เนื้อเรื่องเมื่อมีการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ทำให้ชาวนาละทิ้งอาชีพเกษตรกรไปทำงานทางด้านอุตสาหกรรมเพราะรายได้สูงกว่า เร็วกว่า และแน่นอนกว่า ทั้งมีสวัดิการสูงกว่า ชาวนาบางคนที่ยังทำการเกษตรกรอยู่ก็เปลี่ยนจากการปลูกธัญพืชมาเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีราคาสูงกว่า แต่ยังมีชาวนาอีกเป็นจำนวนมากที่ไม่สามารถขยับขยายไปทางอื่นที่ดีกว่าได้ ซึ่งจิตร ภูมิศักดิ์ ก็ได้ใช้จินตนาการสะท้อน
ปัญหาเหล่านี้ออกมาให้รู้แต่ปัญหานี้ก็ยังมีอยู่ เนื้อหาตอนต่อมากล่าวถึง สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงแปลบทกวีจีน "ประเพณีดั้งเดิม" บทกวีของหลี่เชิน ชาวเมืองอู่ซี ซึ่งมีชีวิตอยู่ในราชวงศ์ถัง บรรยายความในใจเกี่ยวกับชาวนาที่มีชีวิตความเป็นอยู่ลำบากจากบทกวีทั้งของไทยและจีนนี้ทำให้เห็นว่าชีวิตของชาวนาไทย และชีวิตของชาวนาจีนต่างมีความทุกข์ยากเหมือนกัน ต่างกันตรงเทคนิคในการเขียนบทกวี หลี่เชินใช้วิธีบรรยายภาพที่เห็นให้ฟัง แต่จิตร ภูมิศักดิ์ ใช้วิธีเสมือนชาวนามาบรรยายเรื่องของตนเองด้วยตนเองสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงแสดงความคิดเห็นว่า แม้ว่าสภาพบ้านเมืองจะเปลี่ยนแปลงไป และเป็นเวลามานานแล้ว แต่ปัญหาความทุกข์ยากของชาวนาก็คงยังสร้างความสะเทือนใจแก้กวียุคคอมพิวเตอร์ต่อไปคุณค่าของเรื่อง๑. เป็นตัวอย่างการเขียนเรียงความที่ดีเรื่องหนึ่ง๒. ให้ข้อคิดต่างๆ หลายๆ เรื่องมากมายที่ดีมากด้วย
อ่านบทกวีที่ครู กระดาษทรายนำมาลง blog ไว้แล้ว ทำให้ผู้อ่านอดสงสารชีวิตชาวนาไม่ได้ โลกจะไปถึงไหนก็ตามชาวนาก็ยังทุกฃ์ใจเหมือนเดิม สงสารจัง
ขอบคุณที่ให้ความรู้ อ่านบทกวีแล้วเห็นใจชาวนาจริงๆทุกข์ยากเหมือนกันหมด
ขอบคุณทุกความคิดเห็นค่ะ
หลังจากได้อ่านแล้วทำให้คิดได้ว่าเราควรกินข้าวอย่างประหยัดอย่ากินทิ้งกินขว้างสงสารชาวนา
ขอบคุณนะคะที่มีเนื้อหาเรื่องทุกข์ของชาวนาเพราะหนูกำลังทำรายงานเรื่องนี้อยู่พอดีค่ะ
ส่งสารชาวนาทุกยุคทุกสมัย
ชาวนาทุกยุคทุกสมัยชาวนายากจน ชาวนาละทิ้งจากอาชีพเกษครไปชาวนาเปลี่ยนจากพืชที่มีรายได้ตำไปทำรายได้ที่สูงกว่า
หมอชาวนา มีผลงานวิจัยอิสระปัญหาความยากจนของชาวนา พบวิธีแก้ไขปัญหาง่าย ๆ หลายแนวทาง สามารถทำให้รวยกว่าพ่อค้า ดีกว่าข้าราชการ ได้มากกว่ากองทุนเงินล้าน มีเงินให้รัฐบาลกู้ยืม รวยจากการให้ ได้จากความสามัคคี ยิ่งนายยิ่งรวย ลองเข้าไปอ่านในอินเทอร์เน็ตหัวข้อ msgent of thai สงสัยติดต่อสอบถาม [email protected]
ขอบคุณสำหรับข้อมูล