· ภาพที่เห็นผู้เขียนยืนติดกับผนังไม้แกะสลักและมีภิกษุโผล่เห็นสีจีวรที่ต่างกันนั้น คือที่วัดชเวนันดอ เมือง มัณฑะเล ลายจำหลักนี้ทำบนไม้สักทองทั้งหลัง เดิมเป็นพระตำหนักที่พระเจ้ามินดง(ในยุคที่อังกฤษเริ่มเข้ามาแสดงอำนาจ จนกระทั่งพม่าเสียเมืองในที่สุด ตรงกับสมัยรัชกาลที่ ๕ ของไทย) ทรงทำสมาธิเจริญสติภาวนาจนสวรรคต ภายหลังจึงย้ายตำหนักนี้มาประดิษฐานนอกวัง แล้วยกฐานะเป็น วัดชเวนันดอ
· ที่ประทับใจและรู้สึกถึงศรัทธาในพุทธศาสนาของผู้คนอีกที่ในการเยือนพม่าคือที่เมืองพุกาม-ทะเลเจดีย์ ซึ่งเมื่อราว พันปีก่อน เป็นถึง อาณาจักรพุกาม หากใช้ภาษาอย่างมืออาชีพระดับคุณธีรภาพ โลหิตกุล คือ ถือเป็นอรุณรุ่งแห่งความเกรียงไกรของชนชาวพม่า เพราะเป็นอาณาจักรแรกที่พม่ารุกรบชนะชนชาติมอญ ครอบครองลุ่มน้ำอิระวดีตอนบน แล้วรวบรวมชาวพม่าให้เป็นปึกแผ่นมั่นคงเป็นครั้งแรก และที่นี่อีกนั่นแหละ ที่พุทธศาสนาจากอินเดียได้มาถึงและถูกรับไว้เป็นศาสนาประจำชาติ · เหลือเชื่อว่ามหาปราสาทนครวัด นครธมแห่งอาณาจักรขอมโบราณ กับ เหล่าเจดีย์แห่งพุกามประเทศเกิดในประวัติศาสตร์ช่วงเดียวกัน ในราวพุทธศตวรรษที่ ๑๕ (อาณาจักรสุโขทัยก่อกำเนิดในพุทธศตวรรษที่ ๑๘ !) การก่อสร้างสถูปเจดีย์มีต่อเนื่องกันนานนับร้อยปี จนทำให้เกิดเจดีย์จำนวนมหาศาลละลานตา อันเป็นที่มาของสมญานามว่า พุกาม คือ แดนเจดีย์สี่พันองค์ (บ้างก็ว่าห้าพัน ถึง หมื่นองค์ ถูกแม่น้ำอิระวดีท่วมเซาะทำลายไปเสียส่วนหนึ่ง) เป็นแดนสุขาวดีของพุทธศาสนา · ได้นั่งรถม้าวนเวียนลัดเลาะไปตามเจดีย์ต่างๆพักหนึ่ง แล้วก็พากันขึ้นที่สูงเพื่อชมวิวทะเลเจดีย์ให้ชัดๆ ผู้เขียนเป็นโรคกลัวความสูงอย่างยิ่ง แต่ถ้าไม่ขึ้นก็ไม่ได้เห็น ของอย่างนี้ต้องรู้ ต้องดูด้วยตนเอง ใครทำแทนไม่ได้ เลยตัดใจขาสั่นไต่ขึ้นไปบน “มิงกาลาเจดีย์” เจดีย์องค์สุดท้ายในสมัยพุกาม ซึ่งเป็นเจดีย์สูงที่มีมุมมองชมหมู่เจดีย์ได้งดงามที่สุดและเป็นเจดีย์องค์เดียว ที่อนุญาตให้ผู้หญิงขึ้นไปได้ · ภาพทะเลเจดีย์สวยๆนั้นผู้เขียนไม่สามารถถ่ายมาได้เพราะ ไม่กล้าแม้จะลุกยืน จึงขอเชิญไปชมที่มีผู้เก็บภาพสวยๆไว้ดีกว่า
· http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=concord&month=04- 2007&date=05&group=1&gblog=14 (จารึกที่เจดีย์ชเวกุกยี ของพระเจ้าอลองสินธู ลำดับที่ ๖ แห่งราชวงศ์พุกาม) จากหนังสือ ท่องแดนเจดีย์ไพรในพุกามประเทศ โดย ธีรภาพ โลหิตกุล· “....การสร้างเจดีย์ย่อมได้บุญมาก ข้าฯ ปรารถนาจะสร้างทาง
เพียงเพื่อข้ามไปสู่แม่น้ำแห่งสังสารวัฏ
เพื่อผู้คนทั้งมวลจะเร่งข้ามไปกระทั่งบรรลุถึงนิพพาน
ข้าฯเองจะข้ามไปและดึงผู้ที่จะจมน้ำให้ข้ามไปด้วย...
ข้าฯมีอิสรภาพแล้วจะช่วยปลดปล่อยผู้ที่ยังผูกพันอยู่...
ข้าฯถูกปลุกขึ้นมาแล้วก็จะปลุกผู้ที่ยังนิทราอยู่...
ข้าฯมีความสงบในจิตใจและมีคำสั่งสอนที่ดีนำใจอยู่...”
· ทะเลสาบอินเล และ ชีวิตผู้คนในทะเลสาบแห่งนี้ ไม่เหมือนที่แห่งใด น่าทึ่งกับชุมชนที่เรียกตัวเองว่า “อินทา” หรือ “อินสะ” ซึ่งแปลว่า ลูกทะเลสาบ ภาพชีวิตมีให้ชมจุใจที่ลิงค์นี้ค่ะ http://www.oceansmile.com/Phama/Inlay.htm
· สิ่งแปลกที่ไปพบ และไม่เคยพบที่ใดมาก่อนเลย คือ การทอผ้าใยบัว โดยใช้ใยที่ดึงเป็นเส้นจากก้านบัวพวกบัวหลวง หรือ บัวที่เราใช้บูชาพระ เขาจะหักก้านและดึงใยบัวมาควั่นเป็นเส้น เป็นใยที่เหนียวมาก ทีแรกผู้นำคณะบอกว่าจะพาไปชมหมู่บ้านที่เขาทอผ้าใยบัว ที่ทะเลสาบอินเล นึกภาพว่าผ้าคงโปร่ง บางเบา ที่ไหนได้ หนา แน่น หนัก เหมือนผ้าลินิน แต่แข็งกว่าและแพงมากด้วย เลยไม่ได้ซื้อ แต่คิดว่าเป็นบุญตาที่ได้เห็นความช่างคิด ความพยายามของมนุษย์ที่มีอริยทรัพย์ น้อมนำคำสอนหลักธรรมแห่งพุทธศาสนาไว้คู่ตน ใช้ปัญญาอยู่ได้อย่างสุขสงบ เป็นตัวของตัวเอง รู้จักถิ่น รู้จักทุนของตนที่มีอยู่รอบตัว
ขอให้บุญรักษาทุกท่าน และ อิ่มบุญจากการได้บำเพ็ญบุญกุศลในเทศกาลเข้าพรรษานี้ค่ะ
ตามไปชมภาพเจดีย์พุกาม
งดงามมากๆ ค่ะ เห็นถึงศรัทธาในธรรมของคนรุ่นก่อนๆ เป็นอย่างมาก
ธรรมรักษานะคะพี่นุช
ขอบคุณที่นำมาเล่าสู่กันฟังค่ะ ^ ^
สวัสดีค่ะอาจารย์ขจิต ขจิต ฝอยทอง ขอบคุณที่มาตามอ่าน ตามดูเรื่องที่พี่เขียนเสมอๆ บางทีก็เขียนเพราะอยากเล่า ไม่ค่อยจะมีสาระเท่าไหร่ นอกจากแบ่งปันความเบิกบาน ความรู้จากสิ่งที่ได้เห็นค่ะ
พม่ามีอะไรน่าทึ่งอย่างนึกไม่ถึงอยากกลับไปเยือนอีกค่ะ
ภาพเจดีย์พุกามคนถ่ายภาพเขาถ่ายได้สวยมากจริงๆค่ะ เสียดายจะไปบอกเขาว่าเราส่งลิงค์ไปที่เขา แต่บล็อกเขาให้comment ได้เฉพาะสมาชิก
นี่อาจารย์กลับมาแล้วใช่มั้ยคะ พี่ตกข่าวประจำเลยค่ะ
สวัสดีค่ะพี่นุช
สวัสดีค่ะ อ.พี่นุช
อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่นุชสุดดวงใจของน้อง
สวัสดีค่ะ พี่นุช...
แวะมาครั้งที่เท่าไรแล้วจำไม่ได้ค่ะ... พม่าเป็นอีกเมืองหนึ่งที่กะปุ๋มหวังจะไปเยือน .. ครูสอนกรรมฐานท่านแรกของกะปุ๋มท่านอยู่พม่าค่ะ...
หากมีโอกาสอันงามจะไปกราบดินแดนแห่งครูบาท่านค่ะ
(^____^)
วันนี้อากาศดีค่ะ ไม่มีแดด ร่มๆ เหมือนฝนจะตก เย็นชุ่มในหัวใจค่ะ
สวัสดีค่ะคุณดาวลูกไก่ ดาวลูกไก่ ชื่นชมยินดี หากแค่เห็นรูปและอ่านเรื่องนิดหน่อยยังเกิดความรู้สึกเพลินได้ หากได้ไปจริงอคติและความกลัวจะหมดไปเมื่อเราได้เห็นกับตาตัวเองว่าไม่เห็นมีอะไรน่ากลัว ผู้คนชาวบ้านที่พบล้วนใจดีค่ะ เหมือนคนชนบทบ้านเรา
ดอกบัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งบัวหลวงนี่มีประโยชน์มากมาย ใช้ได้ทุกส่วนนะคะ ไม่ใช่แค่สวย ใช้ประโยชน์ได้ทั้งกิน เป็นยา ทำเครื่องสำอางและนำใยมาทอผ้าอย่างที่เห็น ทำนาบัวนั้นมีคนบอกว่าทำได้ปีละหลายครั้ง ลงทุนน้อยกว่าปลูกข้าว น่าสนใจมากเลยค่ะ
เม็ดบัวทานสดทานมากๆคงเวียนหัวอยู่นะคะ แต่หากนำมาทำเป็นขนมทานเล่นกรอบๆเค็มๆหวานๆอร่อยมากแต่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีใครทำขายนะคะ
คุณแดง pa_daeng [มณีแดง คนสวย แซ่เฮ] เป็นพวกขาลุยและช่างเก็บภาพงามๆ ต้องไม่พลาดไปเยือนเพื่อนบ้านของเราประเทศนี้นะคะ ยิ่งทะเลเจดีย์ ฮู้ยยยยย...เห็นแล้วปลื้มปิติ คิดถึงความศรัทธาของคนที่สร้างค่ะ เขาบอกว่าสมัยก่อน คนพม่านิยมสร้างบุญบารมีด้วยการสร้างเจดีย์ (ไม่ใช่เจดีย์ใส่กระดูก) เพื่อให้บุญขึ้นสูงสู่สวรรค์
คุณแดงสร้างกุศลไว้ตั้งเยอะ ได้ไปแน่ค่ะ หากตั้งใจจะไปจริงๆ ไม่มีที่ใดไกลเกินไปถึงค่ะ
น้องปูขา poo น้องช่างมีความกระตือรือร้นและจินตนาการที่บรรเจิดเลิศล้ำ สร้างคำไพเราะมากำนัล(แฮ่ะ แฮ่ะ แต่พี่ปล่อยให้น้องคอย ขออภัยนะคะ)
ไปเยือนประเทศใดก็ตาม หากเราไปอย่างเปิดใจเรียนรู้ ล้วนเป็นการเปิดมุมมองใหม่ ล้างอคติที่เราอาจมีโดยไม่รู้ตัวนะคะ
ทะเลสาปอินเลนั้นน่าทึ่งมากค่ะ คนเขาอยู่ในน้ำ ปลูกบ้าน ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์อยู่บนแพพืชน้ำที่เขานำมาซ้อนๆกันจนรับน้ำหนักได้ เห็นเขาแจวเรือยิ่งแปลกค่ะ
ในยุคนี้การเดินทางทำได้ง่าย สะดวก ปลอดภัย ราคามีเหตุผลสมควร ยิ่งเดินทางมาก ได้เห็นมาก แล้วเราจะยิ่งมองเห็นตัวเราชัดเจนขึ้น
ขอบคุณค่ะน้องแจ๋วแหวว พชรวรัตถ์ แสงทองชนาพงศ์ ที่มาร่วมประทับใจในความดี ความศรัทธาของชาวพม่าที่มีต่อพุทธศาสนาค่ะ
ช่วงหยุดหลายวันพี่ก็เลยหยุดไปด้วย ^__^ พี่สาวมาจากเชียงใหม่เลยมีกิจกรรมทำโน่นทำนี่เพลินจนหมดวันหยุด(ของพี่สาว)ค่ะ
ดีใจที่จะได้พบกันเช่นกันค่ะ(อยู่ไกลกันมากเลยนะเนี่ย^_^ )
สวัสดีค่ะน้องกะปุ๋ม Ka-Poom ขออภัยที่น้องมาเยือนหลายครั้งโดยเจ้าของบ้านไม่ได้มาต้อนรับนะคะ ขอบคุณที่น้องอุตส่าห์มาแม้พี่ไม่ได้มาทักทายค่ะ
พม่าเป็นดินแดนที่มีพระภิกษุผู้ปฏิบัติและรู้ปริยัติ พระไตรปิฎกลึกซึ้ง ทางการพม่าเขาให้เกียรติพระที่เป็นระดับอาจารย์เป็นอย่างยิ่งนะคะเท่าที่พี่ทราบมา พี่เคยไปปฏิบัติธรรมที่วัดท่ามะโอ ลำปางซึ่งท่านอาจารย์ พระคันธสาราภิวงศ์ก็ได้ร่ำเรียนมาจากพม่าตั้งแต่เป็นสามเณร และท่าน ธัมมานันทมหาเถระ อัครมหาบัณฑิต อดีตท่านเจ้าอาวาสวัดนี้ท่านอายุกว่าเก้าสิบปี ก็เป็นพระพม่าที่มาอยู่จำพรรษาที่วัดนี้มานานมากเลยค่ะ พี่ได้มีโอกาสกราบนมัสการท่านรู้สึกว่าเป็นบุญอย่างยิ่งเลยค่ะ
พี่รู้สึกว่าพม่านั้นมีคุณูปการในเรื่องพุทธศาสนากับเมืองไทยมากเลยค่ะ
วันนี้ที่บ้านพี่ก็อากาศดีมาก ดอกทิวาราตรีออกมากมาย เรียกผีเสื้อหางติ่งนางละเวงให้มากันตั้งสี่ห้าตัว วนเวียนกินน้ำหวานตั้งแต่เช้า จนเย็นเลยค่ะ ดูแล้วเบิกบานมากเก็บภาพดีๆได้หลายภาพ วันหลังจะนำมาให้ชมกันค่ะ
สวัสดีค่ะคุณเอื้องแซะคนสวย เอื้องแซะ ขอบคุณที่มาแวะพร้อมด้วยคำอวยพรค่ะ หวังว่าความอิ่มบุญได้บังเกิดแก่คุณเอื้องแซะเช่นกันนะคะ
ท่านที่ยังไม่เคยไปเยือนพม่า และยังไม่แน่ใจว่าจะอยากไปดีหรือเปล่า อ่านคำยืนยันของคุณเอื่องแซะว่าไปแล้วประทับใจขนาดนี้ คงมีคนวางแผนไปเยือนพม่าอีกหลายคนแน่นอน โดยเฉพาะคุณ ดาวลูกไก่ ชื่นชมยินดี ^___^
ตามไปดูเจดีย์ที่มีลิงก์ให้ สวยงามมากจริงๆนะคะ อยากไปจังเลยค่ะ
ไปพม่าแค่ได้ไปนมัสการมหาเจดีย์ชเวดากอง ชมทะเลเจดีย์พุกาม และสัมผัสชีวิตคนทะเลสาปอินเล นุชว่าก็คุ้มมากเลยค่ะคุณพี่ศศินันท์ เดี๋ยวนี้ไปง่ายด้วยค่ะ