เรื่องแปลกของเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง


เรื่องเล่าที่ไม่มีคำอธิบาย

        ทราย  คือชื่อเล่นของเด็กผู้หญิงคนนี้  เธอเป็นหลานสาวดิฉันเอง  แต่อยู่กันคนละภาคของประเทศ จึงเล่าได้เพียงคร่าว ๆ ปัจจุบันทรายอายุ 13 ปี  เมื่อปีที่แล้วทรายเรียนอยู่ ม.2  เพียงเข้าเรียนเทอมแรก  ครูจะโทรศัพท์เรียกผู้ปกครองไปรับช่วงบ่าย ๆ ทุกวัน  เนื่องจากเธอมีอาการปวดท้องทุกวันและมีอาการเหมือนโดนผีเข้า  ( อันนี้ฟังย่าเขาเล่ามาอีกที  ไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเอง )  จนในที่สุดครูบอกว่าหยุดเรียนก่อนสักปีนะ  ไปรักษาให้หายดีก่อน  ทางพ่อแม่ของทรายพาไปรักษาที่โรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยทางใต้ค่ะ  หมอตรวจก็ไม่พบว่าเป็นอะไร  ไปหาหมอหลายครั้ง  จนแม่ของทรายต้องไปพึ่งการรักษาแบบไสยศาสตร์ เข้าทรง อะไรประมาณนี้  สรุปแล้วทั้งปีต้องหยุดเรียน ม.2  ตลอดช่วงปีนี้แม่ของทรายได้เล่าว่า บ้านที่อยู่ปัจจุบันนี้เพิ่งปลูกได้ปีเดียว เพิ่งเข้ามาอยู่และทำบุญขึ้นบ้านใหม่แล้ว  ทั้งแม่ทั้งลูกเขาสามารถสัมผัสได้ถึง เจ้าของที่ที่บ้านตั้งอยู่ไม่ใช่คน เป็นท่านขุนตั้งแต่สมัย ร.5  ท่านมาบอกว่าบริเวณนี้เมื่อก่อนเป็นบ้านของท่าน ทรายเป็นลูกสาวของท่านและเป็นโรคปวดท้องตายตอนอายุ 12  และไม่ทราบเป็นเพราะอะไรทำให้ปัจจุบันทรายปวดท้องบ่อย  จนผู้เป็นแม่กินไม่ได้นอนไม่หลับจนทุกวันนี้  ปูย่าตายายก็พลอยเป็นทุกข์ไปด้วย  จนมีผู้แนะนำให้ทั้งแม่ทั้งลูกไปบวชอยู่วัดสักพักและทำสมาธิ  หมั่นถือศีลภาวนา  ซึ่งเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้ว 

         ดิฉันได้พบทรายเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา  ดูเหมือนเธอปกติแล้ว  ทราบว่ากำลังไปเรียนพิเศษเพื่อปรับฐานเรียน ม.2 ใหม่  ปกติทรายเป็นเด็กเรียนเก่ง  น้องสาวดิฉันเป็นพยาบาลหาว่าหลานแกล้งทำตัวแบบโรคจิตขี้เกียจไปโรงเรียน  ดิฉันว่าไม่ใช่เพราะทรายไม่ใช่เด็กขี้เกียจเรียน   ดิฉันชวนทรายไปเที่ยวกระบี่  เข้าป่าไปเที่ยวสระมรกต  เธอเล่นน้ำอย่างมีความสุข  ดิฉันคอยสังเกตอยู่ตลอดกลัวเหมือนกันว่าเธอจะมีอาการแบบผีเข้าอีก  เพราะเธอเป็นคนที่มีสัมผัสที่ 6  และแล้วการมาเที่ยวครั้งนี้ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง  ดิฉันคิดว่าเธอปกติแล้ว

        จนปีการศึกษาใหม่นี้ทรายเข้าเรียน ม.2 ที่โรงเรียนเดิม  ย่าเขาโทรศัพท์มาเล่าให้ดิฉันฟังว่า  ไปโรงเรียนไม่กี่วัน  ครูโทรศัพท์มาให้ผู้ปกครองไปรับช่วงบ่ายทุกวัน  เธอมีอาการแบบเดิม แถมประหลาดกว่าเดิมอีก  ย่าบอกว่าถ้าทรายนั่งคนเดียวนิ่ง ๆ สักพักบางที่นอนลงกับพื้นแล้วเลื้อยเหมือนงู  บางครั้งทำตัวเหมือนเสือตะปบเหยื่อ  แม่เขาต้องจับตัวมานั่งหน้าโต๊ะหมู่บูชาไหว้พระสวดมนต์ถึงจะหาย   บางครั้งพูดจาเสียงเหมือนเด็กผู้ชาย  อันนี้ย่าบอกว่าเจอเอง ถ้าไม่เจอจะไม่เชื่อ  ย่าถามว่าเป็นใคร  เขาตอบว่าเป็นเณร  เวลาทรายไปโรงเรียนก็ไปด้วย  สุดท้ายครูเห็นว่าไม่ไหวแล้วจึงบอกให้ย้ายโรงเรียน  เพราะครูบอกว่ามีเด็กเป็นอย่างนี้ทุกปีและไม่ใช่ทรายคนดียว  ทรายจึงย้ายโรงเรียนพร้อมเด็กอีกคนที่เป็นน้อยกว่าทราย  และไปเข้าโรงเรียนใหม่เหมือนกัน  อยู่โรงเรียนนี้ปรากฎว่าครูโทรมาให้ผู้ปกครองไปรับช่วงบ่ายอีก  ครูบอกว่าทรายมีอาการอีกแล้ว ครูใหญ่ต้องจุดธูป 70 กว่าดอกบอกเจ้าที่เจ้าทาง   นี่คือคำบอกเล่าจากย่าของทราย  ตอนนี้แม่ของทรายเป็นทุกข์เรื่องนี้  จนไม่รู้จะทำอย่างไร  เสียเงินหาหมอมามาก  สงสารที่เรียนหนังสือก็ไม่ได้   รายละเอียดของเรื่องนี้มีเยอะและเป็นเรื่องที่ไม่ใช่วิทยาศาสตร์   ท่านใดอ่านแล้วมีข้อแนะนำประการใด   ดิฉันจะได้แนะนำต่อไปค่ะ   

       

คำสำคัญ (Tags): #เรื่องทั่วไป
หมายเลขบันทึก: 198231เขียนเมื่อ 2 สิงหาคม 2008 11:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 พฤษภาคม 2012 17:41 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

น่าสนใจมากครับ เป็นเรื่องอุปทานร่วมของเด็กนักเรียนไหมครับ ถ้าไปอยู่ไกลๆ จากที่นั้นแล้วให้เจอเรื่องอื่นจนลืมเรื่องนี้ไปสักพักไม่รู้ว่าจะอาการดีขึ้นหรือเปล่า แต่อย่างไรคิดว่าคงต้องปรึกษาจิตแพทย์ถึงจะดีที่สุดครับ

พี่ณา พาพบจิตแพทย์เถอะ เพื่อค้นหาสาเหตุลึกๆนะพี่

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท