• ระบบบริหารงานที่เอื้อต่อการทำ KM คือระบบที่ไม่ top down /
centralized มากเกินไป
• KM ที่มีพลัง ต้องการระบบการบริหารงาน ที่เอื้ออำนาจ
(empowerment)
ให้พนักงานระดับล่างและระดับกลางมีอิสระในการใช้ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
โดยเฉพาะอย่างยิ่งความคิดริเริ่มสร้างสรรค์รวมหมู่ (collective
creativity) และความคิดริเริ่มสร้างสรรค์จากข้างล่าง (bottom –
up creativity)
• KM
ที่มีพลังต้องการระบบการบริหารงานที่มุ่งทั้งผลระยะสั้น
ผลระยะปานกลาง และผลระยะยาว
ไม่ใช่เน้นเฉพาะผลระยะสั้นอย่างที่เห็นในระบบราชการปัจจุบัน
• KM ที่มีพลังต้องการผู้บริหารระดับสูงที่คิดไตร่ตรอง
และชวนร่วมคิด ส่งเสริมให้พนักงานร่วมกันทดลองทำวิธีการใหม่ๆ
เพื่อพัฒนางาน คอยให้กำลังใจในความพยายาม
คอยให้รางวัล ยกย่อง ในความสำเร็จ น้อยใหญ่
ส่งเสริมให้พนักงานได้เป็นเจ้าของผลงานหรือความสำเร็จ
เพื่อจะได้ร่วมกันทำ CQI อย่างต่อเนื่อง
• บริหารงานความเหมือนหรือจุดร่วม โดย บริหารเป้าหมาย /
ปณิธานความมุ่งมั่น (purpose) / ความเชื่อ / คุณค่า
ร่วมกันของพนักงาน บริหาร synergy
จากการมีเป้าหมายและคุณค่าร่วมกัน
• บริหารความต่าง / ความแตกต่างหลากหลาย ในมุมมอง การตีความ
ความเห็น ในการทำงานหน้างาน
ส่งเสริมการนำความแตกต่างเหล่านั้นมา ลปรร. กัน
เพื่อนำไปสู่การหาแนวทางทดลองพัฒนางาน บริหาร
synergy สร้างพลังจากความแตกต่างหลากหลาย
• บริหารพลังแห่งความเป็นมนุษย์
โดยการเคารพและเห็นคุณค่าความเป็นมนุษย์
เน้นมิติของความเป็นมนุษย์
บริหารเพื่อเปิดโอกาสให้ด้านดีของมนุษย์ออกมาร่วมกันทำความดี
• บริหารบรรยากาศเชิงบวก
เชิงชื่นชมยินดีต่อผลสำเร็จน้อยใหญ่
และจัดการให้เกิดการต่อยอดความรู้
หมุนเกลียวความรู้ เรื่อยไป ไม่สิ้นสุด
• บริหารให้เกิด
“สวรรค์ในที่ทำงาน”
• บริหารให้เกิด LO
วิจารณ์ พานิช
๑๒ มีค. ๔๙
ปรับปรุง ๑๓ มีค. ๔๙
ไม่มีความเห็น