ในคราวที่ไปเยี่ยมแม่ที่ลำปาง...ซึ่งแม่อายุได้ ๖๐ กว่าปีแล้ว...ท่านเดินเล่นอยู่นอกบ้านบังเอินเดินตกหลุ่ม หัวเข่าขวากระแทกอย่างแรง เป็นสาเหตุให้กระดูกขาขวาหัก..ต้องนอนโรงพยาบาลหลายวัน..
ปกติ แม่ผมท่านแข็งแรงมาก...การไปนอนโรงพยาบาลจึงเป็นสิ่งที่ไม่น่าภิรมย์สักเท่าไร... แต่อย่างไรท่านก็สามารถปรับตัวเข้ากับโรงพยาบาลได้เป็นอย่างดี..และไม่บ่นเกี่ยวกับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น...
สำหรับผมซึ่งอยู่ห่างกับแม่มาก..จึงต้องอาศัยน้องสาวดูแลท่านแทน...และในวันหยุดก็ขึ้นไปเยี่ยมท่าน...
ในครั้งนี้ก็เช่นกัน...ผมกับภรรยาได้ขับรถจากพิษณุโลกไปลำปาง..ซึ่งใช้เวลาในการขับรถราว ๆ ๓ชั่วโมง แต่วันนี้ผมมีอาการท้องอืดตลอดทาง...ท้องใสปั่นป่วน..เพราะแกสในท้องมีจำนวนมาก...
ผมได้แวะร้านจำหน่ายอาหารบริเวณอำเภอเด่นชัย...เพื่อเข้าห้องน้ำ...หากท่านมีอาการอย่างผมก็คงทราบได้ว่าเพราะเหตุใดผมต้องแวะ...ก็มันปวดท้องตด...นะครับ
เมื่ออยู่ในห้องน้ำซึ่งเป็นสถานที่เหมาะสมแล้ว...ก็ไม่ต้องมีอะไรเป็นกังวลอีกแล้ว...ลมที่อยู่ในท้องก็พลังพลูออกมาไม่ขาดสาย...(ก็ลองเป็นท่านก็คงจะเป็นเช่นเดียวกับผลละครับ)...เมื่อลมออกมาก็มีเสียงออกมาด้วยเช่นกัน...ก็ผมอยู่ในห้องน้ำแล้วนี้จะไปเกรงใจอะไรอีก...
เสร็จกิจเดินออกมาที่โต๊ะอาหารซึ่งภรรยาได้สั่งอาหารไว้แล้ว... บังเอิญได้ยินเสียงผู้หญิงโต๊ะข้าง ๆ พูดกับเพื่อนร่วมทางของเขาว่า...เขาเข้าห้องน้ำมาไม่รู้ว่าใครตดเสียงดัง...ในห้องน้ำ...
ก็มันห้องน้ำนิ..สถานที่เหมาะสมก็ต้องตดกันบ้าง...(อันนี้พูดในใจนะ...) แต่ก็หัวเราะเบา ๆ ว่าเออ..เราหนอขนาดอยู่ถูกที่ถูกทางแล้วก็ยังไม่แคล้วไปทำความลำคาญให้คนอื่นอีก...
นายคนธ์
ข้อสรุปในเรื่องนี้สำหรับผมคือ
1. เรื่อง Fart(ผายลม) เป็นเรื่องลับ ที่ควรลดระดับเสียงเสมอไม่ว่าจะอยู่ในสถานที่ใด อยู่คนเดียวหรือหลายคน
2. ห้องน้ำสาธารณะ มิได้ปิดกั้นเสียง(และกลิ่น) จึงควรระมัดระวังเสมอ ถ้าไม่อย่างหน้าม้าน ที่เปิดประตูมาเจอกัน ให้เขาจับได้ว่าเสียงใคร(หรือกลิ่นใคร)
ก็เห็นว่าควรจะต้องแนะนำให้ร้านนั่น ทำห้องน้ำเก็บเสียงน่าจะดีเพื่อจะได้เป็นที่สาธารณะสำหรับการทำกิจกรรมแบบนี้เพื่อความสบายใจสำหรับการใข้งานอย่าง สบาย สบาย