29-6-51
ดิฉันก่อนเกษียณยังไม่ได้ทำอะไรที่อยากทำอยู่ 1 เรื่องคือขอบคุณหมอโอ แพทย์ทางด้านโรคกระดูกที่มาช่วยดิฉันดูเรื่องข้อมูล การcodeโรค การเก็บเงิน ซึ่งเป็นจุดอ่อนที่สุดที่ยังไม่ได้ดูแลอย่างดีเลย
หมอนภาเคยบ่นว่าถ้าหมอโอเลิกทำ สถาบันคงลำบากแน่ๆ
ดิฉันเคยเขียนขอบคุณ คุณหมอโอที่เสียสละให้องค์กร
ในช่วงที่เกษียณแล้วดิฉันนึกถึงลูกสาวที่มาทำงานที่บำราศซึ่งภาระยังไม่มากนัก
ดิฉันเรียนหมอนภาให้ชวนลูกสาวไปทำงานที่หน่วยงาน DRG โดยพยายามชักชวนกล่อมเกลาให้เห็นประโยชน์ของงานซึ่งแพทย์ไม่ค่อยสนใจแต่มีความสำคัญต่อหน่วยงานมากๆเพราะขาดเงินองค์กรคงอยู่ไม่ได้
ลูกสาวก็เชื่อฟังดีค่ะ
ในช่วงกลางวันที่เราออกไปทานอาหาร หมอปานบอกแม่ว่า พี่โอดีใจมากเลยที่มีคนมาช่วยพร้อมเสียงบ่นเบาๆว่าพี่คิดจะออกจากงานนี้ แต่สงสารโรงพยาบาล
พี่ไม่อยากได้ซีหรอกนะ แต่คนซีสูงๆบางคนก็ไม่ทำอะไร
น้องปานอยากไปเรียนฝึกอบรมต่อใหม พี่จะส่งไปให้
ลูกสาวหลังจากสัมผัสพี่โอแล้วบอกแม่ว่าพี่โอใจดีนะแม่
ดิฉันอยากให้ลูกได้ทำงานที่เป็นประโยชน์ต่อองค์กรโดยไม่จำเป็นที่จะต้องฝังกับงานเดิมๆเหมือนกับที่หมอนภาจะให้หมอเล็ก น้องใหม่หมอทางโรคกระดูกและข้อของสถาบันไปเรียนต่อทางด้านไอทีเพื่อช่วยงานสถาบันค่ะ
ปัจจุบันนี้การทำงานต้องรู้เรื่องมากมายจึงจะคิดพัฒนาได้ทั้งระบบค่ะ
เมื่อเราเรียนในสาขาอื่นๆทำให้เราเห็นช่องทางของการพัฒนางานของเราโดยเฉพาะการใช้ KM
เทคโนโลยี เป็นส่วนสำคัญพอๆกับการสร้างระบบการเรียนรุ้ในหน่วยงานค่ะ
อยากให้คิดถึง ขาดฉันแล้วเธอจะรู้สึกก็ต้องสร้างค่าของตัวเราโดยใช้ความรู้ของเราให้เป็นประโยชน์ต่อเพื่อนร่วมงานให้มากๆค่ะ
ถึงแม้ไม่ได้ประโยชน์โดยตรงต่อวิชาชีพ แต่ความดีนี้จะสระสม รอจังหวะเวลาออกดอกออกผลให้เราเองค่ะ
ที่กำแพงเมืองจีนค่ะ
ขอบคุณ คุณกวินที่เข้ามาทักทายค่ะ
สวัสดีค่ะ
* วิชาชีพ....การเรียนรู้....การทำงาน....หนทาง...การก้าวเดิน..เป้าหมาย....วงล้อกว้างใหญ่...
* เป็นกำลังใจให้ค่ะ
ขอบคุณคุณพรรณาค่ะ