Talent Management 16 จะอยู่หรือจะไปขึ้นกับอะไร คำแนะนำจากท่านศุภมิตร

13-7-51

ในการประชุมโครงการTalent Management    คุณหมอศุภมิตรไม่มาประชุมแต่ฝากข้อคิดให้คณะทำงานมาอ่านค่ะ

ดิฉันกว่าจะได้ข้อคิดนี้มาก็ต้องทวงอยู่หลายครั้งซึ่งเป็นข้อคิดที่มีประโยชน์มากจึงนำมาให้อ่านกันค่ะ

 

 

 

 

 

ความคิดเห็นบางประการเกี่ยวกับ Talent Management ^TM

นพ.ศุภมิตร ชุณห์สุทธิวัฒน์

 

กลุ่มบุคลากรที่ควรทำ Talent Management

-          น่าจะทำได้ทุกประเภทบุคลากรของกรมฯ เช่น

o      แพทย์ สัตวแพทย์ เภสัชกร

o      นักวิชาการด้านต่าง ๆ – ควบคุมโรค สุขศึกษา ประชาสัมพันธ์ IT

o      บุคลากรด้านบริหาร – บริหารทั่วไป การเงิน บุคลากร

-          ในระยะเริ่มต้น อาจจะเริ่มด้วยโครงการพัฒนากลุ่มแพทย์และนักวิชาการก่อน เพื่อทดสอบความเป็นไปได้ของรูปแบบการทำงานและเพิ่มการพัฒนาบุคลากรประเภทอื่น เมื่อได้รูปแบบการทำงานและมีความพร้อม (มีคนพร้อมจัดการ มีคนสอน มีคนอยากเรียนรู้)

 

ลักษณะคนเก่ง (Talented) ที่ต้องการ

-          ใฝ่รู้ สนใจปรับปรุงตนเอง

-          รู้ดี รู้กว้าง รู้ลึก รู้หลากหลาย (ด้านที่เกี่ยวข้อง)

-          สื่อสารเก่ง สอนเก่ง

-          ประสานงานเก่ง ประสานสิบทิศ

-          แก้ปัญหาในการทำงานได้ดี

-          Can do attitude toward work.

-          Positive attitude toward people.

 

ลักษณะโครงการที่น่าจะอยู่ใน Talent Management

-          การสร้าง “ธรรมทายาท” หรือ “ทายาทอสูร” (แล้วแต่กรณี) คือทายาทผู้นำทางวิชาการและบริหารจัดการสำหรับหน่วยงาน (กรม สำนัก กอง สถาบัน) แผนงานหรือโครงการที่สำคัญ เช่น ผู้นำด้านการควบคุมมาลาเรีย ไข้เลือดออก โรคเอดส์ วัณโรค โรคที่ป้องกันด้วยวัคซีน โรคหัวใจละหลอดเลือด โรคจากการประกอบอาชีพ

-          การเจียรนัยเพชร เช่น

o      สร้างผู้เชี่ยวชาญชั้นนำ สำหรับสาขางานที่สำคัญ เช่น ระบาดวิทยาสมัยใหม่, การพัฒนานโยบายและยุทธศาสตร์, malariology, vaccinology, molecular biology, health economic, bioinformatics เป็นต้น

o      การสร้างผู้มีความรู้ความชำนาญเฉพาะเรื่อง เช่น Research methodology, clinical trials, mathematic modeling, policy analysis, การเจรจาและการประสานงานระหว่างประเทศ, การบริหารจัดการโครงการ (program management), งานข่าวกรอง, surveillance, public health emergency management, risk communication เป็นต้น

โครงการใน TM ควรมีคุณลักษณะอย่างไร (อย่างน้อยในระยะแรก)

-          มีวัตถุประสงค์เพื่อการใช้งานหรือแก้ปัญหาที่ชัดเจน

-          เป็นโครงการระยะสั้นหรือระยะกลาง

-          ไม่เป็นภาระมาก

-          บูรณาการกับงานประจำได้ดี

-          ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่มีอยู่เป็นหลัก ไม่สิ้นเปลืองมาก

-          ตัวอย่างโครงการที่น่าจอยู่ใน TM:

น่าจะอยู่ใน TM	ไม่น่าจะอยู่ใน TM
โครงการระบบพี่เลี้ยง เพื่อสร้างทายาทหรือผู้เชี่ยวชาญเฉพาะเรื่อง การประชุมหรือดูงานต่างประเทศรายการย่อย ซึ่งเป็นส่วนประกอบหนึ่งในโครงการสร้างผู้เชี่ยวชาญเฉพาะเรื่อง	การฝึกอบรมระยะยาว การฝึกอบรมตามหลักสูตรมาตรฐาน ได้ปริญญาบัตร (เช่น ปริญญาโท ปริญญาเอก) การไปประชุมหรือดูงานในต่างประเทศตามปกติ โดยเฉพาะรายการใหญ่

 

ความเห็นอื่น ๆ

-          ควรชักชวนผู้อำนวยการ หัวหน้างาน หัวหน้า Program แต่ละคน ให้มีความเห็นร่วมและเต็มใจที่จะสร้างทายาทไว้เสมอ โดยเห็นเป็นหน้าที่สำคัญ

-          ควรตั้งเป้าหมายว่า แต่ละหน่วยงาน สาขาวิชา/งาน ต้องเตรียมให้มีผู้นำทางวิชาการหรือผู้เชี่ยวชาญ อยู่อย่างน้อย 2 คนตลอดเวลา เพื่อประกันความต่อเนื่องและความมั่นคงของงาน

-          ไม่ควรส่งสัญญาณว่า Tm ต้องการเฉพาะผู้เลอเลิศ หรือเฉพาะคนหนุ่มสาว ซึ่งจะเป็นสัญญาณที่ให้ผลเสียมากกว่าผลดี เพราะจะมีโอกาสก่อความแปลกแยก (Alienation) แบ่งชั้น (discrimination) อาจทำให้เกิดปฏิกิริยามุมกลับหรือการต่อต้านเงียบ (อารยะขัดขืน) ซึ่งจะเป็นบรรยากาศให้การทำงานยาก และงาน TM จะค่อย ๆ ฝ่อไปในที่สุด

-          TM ควรเป็นกลไกหนึ่งเพื่อการพัฒนาบุคลากร (Human resource development- HRD) แต่การพัฒนาบุคลากร ไม่สามารถทำได้โดย TM  แต่เพียงอย่างเดียว

 

ใครมีข้อคิดดีๆก็แนะนำมาได้ค่ะ