จะเขียนอะไรดีไม่รู้จะเขียนยังไง ก็ไม่ใช่นักเขียน แล้วจะเขียนอะไรให้เค้าสนใจเนี่ย เอ้าอาจารย์บอกจุดประกายว่าอยากเขียนอยากพูด คิดอะไรก็เขียนตามนั้น ก็เลยเขียนได้ลื่นไหล ไม่เกี่ยวกับเกรด โอ๊ะนี่เรื่องเด่น ก็อ้าวจะได้นินทาอาจารย์ได้เต็มที่ไง แหมก็มองอาจารย์ตั้งนาน ก็ไม่คุ้นเรามันเด็กใหม่( อายุอย่าไปพูดเลยมันไม่สุภาพ ) อาจารย์ภาคเทคโนคนเดียวที่เวลาสบตาหรือทักทายแล้ว ไม่คุ้นเคย แต่ที่จริง เป็นอาจารย์ภาคเทคโนคนแรกที่รู้จัก ก็วันที่มาเปลี่ยนแปลงเอก ไม่รู้หรอกว่าเป็นอาจารย์ของภาคนี้ นึกว่าเป็นนักศึกษาป. โทที่มาเรียนเหมือนกัน ก็อาจารย์หน้าตาอ่อนจังนิ แต่อาจารย์ทำให้เราประทับใจเทคโนได้ในวินาทีแรกที่ย่างก้าวเข้ามาสู่เอกเทคโน อาจารย์พูดจาเพราะ บริการให้คำแนะนำดีจริงจริงนะ พอมาเรียนเจอหน้าอาจารย์ ตายแล้วอาจารย์ภาคเทคโน โอมายก๊อต ! หลังจากเข้ามาอยู่ในเทคโนแล้ว สำหรับภาพที่เห็นชินตา และเป็นเอกลักษณ์ของอาจารย์ในความรู้สึกก็คือ Family Man ครอบครัวมีสุข อบอุ่น
เอ้ายังไม่ได้ขึ้นหัวข้อเลย นั่นมันบทนำนะเนี่ย ก็อาจารย์บอกว่าอยากเขียนอะไรก็เขียน เข้าเรื่อง สำหรับ CAI ถามว่ารู้จักมากน้อยแค่ไหน บอกตามความเป็นจริงเลย ก็ งู งู ปลา ปลา มันบอกไม่ได้ว่ามากหรือน้อย แต่สามารถนำไปใช้กับนักเรียนของเราได้ในระดับหนึ่ง ก็โรงเรียนชาวเขา มีคอมพิวเตอร์ใช้ 10 เครื่อง มีนักเรียน 135 คน มีครูสอน 5 คน เด็กนักเรียนชั้นป.1 สามารถใช้เม้าส์ และปิดคอมพิวเตอร์ได้ถูกวิธี สามารถเรียนรู้และตอบสนองกับคอมพิวเตอร์ และสื่อเทคโนโลยีได้อย่างคุ้นเคย ก็น่าจะบอกได้ว่าประสบผลสำเร็จ ไป 20 % มันก็บอกแล้วว่าคอมพิวเตอร์ช่วยสอน มันจะช่วยอะไรเราได้บ้าง แต่ที่มันช่วยเราได้มันคงไม่ได้เสี้ยวของที่เราจะมาเอาจากอาจารย์ เพราะฉะนั้น สิ่งที่คาดหวังอย่างเต็มเปี่ยมก็คือ จะมาเอาความรู้ต่าง ๆ จากอาจารย์ให้มากที่สุด ก็อุตสาห์ แบกกระสอบปุ๋ยลงมาจากดอยเพื่อจะเอาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ไปให้กับเด็กหน้อย บนดอยปู้น.......แล้วเหตุผลรองลงมาเพื่อจะเอาอะไรดี ดี ไปอวดเค้าบ้าง เอ้าก็ ป. โทนเรศวร เอกเทคโนโลยีสื่อสารการศึกษา ( ตรง ตรง ) แล้วมันต้องมีอะไรโชว์ซี ชีวิตน้อย ของครูดอย ฝากความหวังไว้กับอาจารย์( อย่าเพิ่งอ้วกหละ )