พญ.เสาด๊ะ ยุทธสมภพ กุมารแพทย์โรงพยาบาลหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาซึ่งได้รับรางวัลแพทย์ดีเด่นแพทยสภาประจำปี 2551
กล่าวว่า ตนปฏิบัติงานที่โรงพยาบาลหาดใหญ่กว่า 30 ปีจนกระทั่งอายุ 59 ปีในปีนี้ ด้วยความเชื่อมั่นว่า แพทย์ร้อยละ 90 ทำหน้าที่รักษาคนไข้ด้วยความทุ่มเท ตั้งใจจริง แต่ปัจจุบันความสัมพันธภาพระหว่างแพทย์กับคนไข้เปลี่ยนไป จากเดิมที่มีความเอื้ออาทรต่อกัน แต่ขณะนี้กลายเป็นความสัมพันธ์เชิงธุรกิจ มองแพทย์เป็นผู้ให้บริการและคนไข้เป็นผู้รับบริการ ตนยืนยันว่า ในโรงพยาบาลรัฐบาลไม่มีธุรกิจ แพทย์ทุกคนปฏิบัติหน้าที่เต็มความสามารถ ภายใต้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด แต่ความต้องการของคนไข้มีความคาดหวังสูงมาก อยากบอกคนไข้ว่า สิ่งที่แพทย์ทำนั้น เขาทำเต็มความสามารถแล้ว สำหรับการปฏิบัติงานของแพทย์ที่โรงพยาบาลหาดใหญ่นั้น จะให้แพทย์อยู่เวรห้องฉุกเฉินเพียง 4 ชั่วโมงขณะที่โรงพยาบาลอื่น ๆ ให้ทำงาน 8 ชั่วโมง เพื่อลดความเครียดและความเหนื่อยล้าของแพทย์ที่ต้องรักษาผู้ป่วยฉุกเฉิน
ทั้งนี้ พญ.เสาด๊ะ สำเร็จการศึกษาจากคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รุ่นที่ 22 สมรสกับนายปิยะ ยุทธสมภพ อดีตอัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายพาณิชย์ ประจำประเทศซาอุดีอาระเบีย มีบุตรธิดารวม 3 คน สำเร็จการศึกษาเป็นแพทย์ 2 คน ทำงานที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ และโรงพยาบาลเทพา จังหวัดสงขลาและบุตรคนที่ 3 สำเร็จการศึกษาด้านคอมพิวเตอร์
พญ.เสาด๊ะ ถือเป็นแพทย์ที่ทำงานด้วยความเสียสละ ไม่สนใจตำแหน่งหน้าที่ ขณะเดียวกันครอบครัวมีความสุข
ข่าวจาก http://news.mcot.net/social/inside.php?value=bmlkPTQ3NTUxJm50eXBlPXRleHQ=
แพทย์ดีเด่นแพทยสภาห่วงสัมพันธภาพระหว่างคนไข้กับหมอ
ก่อนหน้านี้ เนื่องจากได้รับข่าวสารเกี่ยวกับเรื่องหมอและโรงพยาบาลที่ทำการเชิงธุรกิจมามาก เลยมีความรู้สึกว่า คนไข้ไปรักษาแม้จะไม่ได้ให้เงินก็มีเงิน(ของรัฐ)จ่าย หมอต้องรักษาจากค่าที่ได้จ่าย ไป
แต่เมื่อได้เป็นคนไข้ อยู่โรงบาลนาน ภาพที่เห็นบ่อยครั้งมากที่ไม่ได้เป็นอย่างที่เป็นห่วง
เห็น..ความสัมพันธ์ของคนไข้กับหมอดีมาก เช่น
เมื่อวันจันทร์ที่แล้วไปบำบัดที่ห้องกิจกรรมบำบัด พบคนไข้เอาลูกส้มแขกไปฝากพยาบาลทั้งน่ารักน่าชื่นชมมาก ว่ากันว่าพยาบาลเขาอยากได้ และส้มแขกที่คนไข้ไปให้มีขนาดเท่าฝักทอง.. หลายลูกด้วย
ขอแสดงความยินดี กับท่านพี่จาก MD_CU ด้วยคนครับ
สวัสดีค่ะ อาจารย์ขจิต รพ.หาดใหญ่เป็นรพ.คุณภาพรุ่นแรกๆ เลยค่ะ ปัจจุบันก็คงคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง พอลล่าก็ไปมาแล้วค่ะ อาหารอร่อยค่ะ เมนูเพื่อสุขภาพ ด้วยละ อิอิ
ขอบคุณคุณIbm ครูปอเนาะมากค่ะที่มองเห็นและเข้าใจ แพทย์และพยาบาลที่เสียสละ เห็นสิ่งดีๆ งามๆ บอกเล่าสู่กันฟังบ้างนะคะ
สวัสดีค่ะ ท่านอาจารย์ JJ ที่มาเยี่ยมให้กำลังใจ อจารย์เสาด๊ะ ค่ะ สบายดีไหมคะ รักษาสุขภาพด้วยนะคะ
สวัสดีครับ คุณพรวรา
ขอบคุณมากค่ะ คุณพี่ว่าที่รต.ยงยุทธ ที่แวะมาอ่านค่ะ ตอนนี้ก็สึขกายสบสยใจ๊ สบายใจจ้า อิอิ
เข้ามาชื่นชมด้วยคนค่ะ อ.พอลล่า
อยากถามนิดนึงด้วยค่ะว่า บทบาทของผู้วิพากษ์ที่ดี ต้องทำไงค่ะ(บังเอิญได้รับเชิญ แต่ตัวเองยังไม่เคยแบบที่เป็นทางการ)
สวัสดีค่ะ อาจารย์ sarah ผู้วิพากษ์ที่ดี ต้องเป็นคนที่สามารถทำให้เขามีกำลังใจทำงานต่อ ฮึกเหิมและเห็นช่องทางการพัฒนาด้วยตนเองค่ะ บางครั้งขึ้นอยู่กับเวลาที่นำเสนอด้วยค่ะ เวลาที่จำกัด เราไม่สามารถรู้ข้อมูลเขาทั้งหมด มีอาจารย์บางท่านบอกว่าให้เราดูและต่อยอดวิธีคิดของเขา มากกว่าวิธีการทำงานค่ะ เป็นคำถามที่ดีมากๆเลยค่ะ เปลี่ยนวิธีคิดของเราจากการเป็นผู้วิพากษ์เป็นผู้ที่มีโอกาสที่ดีมากกว่าคนอื่นที่ได้มารับฟังเรื่องราวดีๆ จากเพื่อนของเราอย่างที่ไม่เคยฟังมาก่อน สิ่งนั้นเป็นความงามที่เพื่อนเราตั้งใจทำเพื่อผู้รับบริการของเขา หรือพัฒนาเพื่อให้เขามีความสุขมากขึ้น จากการทำงานที่มีระบบมากขึ้น เรื่องที่เขาทำมีเป้าหมายอะไร กระบวนการนั้นบรลุเป้าหมายไหม และมีอะไรที่บอกว่าบรรลุเป้าหมาย 3 P นั่นเองค่ะ ถ้าเขามีครบแล้วก็ชื่นชมให้เขาทำต่อไปค่ะ
ใส่รูปอาจารย์เสาด๊ะ มาให้ดูแล้วนะคะ
ขอบคุณ อ.พอลล่า ที่เข้ามาให้กำลังใจเรื่องการลงรูปนะค่ะ
มีอีกรูปมาฝาก
เก็บจาก muslimthai.com