@..อานิสงส์(ประโยชน์)ของการเจริญเมตตา..@


                          

 

                                                                                                                

ในสาวัตถีนิทาน พระพุทธองค์ได้ตรัสถึงอานิสงส์(ประโยชน์)ของการเจริญเมตตาไว้ดังนี้ "ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อเมตตาเจโตวิมุตติ อันบุคคลเจริญแล้ว ทำให้ให้มากแล้ว  ทำให้เป็นดังยาน (พาตนข้ามกิเลสไปสู่นิพพาน)ทำให้เป็นที่ตั้งตั้งไว้เนืองๆอบรมดีแล้ว   ปรารภดีแล้ว อานิสงส์๑๑ประการเป็นอันหวังได้ อานิสงส์ ๑๑ประการเป็นไฉน  คือ

 

๑.ผู้เจริญเมตตาย่อมหลับเป็นสุข

๒.ย่อมตื่นเป็นสุข

๓.ไม่ฝันลามก(เรื่องเลว,เรื่องหยาบช้า)

๔.ย่อมเป็นที่รักของมนุษย์

๕.ย่อมเป็นที่รักของอมนุษย์ (ผู้ที่จิตยังไม่ประเสริฐ)

๖.เทวดา (ผู้มีจิตใจสูง)ย่อมรักษา

๗.ไฟ ยาพิษ หรือศาสตราย่อมไม่กล้ำกลาย

๘.จิตของผู้เจริญเมตตาย่อมเป็นสมาธิได้รวดเร็ว

๙.สีหน้าของผู้เจริญเมตตาย่อมผ่องใส

๑๐.ย่อมไม่หลงใหลกระทำกาละ (ตายอย่างมีสติ)

๑๑.เมื่อยังไม่แทงตลอดธรรมอันยิ่ง(นิพพาน)ย่อมเข้าถึงพรหมโลก


       ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อเมตตาเจโตวิมุตติอันบุคคลเสพแล้ว เจริญแล้วทำให้มากแล้วทำให้เป็นดังยาน ทำให้เป็นที่ตั้ง ตั้งไว้เนืองๆอบรมแล้ว ปรารภดีแล้วอานิสงส์๑๑ประการนี้เป็นอันหวังได้"(จากสาวัตถีนิทานพระไตรปิฎกเล่มที่๓๑ข้อ๕๗๔)

นอกเหนือจากอานิสงส์ ๑๑ประการที่กล่าวไปแล้วยังมีอานิสงส์อื่นอีกที่พระพุทธองค์ได้ตรัสไว้เกี่ยวกับผลของการเจริญเมตตาซึ่ง ณที่นี่จะขอยกมาสัก ๒ประการ

-    ทำลายความพยาบาท ดังข้อความที่ว่า

"เมตตาเจโตวิมุตติ(การประพฤติปฏิบัติจนจิตหลุดพ้นจากกิเลสด้วยการเจริญเมตตา)อันภิกษุเจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ทำให้เป็นดุจยาน ทำให้เป็นที่ตั้ง ตั้งมั่นแล้ว

อบรมแล้ว ปรารภดีแล้ว ก็แต่ว่า พยาบาทจักครอบงำจิตของเธออยู่ ข้อนั้นจึงไม่เป็นฐานะที่จะมีได้   เพราะเมตตาเจโตวิมุตตินี้เป็นเครื่องสลัดออกซึงพยาบาท


               ..จากเมตตาสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๒ข้อ ๒๘๔

-บรรลุถึงอรหันต์ คือนิพพาน (ดับกิเลสสนิท)ดังข้อความที่ว่า

"พึงเจริญเมตตาในใจไม่มีประมาณในสัตว์ทั้งปวง เหมือนมารดาถนอมบุตรคนเดียวที่เกิดในตน แม้การยอมสละชีวิตได้ ในทุกทิศทางไม่ว่าจะยืน เดิน นั่งนอน พึงเป็นผู้ปราศจากความง่วงเหงาหาวนอน พึงตั้งสติไว้เพียงนั้น บัณฑิตทั้งหลายกล่าววิหารธรรมนี้ว่าไม่อาศัยทิฎฐิ เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยทัศนะนำความยินดีในกามทั้งหลายออกได้แล้วย่อมไม่ถึงความนอนในครรภ์อีกโดยแท้แล"


              ..จากเมตตาสูตรที่ ๘  พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๕ ข้อ ๓๐๘ )

ในเมื่อความเมตตา(ความรักอย่างไม่เจือด้วยกิเลส)มีผลประโยชน์มากมายขนาดนี้ควรหรือยังที่เราท่านทั้งหลายจะหันมาปฏิบัติเมตตากันอย่างจริงๆจังๆ มากกว่าการที่เราท่านจะมาเน้นที่การท่องเหมือนเด็กๆที่นั่งท่องเพื่อให้จบๆกิจกรรมแล้วก็ประพฤติปฏิบัติ ด้วยการฆ่า การทำร้าย การเบียดเบียนอยู่เหมือนเดิม..



                                                                 


                                  

                                          ภาพประกอบจากอินเทอร์เนต

หมายเลขบันทึก: 192906เขียนเมื่อ 8 กรกฎาคม 2008 20:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:16 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)
        เมตตาธรรม  ค้ำจุนโลกา

P

ธรรมสวัสดีนะโยมคุณครู

อนุโมทนาสาธุ..บุญรักษา

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท