วันนี้มีเรื่องเล่า ภาคปฏิบัติวันที่ 7 ก.ค. 51 ของ beeman ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับการประหยัด+วิธีคิด แบบเศรษฐกิจพอเพียง....(วิธีคิดของแต่ละคนอาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน แล้วแต่จะตีความเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง)
เรื่องพื้นฐานเดิม คือ ผมทดลองจะไม่เพิ่มเงินเดือนตัวเอง แต่พยายามใช้ให้พอ..(ความจริงเงินเดือนมันเต็มเพดาน C7 มานานแล้ว แต่ผมไม่ทำผลงานเพื่อเพิ่มซี ลองดูว่าจะอยู่ในระบบได้ไหม..อาจจะต้องทนแรงบีบคั้นเอาหน่อย..แต่เราจะทดลองดู)
เรื่องพื้นฐานเดิมอีก คือ ผมมีรถยนต์ใช้งานอยู่ ๒ คัน ทุกปี ต้องเสียภาษี ตรวจสภาพและต่อพรบ. รวมประมาณปีละ ๔ พันกว่าบาท...ก็ไปได้ความรู้มาจากท่านอาจารย์ทองม้วน (มรภ.มหาสารคาม) ว่า แกมีรถเก่าใช้งานได้อยู่ประมาณ 7 คัน ลูกศิษย์ลูกหาในขนส่งจังหวัดแนะนำให้ลดรายจ่ายในแต่ละปี โดยแจ้งรถไม่ใช้+ใช้สลับกันไป...ผมก็ลองนำมาใช้บ้าง
เรื่องต่อมาผมเข้าไปเติมน้ำมันในเมือง (ผ่านเข้าไป) แต่ก่อนน้ำมันลิตรละ ๒๐ กว่าบาท ผมใช้น้ำมันเฉลี่ยเดือนละ 1,000 บาท เดี๋ยวนี้น้ำมัน (ราคาวันต่อวัน) ดีเซลหน้าปั้มพิษณุโลกราคา 45.23 บาท ผมไปเติมน้ำมันที่ปั้มบางจาก มี B5 ให้เติม และเติมเองถูกกว่าลิตรละ 20 สตางค์ รวมแล้วน้ำมันปั๊มนี้ราคาลิตรละ 44.33 บาท ถูกไป 90 สตางค์ อย่างไรก็ตามผมพยายามคุมค่าน้ำมันไม่ให้เกินเดือนละ ๒,๐๐๐ บาท...ครั้งนี้เติมเต็มถัง 32 ลิตร จ่ายไป 1,440 บาท (ไม่เต็มเสียทีเดียว)
เรื่องต่อมาผมก็ไปธนาคารกสิกรไทยโอนเงิน 4,000 บาท ไปเชียงใหม่ เสียค่าธรรมเนียมไป 30 บาท ขณะเดียวกันผมก็ไปแจ้ง Link บัตรเครดิต ให้ตัดค่าใช้จ่ายผ่านบัญชีธนาคารออมทรัพย์...พร้อมทั้งทำบัตรเครดิตให้เป็น ATM ด้วย (ตรงนี้เราจะประหยัดค่าบัตร ATM ปีละ 150 บาทถ้าเข้าใจไม่ผิด)
ขอชี้แจงหน่อย...เท่าที่ทราบธนาคารที่เราสามารถใช้บัตรเครติดเป็น ATM พ่วงกับบัญชีออมทรัพย์ได้ มี ๒ ธนาคาร คือ กสิกรไทย และ ธ.กรุงเทพฯ ตรงนี้เราประหยัดเงินได้ปีละ 150 บาท
พอผมโอนเงินเสร็จ เจ้าหน้าที่ธนาคารก็บอกว่า ที่ม.นเรศวร มีสาขาของธนาคารกสิกรไทยไปเปิดแล้ว ให้อาจารย์ไปใช้บริการได้ จะได้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมาในเมือง (แต่ว่าอย่าปิดบัญชีที่ในเมืองน๊ะ) ตรงนี้ผมก็จะประหยัดค่าใช้จ่ายที่จะต้องเข้าเมือง ครั้งละ 40-150 บาท (มากกว่าค่าโอนเงินเสียอีก) แถมผมมีบัตรเครติดที่เป็น ATM ได้ด้วย ถ้าใครโอนเงินเข้าบัญชี ผมก็ไปเบิกได้โดยใช้ ATM
ผมไปที่ธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับ ธ. กสิกรไทย ไปเบิกเงิน และสอบถามเรื่องทำบัตรเครดิตแล้วอยากทราบว่าผลการพิจารณาเป็นอย่างไร เจ้าหน้าที่ธนาคารก็ดีมาก (ผู้ชาย) พาไปที่เครื่องโทรฯ ของธนาคาร เพื่อโทรไป Call Center ที่กรุงเทพฯ (โดยเราไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย) ผลปรากฏว่าบัตรของผมไม่ผ่าน (แจ้งเรื่องวันที่ 12 พ.ค.) แล้วเขาแจ้งผลผ่านทาง SMS มือถือ วันที่ 5 มิ.ย. 51 (ผมเช็คดูแล้วไม่ได้รับ)
เจ้าหน้าที่ธนาคาร ยังมาคุยกับผมว่า ธนาคารอยากให้ลูกค้าที่ไม่มีปัญหาถือบัตรเครดิตของธนาคาร แต่ถ้าใครมีปัญหา ไม่ถือก็ดี เพราะว่าค่าใช้จ่ายมันสูง..อิอิ บริการลูกค้าสัมพันธ์ที่ดีมาก (ชมจริงๆ)
แล้วถือบัตรเครดิตมันเป็น ศก.พอเพียงตรงไหน ผมก็นำเรื่องมาคุยกับลูกสาว (สอนแบบไม่สอนไปด้วย)...บอกว่าการที่ธนาคาร ไม่ออกบัตรเครดิตให้เรา แสดงว่าเขาวิเคราะห์ว่าเราอาจมีปัญหาในการเคลียร์ค่าใช้จ่าย เรายื่นไป ๒ แห่งไม่ผ่าน...ก็ดีมากที่เราจะนำมาอ้างกับ TeleSale ที่โทรมาขายโน่นขายนี่ให้แก่เราสัปดาห์ละครั้ง รวมทั้งขอให้ถือบัตรเครดิตด้วย...เราก็จะได้มีข้ออ้างว่า เราขอถือบัตรไป ๒ ธนาคารแล้ว ไม่ผ่าน แสดงว่าเครดิตไม่ค่อยจะดี ดังนั้นไม่ต้องมาเสนอขายอะไรกับเรา...(ประหยัดไปได้อีก และเราก็ไม่ได้พูดโกหกด้วย)
สรุปตอนนี้ ธนาคารที่มีสาขาในมน. (เรียงตามลำดับ) คือ ธ.กรุงศรีอยุธยา, ธ.กรุงเทพฯ, ธ.กรุงไทย และ ธ.กสิกรไทย..เวลาทำธุรกรรมทางการเงินกับธนาคารเหล่านี้จะได้ไม่ต้องเข้าเมือง....
อีกเรื่องหนึ่ง ผมคิดว่าเราต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองบางเรื่องเพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับนิสิตบ้าง คือการจัดห้องพักที่รกเหลือเกิน พอจะจัดห้องก็พบว่าหน้าต่างด้านนอกมันเป็นคราบเยอะมาก เลยปรึกษากับแม่บ้าน (ชั้น 3) แม่บ้านบอกว่า เดี๋ยวเขาจะจ้าง รปภ.(สมาน) มาทำให้ (แต่แม่บ้านเงินเดือนประมาณ 2,800-3,000 บาท ถ้าต้องจ้างแล้วจะเอาเงินที่ไหนมาใช้) แต่ผมคิดว่าผมควรจะจ่ายเอง (ในสัญญาทำความสะอาดเป็นหน้าที่ของแม่บ้าน) เลยไปคุยกับสมาน...ให้ช่วยมาทำตอนเลิกงาน 6 โมงเย็น....พอถึงเวลา เขาก็มาทำแบบมืออาชีพ นำเครื่องมือมาด้วย แต่เขามีเวลาน้อย เลยทำได้ไม่ค่อยสะอาดเท่าที่ควร (แต่ก็ดีกว่าผมทำเองมากๆ ) ใช้เวลาทำงาน 1.15 ชั่วโมงเท่านั้น เขาขอ 100 บาท แต่ผมให้ไป 140 บาท (พอใจกันทั้งสองฝ่าย)...ห้องทำงานผมดูดีขึ้นมาก...เราต้องมีความสุขในที่ทำงาน และการทำงานคือการปฏิบัติธรรมอย่างหนึ่ง...
ได้วิธีคิดแบบ ศก.พอเพียงหรือไม่ครับ...คือเราพยายามพึ่งตนเองให้มาก ไม่ใช่ทุกอย่างเราต้องทำเรื่องเบิกจากทางราชการ ทุกอย่างต้องเป็นเงินเพื่อให้มีรายได้เพิ่มขึ้น แต่เราหาวิธีลดรายจ่าย และทำงานอย่างมีความสุข
หมายเหตุ ระหว่างทำความสะอาดห้องก็พบว่า สายไฟที่เดินตามผนังและมีปลั๊กไปประมาณ 10 จุดได้เกิดเหตุไฟไม่เดินตามสาย ทำให้ตู้เย็น 2 ตู้หยุดทำงาน (ไม่ต่ำกว่า 7 วันมาแล้ว) โดยไม่มีใครทราบ เพราะว่า ไฟตรงจุดอื่นๆ ไม่มีปัญหา.....
มนุษย์ผึ้งมหัศจรรย์
神奇的蜂爷
(shen2 qi2 de1 feng1 ye2)
สวัสดีครับ
ได้ข้อคิดดีๆ หลายอย่างเลยสำหรับการประหยัดในช่วงเศรษฐกิจตกสะเก็ดแบบนี้
สมัยก่อนก็มีบัตรเครดิตกับเขาเหมือนกัน เป็นของ Amex แต่ยกเลิกไปแล้ว เพราะเวลาชำระจะต้องชำระทั้งหมดในแต่ละเดือน (ไม่ทราบว่าปัจจุบันนี้เป็นไง เห็นเงียบ ๆไป) บางเดือนเงินชอต ก็ส่งไปทัน ถูกปรับดอกเบี้ยอานเลย เพราะสมัยนั้นใช้เงินไม่เป็น ซื้อไปเรื่อย ไอ้ของที่ชอบ โดยไม่คิดว่าจำเป็นรึเปล่า จนวันหนึ่ง ตอนนั้นทำงานให้บัณฑิตวิทยาลัย ไปประชุมกับอธิการบดีคนก่อน ศ.ดร. สุจินต์ แล้วพูดถึงเรื่องบัตรเครดิต ท่านเรียกบัตรเครดิตว่าบัตรฉิบหา... ผมนะไม่มีหรอก ใช้เงินสดดีกว่า ที่บ้านให้ติดตัวสองร้อยบาท ฟังท่านเล่าแล้วนึกภาพตอนนั้นออกเลย ก็เลยไปกู้เงินสหกรณ์มาปิดบัตร จนบัดนี้ก็ยังไม่มีใช้กับเขาเลย
สวัสดีค่ะ คุณbeeman
ได้ความรู้ดีๆค่ะ
ขอบคุณค่ะ
ยินดีที่ได้แลกเปลี่ยนและเรียนรู้ร่วมกัน
คิดบวกดีครับ..
สวัสดีครับ ท่านวศิน
สวัสดีครับ อ.นารี
สวัสดีท่าน berger
ท่านคนโรงงาน