องคมนตรีชี้ฉ้อราษฎร์กันทุกระดับ

องคมนตรีชี้ฉ้อราษฎร์กันทุกระดับ

โรงแรมมิราเคิล แกรนด์

จัดโดยสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน

จัดสัมมนาเรื่อง ''การดำเนินการเกี่ยวกับจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตามรัฐธรรมนูญ 2550'' เมื่อวันที่ 31 กรกฏาคม โดยนายธานินทร์ กรัยวิเชียร องคมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษตอนหนึ่งว่า รัฐธรรมนูญ 2540 กำหนดให้มีการจัดทำประมวลจริยธรรมขึ้นสำหรับหน่วยงานของรัฐ แต่ไม่มีสภาพบังคับเพราะไม่มีบทกำหนดโทษหากฝ่าฝืน แม้จะมีระเบียบว่าด้วยมาตรฐานทางคุณธรรมและจริยธรรมของข้าราชการการเมือง

แต่ให้นายกรัฐมนตรีดำเนินการตามควร เหมือนเด็กเล่นขายของ เป็นเสือกระดาษ เพราะโทษต้องรุนแรงกว่า โดยให้ได้สัดส่วนกับการกระทำฝ่าฝืน อย่างสภาอังกฤษ มีโทษตั้งแต่ตักเตือน ภาคทัณฑ์ ตัดสิทธิทางการเมืองบางประการ ขับไล่ออกจากสมาชิกภาพ ไปจนถึงลงโทษจำคุก

นายธานินทร์กล่าวว่า การที่ต้องกำหนดให้มีการจัดทำประมวลจริยธรรม เพราะสังคมไทยในปัจจุบันมีวิกฤตด้านจริยธรรมมากมาย โดยเฉพาะการฉ้อราษฎร์บังหลวง ทุกระดับและทุกวงการ ทั้งการเมือง ราชการ ธุรกิจ เช่น การซื้อเสียงเลือกตั้งระดับชาติและท้องถิ่น การประมูลซื้อขายตำแหน่งหน้าที่ราชการ การประกวดราคาก่อสร้าง ทั้งหมดเปรียบเสมือนเนื้อร้ายคอยเกาะกินและเป็นพิษต่อร่างกาย มีความซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ มีการพัฒนากลเม็ด ทุจริตแบบผลประโยชน์ทับซ้อน ผู้ดำรงตำแหน่งใช้อำนาจหน้าที่เอื้อให้เกิดประโยชน์ส่วนตัว เช่น การมีส่วนได้ส่วนเสียในสัญญาของหน่วยงานที่ตนสังกัด หรือใช้ประโยชน์จากการรู้ข้อมูลภายใน หรือการนำโครงการสาธารณะลงในเขตเลือกตั้งเพื่อประโยชน์ทางการเมือง การคอร์รัปชั่นเชิงนโยบาย มีการออกกฎหมายมารองรับ เช่น การออก พ.ร.ก.แก้ไขเพิมเติม พ.ร.บ.พิกัดภาษีสรรพสามิต 2527 (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2546

อนึ่ง เมื่อปี 2546 ในรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ออกพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2547 (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2546 เพื่อให้มีการเก็บภาษีสรรพสามิตจากกิจการโทรคมนาคม แทนการจ่ายค่าสัมปทานให้รัฐ
 

แนะสังคมคว่ำบาตรนักการเมือง

นายธานินทร์กล่าวว่า มาตรฐานทางจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีความสำคัญ เช่น อังกฤษ รัฐมนตรีช่วยพาณิชย์สนิทสนมกันตั้งแต่เด็กๆ กับพ่อค้าคนหนึ่งที่มีชื่อเสียงไม่ค่อยดี ถูกให้ออกจากตำแหน่งแม้สอบไม่พบว่ารับสินบน เพียงแค่คนสงสัยก็อยู่ไม่ได้แล้ว หรือรัฐมนตรีกลาโหมคนหนึ่งมีสัมพันธ์สวาทกับโสเภณีชั้นสูง ต้องลาออกแม้ผลสอบไม่มีความลับราชการรั่วไหล ถามว่า ถ้าใช้มาตรฐานนี้กับไทย จะมีกี่คนที่อยู่ใน ครม.ได้ ทั้งนี้ต้องมีกฎเหล็ก คือการคว่ำบาตรทางสังคม การผนึกกำลังเพื่อรักษาไว้ซึ่งเกียรติภูมิแห่งวิชาชีพการเมือง (Professional Solidarity) กำชัดคนชั่วออกไปและไม่ให้กลับเข้ามาในการเมืองอีก แต่บางประเทศยังให้โอกาสกลับมา ถามว่าจะให้โอกาสกลับมาฉ้อราษฎร์อีกหรือ

อ่านเพิ่ม

ความคิดเห็น  ถ้าประชาชนไม่สนใจไม่ใส่ใจเรื่องจริยธรรมแล้ว ประเทศเราต้องมีนักการเมืองแนวนี้ออกมาเพิ่มมากขึ้น ชีวิตเราจะลำบากมากกว่าเดิม แค่นี้ก็ลำบากมากพอแล้ว เราต้องร่วมกันสร้างวัฒนธรรมการต่อต้านพฤติกรรมดังกล่าวอย่างจริงจัง  ความดีย่อมคุ้มครองผู้ปฏิบัติดีเสมอ