กับคำถามที่ว่าธุรกิจบนอินเทอร์เน็ตคืออะไร


บางคนทำงานแทบตาย มีเงินเยอะแยะ แต่ไม่มีความสุขเท่าผม ถ้ามีทางเลือกสำหรับชีวิต คนต้องการอะไร

หลังจากที่ไม่ได้ blog มานาน คราวนี้ผมอยากจะขอนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับการทำธุรกิจบนอินเทอร์เน็ต ซึ่งเวลาที่เราพูดถึงเรื่องนี้คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึงการขายของทำอีคอมเมิร์ซ แต่อันที่จริงในไซเบอร์สเปซยังมีโอกาสทางธุรกิจอีกหลากหลายรูปแบบที่รอให้เราเข้าไปค้นหาอยู่  หากย้อนกลับไปเมื่อปีที่แล้ว blog แรกที่ผมเขียนใน gotoknow คือ "ทำอย่างไรให้เว็บไซต์ใหม่สามารถสร้างรายได้เพื่อเลี้ยงตัวเองได้" ในบทความนั้น ผมกล่าวถึงวิธีการสร้างรายได้ให้กับเว็บไซต์ เช่น การขายโฆษณา, การเก็บค่าสมาชิก(ขายบริการ), และการขายสินค้า(ทำอีคอมเมิร์ซ) ซึ่งก็มีผู้เสนอเสริมมาว่าอาจจะใช้วิธีการรับบริจาคเพื่อสร้างรายได้ให้กับเว็บไซต์ได้อีกด้วย ทั้งหมดนี้คือรูปแบบที่เราคงจะคุ้นเคยและได้เห็นกันมาพอสมควร แต่ในปัจจุบันคุณรู้ไหมครับว่าเรามีช่องทางในการสร้างรายได้จากอินเทอร์เน็ตได้มากกว่านั้น

ผมอยากจะลองเปรียบเทียบช่องทางการสร้างรายได้แบบต่างๆ ให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยการยกตัวอย่างให้เว็บเปรียบเสมือนอาคารพาณิชย์ การทำเงินง่ายที่สุดคือรับเหมาสร้างอาคาร (นั่นก็คือรับจ้างทำเว็บ) ถัดมาเราอาจจะทำอาคารชุดที่หน้าตาเหมือนๆ กันไว้ขาย (ก็เปรียบเหมือนการทำเว็บสำเร็จรูป) หรือถ้าจะให้ได้ประโยชน์มากกว่านั้นก็ต้องสร้างอาคารใหญ่ๆ หน่อย และมีสาธารณูปโภคดีๆ ดึงคนเข้ามาให้ได้เยอะๆ (ก็อาจจะมองเป็น e-marketplace อย่าง tarad.com และ weloveshoping.com เป็นต้น) นี่คือสิ่งที่คนก่อสร้าง (developer) สามารถทำได้ ถัดมาหากเราเป็นพ่อค้าที่จะนำเอาอาคารไปใช้ประโยชน์บ้างหละ เราจะสามารถทำอะไรได้บ้าง หนึ่งคือไปเอาร้านมาขายของโดยมีสินค้าเป็นของตัวเองอยู่แล้ว (ทำอีคอมเมิร์ซ) สองคือเอาร้านมาขายของแต่เป็นการนำสินค้าคนอื่นมาวางขาย (affiliate program) และสามคือการฝากขายสินค้าของคนอื่นในร้านค้าหรืออาคารของคนอื่นๆ (affiliate marketing)

มาถึงจุดนี้ ผมคงต้องขอขยายความนิยามสำหรับคำศัพท์ที่กล่าวถึงก่อน คำแรก affiliate program แปลตรงๆ คือ แผนการการร่วมมือเป็นเครือข่าย ในที่นี้ก็คือ การแบ่งผลประโยชน์ค่าคอมมิชชั่นจากการขายสินค้าหรือบริการให้แก่ผู้ที่ช่วยขาย ซึ่งเราจะเห็นในลักษณะของการนำ code หรือ link จากเจ้าของสินค้ามาแปะในเว็บไซต์เรา มันจะแตกต่างจากการติดแบนเนอร์โฆษณาปกติ คือ โฆษณาเป็นเพียงแค่การนำเสนอสินค้าหรือบริการของเจ้าของสินค้าในเว็บไซต์เราโดยอาจจะมี link กลับไปยังเว็บไซต์เจ้าของสินค้า แต่ affiliate program จะมีเป้าประสงค์ที่ให้ลูกค้าที่เข้ามาสุดท้ายได้ตัดสินใจซื้อสินค้านั้นเลยถึงจะมีการแบ่งรายได้ให้ โดยเจ้าของสินค้าจะตรวจสอบจาก code หรือ link ที่กล่าวมาในข้างต้น ส่วน affiliate marketing สำหรับผมคือ การทำการตลาดซึ่งขยายผลจาก affilate program ออกไปอีกขั้น ทำให้เราสามารถขายสินค้าโดยไม่ต้องมีหน้าร้านของตัวเอง สิ่งนี้สามารถทำได้เพราะ Search engine marketing ที่มี Contextual Ads ช่วยกระจาย link ของเราไปยังเว็บไซต์ต่างๆ

รูปภาพจาก www.cooyablue.com

แต่ก็นั้นแหละครับ ก็มีหลายๆ คนตกเป็นเหยื่อ จากผู้ที่ทำธุรกิจเชิงลบโดยอาศัยประโยชน์จากการ Contextual Ads ตัวนี้แต่เพียงอย่างเดียว ไม่ได้ต้องการขายสินค้าหรือบริการใดๆ หากเคยได้ยินพวกนี้จะบอกให้เหยื่อมาเล่นเน็ต มาดูโฆษณา มาคลิ๊ก Ads ที่เห็น แล้วจะได้เงินตามจำนวนคลิ๊ก และสามารถถอนเงินได้ตามวันที่กำหนด แต่ส่วนใหญ่มักจะถูกโกง เพราะโดยพื้นฐานสิ่งที่คนเหล่านี้ทำก็ผิดและไร้จรรยาบรรณอยู่แล้ว โฆษณาประชาสัมพันธ์มีวัตถุประสงค์เพื่อการสื่อสารจากผู้มีความต้องการขายไปยังผู้มีความต้องการซื้อ ไม่มีเหตุผลใดเลยที่จะให้คนมาคลิ๊ก Ads เยอะๆ แล้วมีคนได้เงิน 2 คนคือ ผู้ให้บริการ Contextual Ads และผู้นำ Contextual Ads นั้นไปแปะบนเว็บไซต์ มันจะเกิดประโยชน์อะไรขึ้นมากับเศรษฐกิจโดยรวม การอยู่โดยการหลอกลวงคงไม่หยั่งยืนเท่าอยู่อย่างพอเพียงหรอกจริงไหมครับ

สุดท้าย วันนี้อาจจะกล่าวได้ว่าหลายๆ คนคงรู้จัก affiliate marketing ที่ผมกล่าวถึงนี้ในชื่อของโมเดล Google Rich ซึ่งคุณตราวุทธิ์ได้ทดลองทำด้วยตนเองสมัยที่ยังเรียนอยู่ที่อเมริกา และได้เขียนไว้ในหนังสือที่ชื่อ Google Make Me Rich สิ่งที่เขาทำคือการ ค้นหาสินค้าหรือบริการที่กำลังเป็นที่น่าสนใจของตลาดจากผู้ให้บริการ affiliate program อย่าง cj.com, clickbank.com เป็นต้น และก็ไปซื้อโฆษณา Pay per click จาก Google AdWords ดังนั้น link ของเขาจะไปปรากฎในลักษณะของ keyword บน Google และเว็บไซต์ที่ติด Google AdSense ซึ่งก็คือการลงทุนอย่างหนึ่งในการซื้อโฆษณาจาก Google เพื่อขายสินค้าให้กับผู้ให้บริการ ข้อดีคือ เขาไม่ต้องมีสต็อก ไม่ต้องยุ่งเรื่องการส่งของ ไม่ต้องดูแลร้านค้า ไม่ต้องมีบริการหลังการขาย เพียงแค่เลือกสินค้าและ keyword ให้ถูกเท่านั้น แต่เบื้องหลังความสำเร็จนี้ คงไม่ได้มาโดยง่ายดาย มันเป็นสิ่งที่ต้องผ่านการตัดสินใจหลายๆ อย่างในชีวิต และก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะโชคดีจากการทำเช่นเดียวกับเขา

มีหลายคนที่เสียเงิน และเสียเวลาไปกับการพยายามทำธุรกิจบนอินเทอร์เน็ต มีโจรที่หลอกลวงคนไม่รู้อิโหน่อิเหน่ และก็มีฮีโร่ผู้ประสบความสำเร็จเกิดใหม่ให้เห็นในวงการ อินเทอร์เน็ตจึงเป็นดินแดนพิศวงซึ่งมีทั้งโอกาสและภัยร้ายแอบซ่อนอยู่ มีน้องคนหนึ่งถามผมว่า ผมทำกำลังทำอะไรบนอินเทอร์เน็ต และอยากได้อะไรจากการทำสิ่งเหล่านี้ ผมก็เพียงแต่รู้ว่า ผมกำลังสนุกและชอบดินแดนแห่งนี้ ผมได้สร้างอาคารและได้พยายามนำอาคารนี้มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด บางคนทำงานแทบตาย มีเงินเยอะแยะ แต่ไม่มีความสุขเท่าผม ถ้ามีทางเลือกสำหรับชีวิต คนต้องการอะไร แล้วคุณหละคิดอย่างไร How do u think?

หมายเลขบันทึก: 192979เขียนเมื่อ 9 กรกฎาคม 2008 09:01 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 23:03 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

อ่านความเห็นเชิงเปรียบเทียบของคุณโยม ทำให้อาตมานึกเปรียบเทียบไปเรื่อย ถึงโลกแห่งอินเทอร์เน็ต...

GoToKnow คล้ายๆ กับนิยมสร้างตนเองในสมัยก่อน เช่น นิคมควนกาหลง นิคมเทพา ฯลฯ ซึ่งเปิดให้คนเข้าไปจับจองพื้นที่เพื่ออยู่อาศัยหรือทำมาหากิน โดยมีรัฐเป็นผู้ควบคุม แบ่งสรร และสนองตอบความต้องการพื้นฐานตามสมควร...

สมาชิกที่เข้าไปอยู่ในนิคม ก็ร้อยพ่อพันแม่ มีพื้นฐานที่มาและอื่นๆ แตกต่างกันมาก... มีการทะลาะกัน จับกลุ่มแบ่งพวก และอื่นๆ ไปตามธรรมชาติ... บางคนก็ตั้งตัวได้ในนิคม บางคนก็จากไป หรือบ้างก็ขายสิทธิ์ซื้อสิทธิ์ของคนอื่นในเวลาต่อมา...

ส่วนที่คุณโยมเล่ามานั้น มิใช่นิคม แต่เป็นหมู่บ้านจัดสรร อาคารชุด อาคารพาณิชย์ หรืออื่นๆ...

เจริญพร

 

นมัสการครับ

สังคมจะสงบสุขหรือวุ่นวาย ก็ขึ้นอยู่กับคนในสังคม
ในไซเบอร์สเปซ มีทั้งคนที่เข้ามาเพื่อแสวงหาตัวตน เข้ามาเพื่อกอบโกยกำไร และจุดประสงค์อื่นๆ อีกมากมาย
แต่ถ้าจะเข้ามาทำธุรกิจในโลกเสรีแห่งนี้ ผมอยากจะขอให้ผู้ประกอบการมีคุณธรรม และควบคุมตัวเองได้ ไม่ให้ความโลภครอบงำอยู่เหนือสิ่งที่ถูกที่ควรครับ

นมัสการหลวงพี่

สวัสดีค่ะพี่ดิ้ง

ฟาร์ก็กำลังทำอยู่เหมือนกันธุรกิจบนอิตเตอร์เน็ต แต่ยังไม่บอกว่าเป็นอะไร สำเร็จแล้วค่อยมากเล่าให้ฟัง

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท