การวิเคราะห์วิธีนี้ใช้กันที่ Lab. of Soil Environ. Science & Plant Nutrition มหาวิทยาลัย Kochi ประเทศ ญีปุ่น
วิธีนี้ถ้ามีจำนวนตัวอย่างดินมากและใช้ pipet หรือ micro pipet จะค่อนข้างเสียเวลาในการเตรียมความเข้มข้นของกรดไฮโดรคลอริกในสารละลายดินที่แตกต่างกัน 7 อย่าง ดังนั้นการใช้เครื่อง Automatic dispenser เพื่อเตรียมความเข้มข้นของสารละลายดินน่าจะเป็นทางเลือกที่น่าพิจารณา
นอกจากนี้ยังต้องจัดหาขวดแก้วบรรจุตัวอย่างดินให้เพียงพอ เนื่องจากดินหนึ่งตัวอย่าง จะใช้ขวดแก้ว 7 ขวด
PZSE (Point of zero salt effect) & σp
I. Reagent
1. 0.1 M
HCl
2. 2 M
NaCl
Dry the approximately 13 g NaCl in
the oven with 105 oC for 1 hour, and subsequently cool
down it in desiccators for 30 minute.
Dilute NaCl 11.688 g (measure exactly) to 100 ml with
deionized water.
II. Procedure
1.
Weight 2.00 g soil and transfer it into 50 ml grass
bottle.
2. Prepare it
7 sets totally using same soil.
3.
Add 7 difference concentration of 20 ml HCl
solution to them;
e.g.
(1) 20 ml (deionized water)
+ 0.0 (0.1 M HCl)
(2) 19.8
+0.2
(3) 19.5+
0.5
(4) 19.2+
0.8
(5) 19.0+1.0
(6) 18.5+
1.5
(7) 18.0 + 2.0
*Bold concentration must be prepared.
*Maximum of additional HCl is 2.5 ml.
4. Shake by
hand for 10 second.
5. Keep them 4
days (shake by hand 1 time for 10 second per
day).
6. Measure the
pH ---------------------- pH1
7.
Add NaCl 0.5 ml
8.
Shake by reciprocal machine for 3
hours.
9. Measure the
pH ---------------------- pH2
III. Caluculation
1. Calculate the amount of adsorbed H+ in the pH1 and
pH2 using following formula.
H+ = (added HCl ml x blank ml) x 0.1
N/1000 x 1000 x 100g/2g
: where
blank is the value selected from two tables
showing next pages.
2.
Draw the graph and obtain the value of ZPC and
σp.
Draw the two curve lines:
relationships between value of adsorbed H+ and pH on the
both pH1 and pH2.
The pH at the
intersection point means PZSE.
Amount
of absorbed H+ at the PZSE means the σp.
ผมได้ลองใช้ micro pipet เพื่อเตรียมความเข้มข้นของสารละลาย พบว่าใช้เวลาไม่มากนัก บางครั้งถ้ามีการปรับความถูกต้องของตัว micro-pipet ให้ดีเพียงพอ ผมคิดว่าสามารถจัดเตรียมสารละลายได้รวดเร็วพอๆ กันหรืออาจจะเร็วว่าการใช้เครื่อง aotomatic dispenser ซะอีก ก็ขึ้นอยู่กับทักษะการทำงานของแต่ละบุคลลครับ
ผมมีความสุขมากครับช่วงนี้ เนื่องจากได้ปิดแลปวิเคราะห์ทางเคมีไปเรียบร้อยแล้ว (ลากันซะที เคมีวิเคราะห์)
ผมจะได้กลับไปมีความสุขกับสิ่งผมเติบโตขึ้นมา นั่นก็คือ GIS นี่เอง หลังจากทิ้งกันไปชั่วคราว แค่สองปีครึ่งเองนะ
แต่ก่อนที่ชีวิตผมจะห่างจากพวกเคมีเหล่านี้ไป ผมคงต้องบันทึกเกี่ยวกับปัญหาที่พบในขั้นตอนการแปลผลด้าน negative charge characteristics ซะก่อน
ผลจากการทำวิเคราะห์ Zigma P (Net permanent charge) นี่ทำให้ผมต้องปวดหัวเกี่ยวกับการสร้างกราฟการดูดซับอะตอมโปรตรอนของดินตัวอย่าง
ก็การคำนวณจำนวนประจุของโฮโดรเจนที่ได้ มันดูไม่สวยงามซะเลย ก็เลยทำให้ผมไม่รู้ว่าจะเลือก วิธีไหนมาเลือกสร้างเส้นกราฟแนวโนม (trendline) ดี มีตัวเลือกทั้ง linear, log, polynomial, expo, และอีกมากมาย
ถามรุ่นพี่ก็บอกแค่ว่า ใช้แบบไหนก็ได้ที่ให้ค่า r square มีค่าสูงที่ยอมรับได้ ก็ประมาณ 0.9 พูดง่ายแต่ทำยาก เพราะในหนึงรูปกราฟ จะต้องมี เส้นกราฟสองเส้น ลากมาตัดกัน
[จุดตัดระหว่างกราฟสองเส้นนั้น แสดงถึงค่า pH ที่อนุภาคดินจะดูดซับไฮโดรเจนและไฮดรอกไซด์ไออนในปริมาณที่เท่ากัน ทำให้ net charge of variable มีค่าเป็นศูนย์ (มักเรียกว่า ZPC, point of zero charge)]
การสร้างเส้นแนวโนมของข้อมูลทั้งชุด ควรจะสร้างด้วยวิธีเดียวกัน แต่ถ้าใช้ต่างวิธี เช่น สร้างเส้นแนวโน้มของข้อมูลชุดแรกด้วย linear แต่ข้อมูลชุดที่สองใช้วิธี polynomial กำลังสอง ผลที่ได้คือ จุดตัดกันระหว่างเส้นกราฟสองเส้น จะต่างตำแหน่งกัน และส่งผลต่อการคำนวณหาค่า PZSE และ Zigma P
ดังนั้นการเลือกวิธีการสร้างเส้นแนวโน้มที่เหมาะสมจะเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการคำนวณหาค่าทั้งสองที่กล่าวมา
ผมเลยไปถามอาจารย์น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด ก็อาจารย์ซากุไร ที่เป็นต้นกำเนิดวิธีการวิเคราะห์นี้ขึ้นมานี่แหละครับ
เกินคาดครับ อาจารย์ท่านใจดีต่อผมมากครับ ถ่ายเอกสารมาให้ผมหนึ่งแผ่น เป็นสูตรการคำนวณหาค่า PZSE แถมเป็นภาษาญีปุ่นซะด้วย (แล้วก็ไม่เห็นมีบอกเลยว่าใช้วิธีอะไรสร้างกราฟ)
งานนี้ผมเลยต้องเดาใจอาจารย์ว่า ท่านหมายถึงอะไร ผมก็สรุปเองว่าสงสัยเป็นวิธีการเรียนแบบญีปุ่นมั๊งครับ ที่เรียนแบบ learning by doing แต่นิสัยที่ติดตัวของผมจะเป็น learning by listening ซะมากกว่า ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีมากเลยสำหรับนักวิจัยทุกรุ่น
แต่ผมว่าอาจารย์ของผมคงลึกซึ้งมากกว่านั้น คือให้นักเรียนของเขาเรียนรู้ by discovering ซะมากกว่า และปล่อยให้เด็กมีความอิสระทางความคิดงานวิจัยสูง ซึ่งต่างจากแลปอื่นๆ ในญี่ปุ่น
ผมอาจจะโชคดีหรือเปล่านี่ ที่อาจารย์ปล่อยให้ดำเนินการวิจัยเองทุกขั้นตอน ส่วนท่านคอยทำหน้าที่เสมือนพี่เลี้ยงคอยให้คำแนะนำในด้านต่างๆ (แต่ส่วนใหญ่ให้เราตัดสินใจเองทุกที) เราคล้ายกับเป็น research project leader
ที่จริงตำแหน่งนี้ผมยังไม่อยากได้นะ ผมว่า ผมเป็นแค่นักเรียนปริญญาเอกเองนะ ยังไม่แกร่งถึงขั้นนั้น สงสัยจะฝึกผมเร็วไปหน่อยมั๊ง คงเผื่อเอาไว้สำหรับในอนาคตอันใกล้
ส่งกลับมาเรื่อง การสร้างเส้นกราฟแนวโน้มต่อครับ ตกลงผมเลือกวิธี polynomial กำลังสอง เพราะเส้นกราฟมีค่า r square สูงจนยอมรับได้ (ที่จริงมันดูสวยดีผมเลยเลือก...อ่ะไม่ใช่...ผมพูดเล่นครับ) แล้วผมก็มีทางเลือกที่สองคือ ใช้ไม้บรรทัดกระดูกงู ที่สามารถงอคดโค้งได้ตามที่เราต้องการ ไม่แน่ใจว่าเรียก spline หรือเปล่า ก็นำมาสร้างเส้นโค้งแสดงแนวโน้มของชุดข้อมูลได้ดีพอสมควรครับ
ข้อสังเกตที่พบคือ บางตัวอย่างดิน ไม่สามารถหาจุดตัดกันระหว่างกราฟทั้งสองเส้นได้ ไม่ว่าสร้างเส้นกราฟด้วยวิธีไหนก็ตาม นั้นอาจจะเป็นเพราะดินมีความเป็นกรดสูงทำให้ไม่สามารถหาค่า ZPC ได้ เนื่องจากปริมาณ variable charge จะผันแปรไปตามค่า soil pH ผมไม่ได้ถามอาจารย์โดยตรง เดี๋ยวโดนด่าว่า มีอยู่ในหนังสือทำไมไม่หาอ่านเอง (ผมจะลงในรายละเอียดเพิ่มเติมครับ หลังจากหาเอกสารอ้างอิงได้นะครับ)
สำหรับดินที่ไม่สามารถหาค่า PZSE กับ zigma P อาจจะเป็นเพราะว่า เนื้อดินเป็นทรายมากเกินไป ทำให้ไม่สามารถคำนวณหาค่านั้นได้
ตกลงผมก็ยังไม่ทราบกลไกลทางเคมีอยู่ดี ว่าทำไมถึงหาค่าเหล่านี้ไม่ได้ ยังต้องค้นคว้าหาอ่านจากหนังสือต่อไปครับ
---------------------------------------------------------------------
บันทึกเพื่อความเข้าใจและกันลืมเกี่ยวกับการเผาแปลงและค่า PZSE
จากที่ผมได้เกรินว่าค่าของ PZSE จะแปรผันไปตามการเปลี่ยนแปลงของค่า pH ในดิน
นั่นชี้ให้เห็นว่า การเผาวัสดุบนผิวดินระหว่างขั้นตอนการเตรียมพื้นที่เพาะปลูก อาจจะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงค่า PZSE ได้ไม่ทางตรงการทางอ้อม เพราะหลังจากเผาแปลงเพาะปลูก ค่า pH ของดินจะสูงขึ้นอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง เนื่องจากขี้เถ้าที่เหลือจากการเผามีฤทธิ์เป็นด่าง (ซึ่งมีปริมาณ Ca, Mg, K และ Na สูงมาก) ทำให้เกิดการปรับปรุงดินให้มีความเป็นกลางมากขึ้น (pH สุงขึ้น)
แต่ก็มีพื้นที่หลายแห่งที่ค่า PZSE ไม่เปลี่ยนแปลงหลังจากการเผาแปลง นั่นเป็นเพราะความรุนแรงของไฟมีไม่เพียงพอ (ประมาณต่ำกว่า 200องศา C) ที่จะไปเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบของอินทรีย์วัตถุและแร่ดินเหนียวที่อยู่ในดิน
หมายเหตุ: ค่า PZSE สามารถบ่งชี้ถึงปริมาณ negative variable charge ของดิน ซึ่งประจุลบที่ผันแปรเหล่านี้ได้มาจาก อินทรีย์วัตถุ แร่ดินเหนียวพวก kaolin และ อ๊อกซไซด์ของเหล็กและอะลูมินั่ม