วันนี้ขอนำผลงานจากการเสนอผลงานของคณะพยาบาลศาสตร์ขอนแก่น มาเผยแพร่ครับ
การจัดการอาการสับสนฉับพลัน : ความสําคัญและการประเมินผล
โดยคุณนัดดา คํานิยม
ภาวะสับสนฉับพลัน (Acute Confusional State หรือ Delirium) เปนภาวะที่เกิดขึ้น จาก
ความบกพรองของหนาที่ของสมอง ซึ่งเปนความผิดปกติเกี่ยวกับระดับความรูสึกตัว การรับรู
ผิดปกติเกี่ยวกับวันเวลาและบุคคล ความผิดปกติของการหลับ-ตื่น การเคลื่อนไหว และความ
ผิดปกติทางอารมณ ซึ่งเกิดขึ้นทันทีทันใดในชวงระยะเวลาสั้นๆ เปนชั่วโมงหรือเปนวันมี
แนวโนมเปลี่ยนแปลงไปตามชวงเวลา และมักจะมีอาการรุนแรงมากขึ้นในชวงเวลากลางคืนซึ่ง
เรียกวา Sundown Syndrome สวนใหญพบในกลุมผูสูงอายุ เมื่อแรกรับเขาโรงพยาบาล โดยเฉพาะ
อยางยิ่งวันที่ 2-3 ผลกระทบที่เกิดขึ้นเปนสาเหตุของการเสียชีวิตของผูสูงอายุที่อยูในโรงพยาบาล
และหลังจากที่ออกจากโรงพยาบาล
ประเด็นปญหาในการประเมินภาวะสับสนฉับพลันในผูสูงอายุ คือการขาดความเขาใจ การ
ละเลยการประเมิน มีขอจํากัดในการประเมิน และการไมมีแนวทางการประเมินที่ชัดเจน ซึ่งเปน
อุปสรรคสําคัญในการวินิจฉัยภาวะสับสนฉับพลันในผูสูงอายุ และนําไปสูการวินิจฉัยที่ลาชาจนทํา
ใหกลายเปนภาวะสบสนเรื้อรังหรือเกิดภาวะสมองเสื่อม ซึ่งจะนําไปสูการดูแลรักษาที่เพิ่มมากขึ้น
ตองใชระยะเวลาในการอยูรักษาในโรงพยาบาลนานขึ้น เสียคาใชจายในการดูแลเพิ่มขึ้น และทํา
ใหมีอัตราการเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น สําหรับแนวทางการจัดการอาการสับสนฉับพลัน ทําไดดังนี้
1) การประเมินภาวะสับสนฉับพลัน โดยการเลือกใชเกณฑการประเมินเพื่อใชเปน
เครื่องมือในการวินิจฉัยภาวะสับสนฉับพลัน (เกณฑการวินิจฉัย, แบบประเมินภาวะสบสน
เฉียบพลัน) และการประเมินปจจัยที่ทําใหเกิดภาวะสับสนฉับพลัน
2) การกําหนดวิธีการ/แนวปฏิบัติในการจัดการอาการ หลังจากที่ผูสูงอายุเขารับการ
รักษา โดยเริ่มจากการประเมินพฤติกรรมผิดปกติ กรณีไมมีพฤติกรรมผิดปกติ ใหทําการเฝาระวัง/
ทําการปองกันไมใหเกิดความผิดปกติ สําหรับกรณีที่มีความผิดปกติ ขั้นแรกจะตองทําการ
ประเมินภาวะ Cognitive impair การประเมินภาวะสับสนฉับพลันและการวินิจฉัยแยกโรค เพื่อที่จะ
จําแนกวาเปนภาวะสมองเสื่อม หรือภาวะสับสนฉับพลัน หรือโรคทางจิตเวช และถาหากพบวา
ผูปวยมีภาวะสับสนฉับพลัน จะตองประเมินหาสาเหตุหรือปจจัยเพื่อที่จะจัดการเบื้องตน โดยใน
กรณีที่ทราบสาเหตุก็ใหการรักษาแกไขตามสาเหตุของอาการโดยไมใชยา หรือถาหากไมทราบ
สาเหตุก็จัดการแกไขโดยใชยา
ผลที่เกิดจากการใชวิธีการจัดการอาการ ทําใหอุบัติการณการเกิดภาวะสับสนลดลง ผูปวย/
ผูดูแลมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีความสามารถในการดูแลตนเอง และอัตราการเจ็บปวยและอัตราการ
เสียชีวิตลดลง ลดคาใชจาย ลดการใชทรัพยากรในการใหบริการทางดานสุขภาพ และมีมาตรฐาน
และคุณภาพในการใหบริการ ในสวนของบุคลากรที่ใหการดูแลเกิดการพัฒนาความรูและทักษะใน
การจัดการอาการ