เศรษฐกิจพอเพียง <๑> : ต้องเริ่มต้นจากการปฏิวัติความเชื่อหรือวิธีคิด

ต้องภูมิใจที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย บนผืนแผ่นดินไทย

หลังจากไปเข้าโรงเรียนชาวนา (ฉบับกระเป๋า) ที่มูลนิธิข้าวขวัญ มา 5 วันแล้ว รู้สึกว่า จะเข้าใจเรื่อง "เศรษฐกิจพอเพียง" ได้ดีขึ้น ดังนั้นจึงขอใช้เวทีนี้ เขียนบันทึกเกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียงตามความเข้าใจ ซึ่งอาจจะมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนไปบ้าง หากท่านใดเข้ามาอ่านแล้ว ช่วยแสดงความคิดเห็นบอกไว้ด้วยครับ...

ตอนจะเริ่มเขียน ก็ไปค้นหาว่าใครเขียนเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงไว้บ้าง โดยค้นหาใน Gotoknow แต่ยังไม่พบ..ไปพบว่าที่มอ.เขาสร้าง Cop อีกวงหนึ่ง ชื่อว่า Share.psu.ac.th เวลาค้นหาใส่คำ "เศรษฐกิจพอเพียง" ก็พบ tag ดังนี้ Share.psu.ac.th/post/tag/เศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเพิ่งมีหน้าเดียว มี ๕ บันทึก

ลองค้นใน GotoKnow อีกครั้งจาก tag.... Gotoknow.org/post/tag/เศรษฐกิจพอเพียง คราวนี้พบว่ามีบันทึก ๕๒ หน้า (๕๒๐ บันทึก) beeman ก็มีกับเขาเหมือนกัน มี ๓ บันทึกในหน้าแรก (หน้าสุดท้าย)..อิอิ

เศรษฐกิจพอเพียงต้องเริ่มต้นจากปฏิวัติความเชื่อของตัวเอง ดังนี้

ต้องภูมิใจที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย บนผืนแผ่นดินไทย
พ่อกับแม่ ซึ่งเป็นครูคนแรกของลูก ต้องสอนลูกๆ ให้รักผืนแผ่นดินไทย หวงแหนแผ่นดินไทย พอเด็กไปโรงเรียน เวลาเคารพธงชาติ..ครูต้องตั้งคำถามให้เด็กคิด.."ทำไมเราต้องมายืนตรงเคารพธงชาติกันทุกเช้า" อาจจะผ่านครูประจำชั้น ให้เขียนเรียงความ หรือเขียนบันทึกประจำวันก็ได้ และฝึกให้เด็กพูดหน้าชั้นด้วย...ตรงนี้ตอบสั้นๆ ไว้ก่อนครับว่า..เพื่อให้เราคนไทยทุกคน ภูมิใจในสถาบันชาติ (แผ่นดิน) ศาสนา และพระมหากษัตริย์ครับ..(เรื่องยาวครับ เอาไว้ยกยอดไปเขียนในบันทึกถัดไป)
ต้องมีความเชื่อว่า สังคมไทยจะอยู่รอดได้ด้วยพื้นฐานทางการเกษตร..ไม่ใช่อุตสาหกรรม.. ข้อนี้ เพราะเมืองไทยเราเป็นประเทศที่โชคดี มี..ดินดี..น้ำดี..ป่าดี..(แต่ว่าลูกหลานเรากำลังช่วยกันทำลายธรรมชาติเหล่านี้) แถมมีปราการธรรมชาติ ที่คอยช่วยกันพายุต่างๆ ที่จะเข้ามาในประเทศไทย..และยังมีพื้นที่เสี่ยงกับแผ่นดินไหวไม่มากนัก..ดังนั้นพื้นฐานทางการเกษตรเราดี..ภาพรวมการเกษตรของเราจะไม่เสียหายมาก เหมือนดังประเทศทางการเกษตรอื่นๆ..การพัฒนาประเทศไปในทางส่งเสริมอุตสาหกรรม ต้องยืมจมูกคนอื่นเขามาหายใจ ต้องชักชวนต่างชาติเข้ามาลงทุน เป็นระบบทุนนิยม...จะมีคนรวยไม่มาก แต่จะมีคนจนเต็มไปหมด แล้วเกษตรกรก็จะต้องขายที่ทำกิน ผันตัวเองมาเป็นผู้ใช้แรงงาน รับใช้นายทุน..
ต้องนิยามความเชื่อ เรื่องความรวยใหม่..
ดัชนีชี้วัดความรวยต้องเปลี่ยน จากเรื่องมีเงินมาก เป็นเรื่องปัจจัยพื้น๔ คือ ใครมีพื้นที่ทำกิน มีที่อยู่อาศัย, มีอาหารธรรมชาติปลอดสารพิษรับประทาน, มีเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มที่จำเป็น,มีสุขภาพอนามัยที่ดีไม่ต้องพึ่งยารักษาโรค หรือมีพื้นที่ปลูกสมุนไพรรอบบ้านไว้รักษาโรค..รวมทั้งมีสิ่งแวดล้อม น้ำ อากาศที่ดี..ทำให้ชีวิตยืนยาว..เหล่านี้ต่างหากที่เป็นดัชนีชี้วัดความรวย..
ต้องเชื่อว่าเศรษฐกิจพอเพียงเริ่มต้นจากการพึ่งพาปัจจัยภายในมากกว่าปัจจัยภายนอก
พูดง่ายๆ ว่า "ต้องพึ่งตัวเองก่อน" ก่อนที่จะสวรรค์จะมาช่วย..