beeman 吴联乐
นาย สมลักษณ์ (ลักษณวงศ์) วงศ์สมาโนดน์

โรงเรียนชาวนา <๖> วันที่ห้าของโรงเรียนชาวนา


หลายคนคิดว่า แม่โพสพช่วยเรา เพราะเรามาทำความดีกัน-ฝนเลยอั้นมาวันสุดท้าย ไม่ตกไม่ได้

     ตื่นแต่เช้าก่อน ๖ โมง วันนี้คนสั่นกระดิ่งเป็นใจ ปลุกกันตอนตีห้าสี่สิบห้า ทำให้เรานอนได้นานขึ้น (อยู่ที่นี่ได้นอนวันละ ๔-๕ ชั่วโมง เพราะกว่าจะนอนก็เลยเที่ยงคืนไปแล้ว ตื่นก่อนตีห้าหรือตีห้ากว่าๆ) และตื่นขึ้นมามีเวลาจัดของใส่กระเป๋า..เพราะว่าวันนี้จะเป็นวันที่เราจะกลับกันแล้ว...ความจริงยังไม่อยากกลับเลย..อยากอยู่อีก ๑ วัน

      ช่วงเช้านี้ได้คุยกับคนขับรถ (คุณสุชน มั่นสัมฤทธิ์ หรือ ตุ้ย) รถตู้เช่าที่จะมารับพวกเรา (พร้อมกับรถของมน.อีกคัน) และสิ่งที่สนใจมากคือหนังสือที่ลุงเด (เดชา ศิริภัทร) ให้เมื่อคืน (เป็นหนังสือที่แจกให้กับผู้ที่มาร่วมงาน แซยิด ๖๐ ปี เมื่อวันที่ ๑๘-๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๑ ที่ผ่านมา-แกคงเห็นว่า ผมเรียนดีที่สุดในห้อง จึงมอบให้เป็นกำลังใจตอนผมทำงานอยู่ในห้องคอมพิวเตอร์ของมูลนิธิข้าวขวัญ) ประกอบด้วย

  1. บทความของท่านอาจารย์หมอวิจารณ์ เรื่อง "โอกาสของชาวนา"
  2. หนังสือ "จิตวิญญาณในเมล็ดข้าว : หกทศวรรษเดชา ศิริภัทร" เล่าเรื่องโดยคุณเดชา โดยมีคุณนิพัทธ์พร เพ็งแก้วเป็นผู้สัมภาษณ์...เรื่องนี้ทำให้รู้ว่า "อรหันต์ชาวนา" ตัวจริงคือใคร
  3. หนังสือ "เส้นทางเกษตรกรรมยังยืน" รวมรวมงานเขียนของ เดชา ศิริภัทร ตั้งแต่ปี ๒๕๒๖-๒๕๔๒ โดยมี วิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ เป็นบรรณาธิการ

      หลังจากทานข้าวเช้าแล้ว นักเรียนขึ้นห้องเร็วขึ้น (เพราะอยากกลับบ้าน) กลุ่มผึ้งน้อยประชุมแกนนำว่าจะนำกิจกรรม "อุ่นเครื่อง" อย่างไรเช้านี้ ลุงแววเสนอจะแนะนำท่าออกกำลังกาย

      โกซีออกไปนำฝึกนั่งสมาธิ..จะใช้เวลา ๕ นาที แต่พอนั่งจริงแค่ ๓ นาทีเอง

      ผมถูกกลุ่มบังคับให้ไปนำเสนอกิจกรรมอุ่นเครื่อง ผมก็ออกไป แต่เชิญลุงแววมาออกท่าออกทาง เนื่องจากเราต้องเอาผู้ปฏิบัติจริงไปแสดง ส่วนผมยืนถือไมค์ให้..อิอิ  ลุงแววเริ่มด้วยท่ายืน แกว่งแขนไปด้านหลังและด้านหน้า ๒๐๐ ครั้ง แล้วจากนั้นก็ยืดมือขึ้นข้างบน บิดไปข้างๆ อีกสองด้าน..นั่งยองๆ โดยเขย่งบนปลายเท้า..นั่งนวดขา...ช่วงนี้คุณพยอมก็มาแจม ท่านวดขาเพิ่ม และแสดงท่ายิงธนู..ท่ายิงธนูแกทำให้ผู้เข้าร่วมอบรมหัวเราะออกมาได้ คือ ต้องแอ่นอก โชว์อกมากๆ ท่าถึงจะสวย..อิอิ

      ต่อมาคุณชมพู่ แกก็เอาความคาดหวังเมื่อวันก่อนมาดูว่า "เราบรรลุความคาดหวังแค่ไหน" ข้อที่น่าจะขาดคือความรู้เกี่ยวกับ "แม่โพสพ" รวมทั้งพิธีกรรมต่างๆ เราไม่ได้ชวนลุงเดเล่าเลย..(เป็นเพราะคนไม่กล้าถามแกนั่นเอง)

      พอ ๙ โมงถึง ๑๐ โมงครึ่ง เจ้าหน้าที่จากกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ (สุพรรณบุรี) ก็มาแนะนำเรื่อง "บัญชีครัวเรือน" แต่ว่าเนื้อหาจริงๆ เขาแนะนำไว้ในสมุดที่จะแจกให้แล้ว ดังนั้นกิจกรรมส่วนใหญ่จริงๆ คือ การทำความรู้จักกันก่อน

      เริ่มแรกคำถามว่า "พายุไซโคลนนาร์กิส" กับ "แผ่นดินไหวที่มณฑลเสฉวน" มีอะไรที่เหมือนกัน และต่างกัน ส่วนมากคนจะตอบที่เหมือนกันได้ คือ เป็นภัยธรรมชาติ ที่มีคนตายกันมาก (ที่พม่าข่าวว่า ถึง แสนสาม ส่วนที่จีน ตัวเลขเกือบถึง ๙ หมื่น) ที่ต่างกันคือระบบความช่วยเหลือ ซึ่งยังไม่ถูกตามใจผู้ถาม..ถ้าตอบถูกจะได้กระเป๋า ๑ ใบ ซึ่งยังไม่มีใครได้ในรอบนี้...คำตอบก็คือ ส่วนที่ต่างกัน คือ พายุเราทราบล่วงหน้า แต่แผ่นดินไหวเราไม่ทราบล่วงหน้า..อิอิ

      บัญชีครัวเรือน เน้นรายได้จากการประกอบอาชีพ แยกจากรายได้อื่น และ รายจ่ายจากการประกอบอาชีพ แยกจากรายจ่ายอื่น..จดบัญชีทุกวัน ก็จะทราบต้นทุนและรายจ่ายจากการประกอบอาชีพได้ แล้วหลังจากเรารู้ข้อมูลตัวเองแล้ว เราก็เอามาวางแผนในการลดรายจ่ายในครัวเรือน...สมุดบันทึกที่เขาแจก ต้นทุนเล่มละ ๗๐ บาท ที่เดียว ทำสวยเพื่อให้อยากบันทึก..อิอิ (เอกสารนี้ถ้าอยากได้เพิ่มก็ไปติดต่อที่สำนักตรวจสอบบัญชีจังหวัด)

      พอเสร็จจากแจกสมุดบัญชีครัวเรือนแล้ว เขาก็ให้เรากรอกข้อมูลลงในแบบฟอร์ม เพื่อเก็บไปเป็นข้อมูลในการติดตามผลต่อไป..เราก็กรอกไปตามจริง

      ตอนที่เขา (หญิง-อายุมาก ๑ คน, อายุน้อย-๒ คน) บรรยายอยู่นั้น เราทราบเลยว่าเป็นคนละทีมกับ ข้าวขวัญ..เพราะมีหลายเรื่องขัดกัน..ตอนหลังเราถามชมพู่ก็เลยทราบว่าเป็นไฟท์บังคับ แต่อย่างไรก็ตาม "บัญชีครัวเรือน" เป็นข้อมูลจำเป็นพื้นฐาน ที่เกษตรกรจะต้องบันทึกไว้เพื่อจะได้ "ลด ละ เลิก" ในอันดับต่อไป นำไปสู่ "การพึ่งพาตนเอง และพึ่งพากันเอง" ต่อไป..ซึ่งจะต้องยึดแนวทาง "เศรษฐกิจพอเพียง"

      "เศรษฐกิจพอเพียง" ตอนแรกยังไม่เข้าใจ ถ้าให้อธิบายก็อธิบายได้ แต่อธิบายอย่างไม่เข้าใจ เดี๋ยวนี้ไปผ่านโรงเรียนชาวนาแล้ว "เข้าใจ เข้าถึง" เพราะการจะเข้าถึงและเข้าใจเศรษฐกิจพอเพียง ต้องเข้าใจแนวคิด และต้องปฏิบัติธรรมด้วย "การงานคือการปฏิบัติธรรม"

       สิ่งที่แฝงไว้ในการฝึกอบรม ๕ วัน คือ ต้องเปลี่ยนแนวคิด หรือ Paradigm ให้ได้ ซึ่งเท่าที่ผมดูแล้ว คงเปลี่ยนไปได้ไม่เกิน ๕ เปอร์เซนต์แน่ๆ (แต่ในนั้นอย่างน้อยต้องมีผมคนหนึ่งด้วย)

       หลังพักเบรก เรามาต่อกันดัวย Action Plan "การวางแผนพัฒนาเกษตรอินทรีย์ในระดับพื้นที่" โดยชมพู่ แบ่งเป็น ๓ กลุ่ม กลุ่มโพธิ์ประทับช้าง, กลุ่มไผ่รอบ และกลุ่มเครือข่ายภาคเหนือตอนล่าง

       ๒ กลุ่มแรก เขาเป็นกลุ่มธรรมชาติอยู่แล้ว ก็กลับไปพัฒนาตนและพัฒนากลุ่ม เห็นได้เป็นรูปธรรม ส่วนของเครือข่ายภาคเหนือตอนล่าง ไม่ได้เป็นกลุ่มธรรมชาติ ให้แต่ละคนไปพัฒนาตนเองก่อน แล้วชวนเพื่อนข้างๆ มาร่วมด้วย หากยังเปลี่ยนไม่ได้ ก็ส่งมาที่ข้าวขวัญ (ติดต่อชมพู่)

       พอพวกเรา Present ชมพู่ก็จะพิมพ์ข้อมูลตามไปด้วย พอเสร็จก็สรุปให้พวกเราฟังว่าเป็นอย่างนี้ใช่ไหม (คือแกเป็นทั้งคุณอำนวย และคุณลิขิต พร้อมกันไปในตัว-องค์กรต้องสร้างคนแบบนี้มากๆ-ยังไม่เคยเห็นคนในหน่วยราชการทำได้แบบนี้-หรือใครทำได้ช่วยบอกที)

      กว่าเราจะเสร็จก็เที่ยงครึ่งไปแล้ว แล้วเราไปทานข้าวแค่ครึ่งชั่วโมง กลับขึ้นมาก็มากรอกข้อมูลให้ชมพู่ เป็นข้อมูลของหน่วยงานที่ให้เงินมาจัด (กระทรวงเกษตรและสหกรณ์-กรมส่งเสริมการเกษตร) ช่วงเก็บข้อมูลนี้เป็นปัญหาของเกษตรกรมากเลย คือ กรอกไม่ถูก หลายคนที่มีความรู้ต้องไปช่วย

      ราวๆ ๒ โมงครึ่งเราก็ทำ AAR กัน โดยวิภา เป็นคนนำ ช่วงนี้ตอนแรกเขาจะปล่อยเราทำกันเอง แต่เราก็ชวนข้าวขวัญเข้าร่วมด้วย..บรรยากาศตอนนี้ดีมาก พอทำไปได้เกือบชัวโมง ฝนตั้งเค้าใหญ่มา เราคิดว่าตกแน่ (ใน ๔ วันที่ผ่านมา ไม่มีฝนเค้าใหญ่แบบนี้ หลายคนคิดว่า แม่โพสพช่วยเรา เพราะเรามาทำความดีกัน-ฝนเลยอั้นมาวันสุดท้าย ไม่ตกไม่ได้)

     ๓ โมงครึ่งเราเสร็จ AAR พอเสร็จแล้วทุกคนนึกว่าจะกลับ แต่เราดึงไว้ก่อน ให้ตัวแทนที่อยากร้องเพลงได้ร้องเพลง แล้วเราก็รำวงกัน...

      สุดท้ายผมดึงไมค์ไว้ก่อน ให้ทำเครือข่ายแบบหักดิบ จะให้เลือกประธานกลุ่ม แต่โกซีขอไมค์ไปพูด ทำนองจะให้โกหลิ่มรับ แต่โกหลิมไม่รับ สุดท้ายทุกคนยกให้โกซี เป็นแกนนำหรือเป็นประธาน ซึ่งหลังจากถามกลุ่มพิจิตร ๒ กลุ่มว่าจะช่วยงานแล้วโกซีก็รับ (โกซีเป็นห่วงเรื่องโครงการปุ๋ยของแก)

     ครูเล็กจะให้ตั้งเลขา และอื่นๆ แต่ผมเบรกเอาไว้ เพราะเป็นทางการมากไปจะไม่สำเร็จ..และอีกอย่างหนึ่งคือฝนจะตกแล้ว..ผมรีบไปเก็บของในเต้นท์ ยังมีเวลาเล็กน้อยมากินเบรก แล้วก็วิ่งมาขึ้นรถตู้ที่คอยอยู่-ตอนนั้นใกล้ ๔ โมงเต็มที ฝนตกเป็นละอองแต่ยังไม่ตกหนัก รอเราเอากระเป๋าขึ้นรถเสร็จ ฝนก็เทลงมาเลยทีนี้ นี่แม่โพสพช่วยเราแบบสุดๆ

     ๔ โมงกว่าๆ รถออกจากข้าวขวัญ ฝ่าฝนมา..พอเลยนครสวรรค์มาสักพัก ไม่มีฝนเลย มาถึงพิษณุโลกตอน ๒ ทุ่ม..คิดว่าทุกคนคงกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ...

 

beeman by Apinya

มนุษย์ผึ้งมหัศจรรย์  
神奇的蜂爷
  
(shen2  qi2  de1  feng1  ye2)

หมายเลขบันทึก: 185650เขียนเมื่อ 2 มิถุนายน 2008 07:34 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:07 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

สวัสดีค่ะท่านอาจารย์ Beeman...ฝูงผึ้งไปเรียนรู้ที่โรงเรียนชาวนาหรือคะ

ถูกต้องแล้วครับ คุณน้อง

  • คือเราไปเรียนรู้ แล้วต้องนำมาปรับใช้
  • สิ่งที่ได้มากๆ คือ เรียนรู้เรื่อง "การพึ่งพาตัวเอง" แบบเข้าถึง เข้าใจ แล้วจะนำไปสู่ "เศรษฐกิจพอเพียง" ได้อย่างไร..นี่มีคำตอบแล้ว..ไม่ใช่แค่รู้เฉยๆ แต่ปฏิบัติไม่ได้
  • ดังนั้น ต้อง "ลด ละ เลิก" หลายๆ อย่าง..โดยมี ลุงเด (เดชา ศิริภัทร) เป็นตัวอย่างของการปฏิบัติจริง
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท