 5 สิงหาคม 2008 10:27 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 01:24 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)
  • นมัสการค่ะ
  • ชาวพุทธส่วนใหญ่เข้าใจเรื่องบาปบุญผิดๆค่ะ โดยเฉพาะการทำบุญจึงตกเป็นเหยื่อพวกพ่อค้านะคะ
  • อนุโมทนาสาธุ
  • ชาวพุทธทำบุญต้องมีศีล
  • ศีลอยู่ที่ใดปัญญาอยู่ที่นั่น
  • ปัญญาอยู่ที่ใดศีลอยู่ที่นั่น
  • เหมือนคนล้างมือด้วยมือ
  • ล้างเท้าด้วยเท้า
  • เริ่มต้นที่เราก่อนแล้ววันข้างหน้าจะดีเอง

กราบนมัสการพระคุณเจ้า

อนุโมทนา เห็นด้วยอย่างยิ่ง

ขอให้เจริญในธรรม ยิ่ง ๆ ขึ้น

กราบนมัสการด้วยความเคารพ

อนุโมทนากับโยม thassana wong

บุญรักษานะโยม ..สาธุ

 

  • กราบขอบพระคุณพระคุณเจ้าค่ะ
  • สำหรับ คำอวยพรอันเป็นมงคลสำหรับชีวิต
  • จะยังคงใช้เป็นเชื้อเพลิงในการดำรงชีพ ด้วยการทำ "หน้าที่" อันควรต่อไปค่ะ
  • ขอบพระคุณค่ะ

สาธุกับโยมคุณครูปู

บุญรักษา

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท