การเมืองที่เป็นประโยชน์แก่ชาวไร่ชาวนา 1


ผู้ที่จะเป็น ส.ส. ซึ่งจะไปเป็นปากเสียงแทนชาวไร่ชาวนาจริง ๆต้องเป็นคนชั้นเดียวกับชาวไร่ชาวนา

 

 

                                      การเมืองที่เป็นประโยชน์แก่ชาวไร่ชาวนา

                การเมืองที่กำลังเย้อว ๆกันอยูแถวถนนราชดำเนินขณะนี้ ผมมองไม่เห็นประโยชน์อะไรที่จะตกถึงชาวไร่ชาวนาเลย  
                ว่ากันตามความจริงแล้ว  การเมืองที่ผ่านมาก็เป็นประโยชน์แก่ชาวไร่ชาวนาน้อยมาก
                ยิ่งช่วงหลัง ๆนี้  พวกพ่อค้าหันมาเล่นการเมืองเอง  ชาวไร่ชาวนายิ่งได้ประโยชน์น้อยลงไปอีก

                เห็นชาวบ้านที่ไปร่วมชุมนุม  คอยทำหน้าที่เป็นลูกคู่ คอยขานรับคำของพวกนักปลุกระดม
              
                      ไช่...  สู้  สู้...    ออกไป...  ไช่แล้ว...  ไม่เอา...  เอา...  เตี้ย...  หง่า...

                หัวใจมันรุ่มร้อน...  ผมคิดว่าการเมืองที่จะเป็นประโยชน์แก่ชาวไร่ชาวนา  น่าจะเป็นแบบนี้

                      ผู้ที่จะเป็น ส.ส. ซึ่งจะไปเป็นปากเสียงแทนชาวไร่ชาวนาจริง ๆต้องเป็นคนชั้นเดียวกับชาวไร่ชาวนา
        
เราต้องยอมรับว่า คนนั้นมีชั้น   คนชั้นเดียวกันผลประโยชน์ก็จะร่วมกัน หรือเหมือนกัน  คนต่างชั้นกันผลประโยชน์ก็จะต่างกัน  บ่อยครั้งที่ผลประโยชน์ของคนต่างชั้นกันจะขัดกัน  เช่น  เจ้าของโรงงาน  กับ  กรรมกรที่เป็นลูกจ้างก็จะขัดแย้งกันในเรื่องค่าจ้าง  สวัสดิการ เวลาทำงาน  ฯลฯ เป็นต้น  ชาวนามักจะขัดแย้งกับพ่อค้าในเรื่องราคาข้าว ราคาปุ๋ย  ราคาเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำไร่ทำนา ฯลฯ เป็นต้น     
                ผมอยากจะแบ่งคนไทยแบบง่าย ๆออกเป็น  2  ชั้นด้วยกัน
                     1. คนชั้นพ่อค้าและเจ้าของโรงงาน  คนชั้นนี้รวม  คนชั้นสูง  เจ้าของที่ดิน  ข้าราชการระดับสูง และลูกจ้างในตำแหน่งบริหารระดับสูง เข้าไปด้วย
                     2. คนชั้นชาวไร่ชาวนา เกษตรกร  กรรมกร ลูกจ้างและข้าราชการระดับล่าง  คนชั้นนี้นี่แหละที่ผมอยากเรียกสั้น ๆว่า ชาวไร่ชาวนา    

                การเมืองของเราที่ผ่านมาเป็นการเมืองที่เน้นการเลือกตั้ง  การเมืองแบบนี้เป็นการเมืองภาคตัวแทน  แต่ไหนแต่ไรมาคนส่วนใหญ่  โดยเฉพาะชาวบ้านต่างเข้าใจกันว่าการเมืองมีแบบนี้แบบเดียว  จริง ๆมีการเมืองอีกภาคหนึ่ง  ซึ่งเขานิยมเรียกว่า  การเมืองภาคประชาชน  เป็นการเมืองในบทบาทที่ประชาชนเป็นผู้แสดงเพื่อปกปักรักษาผลประโยชน์ที่พึงมีพึงได้ของตนโดยตรง  การเมืองทั้งสองภาคนี้จะต้องดำเนินควบคู่กันไป  การเมืองภาคประชาชนเพิ่งปรากฏชัดเจนในรัฐธรรมนูญปี 40 นี้แต่ในทางปฏิบัติการเมืองภาคประชาชนยังได้รับความสนใจจากคนชั้นชาวไร่ชาวนาน้อยมาก

               ในที่นี้  จะกล่าวถึงเฉพาะการเมืองภาคตัวแทน  อยากจะเสนอความเห็นว่า การเมืองภาคตัวแทนควรเป็นอย่างไร จึงจะเป็นประโยชน์แก่ชาวไร่ชาวนา

               ดังได้กล่าวไว้ข้างต้นว่า  ตัวแทนของใครก็จะไปเป็นปากเป็นเสียงให้แก่คนชั้นนั้น
               จึงต้องมาดูว่า คนชั้นชาวไร่ชาวนาได้เลือกตัวแทนของตนเพื่อไปเป็นปากเป็นเสียงให้แก่คนชั้นตนหรือเปล่า
               โดยไม่ต้องลังเล  ใครก็ตอบได้ทันทีว่า  ไม่ได้เลือก  
               แล้วที่เลือกกันไปเป็นใคร
               ตอบได้ทันที  โดยไม่ต้องลังเลเช่นเดียวกัน  คือ  ผู้มีอิทธิพล  คนชั้นพ่อค้า  และคนรวย
               นะซี  คนทั้ง  3  กลุ่มนี้  โดยทั่วไปบ้านเราคือคนกล่มเดียวกัน
               ลองไปสำรวจดูเถอะ  ก็จะต้องร้องว่า  ไช่  ไช่  ไช่...ทุกจังหวัด
               ด้วยเหตุนี้จึงไม่ต้องสงสัยว่า  ทำไม รัฐบาลจึงทำอะไรที่เป็นประโยชน์แก่พวกพ่อค้า  พวกเจ้าของโรงงาน  พวกประกอบธุรกิจ  การค้า และบริการต่าง ๆมากว่าที่เป็นประโยชน์แก่ชาวไร่ชาวนา
               ใคร ๆเขาก็ต้องดูแลผลประโยชน์ของเขาทั้งนั้นแหละ  จะว่าเขาไม่ดีก็ไม่ได้  ในระบบทุนนิยมเสรี  ก็ต้องถือว่าทำได้ไม่น่าเกลียด
               ชาวบ้านก็ตะบันเลือกกันเข้าไป  เลือกตั้งกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง  ก็เลือกคนหน้าเดิม ๆนั่นแหละ 
               หมอประเวศ  ท่านบอกว่า  เมืองไทยไปให้ความสำคัญกับคนกลุ่มหนึ่งจำนวนประมาณ  3,000 คน  ที่จะเข้าไปมีอำนาจทางการเมือง  ซึ่งคนเหล่านี้มีท่าทีที่จะเอาเปรียบและคดโกง  การเมืองโดยคนเหล่านี้ไม่สามารถสร้างความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นในสังคมได้
               ชาวบ้าน อันได้แก่คนชั้นชาวไร่ชาวนา  ก็คงพอมองเห็นในข้อนี้  เมื่อไม่ได้ประโยชน์อะไร  ดังนั้น  ถ้าใครมาหยิบยื่นให้สี่ห้าร้อยจึงรีบรับไว้ก่อน  คิดดูให้ดี ๆก็จะเห็นว่าการทำเช่นนั้นของชาวนาเป็นการซ้ำเติมตนเองแท้ ๆ
              

 

                แล้วจะให้ชาวไร่ชาวนาทำอย่างไร
            
ชาวไร่ชาวนาต้องเลือกคนพวกเดียวกับตนไปเป็นตัวแทน 
                    เป็นไปได้ไหม  ที่เมืองไทยจะมีคนที่เป็น ชาวไร่  ชาวนา  ชาวสวน  ชาวประมง  ลูกจ้าง กรรมกร  เป็นต้น  เป็นผู้แทนราษฎร
                    ถ้าเป็นไปไม่ได้  ก็ไม่ต้องหวังว่า  ชาวไร่ชาวนาจะได้ประโยชน์จากการเมืองของเมืองไทย
                    หลายคนส่ายหน้าหมดหวัง!!!!!!!!!!!!!
                    แต่ผมว่าเป็นไปได้  พรุ่งนี้ผมจะเสนอในบันทึก ฉบับต่อไป


                                                           Paaoobtong

                      dddddddddddddddddddddddddddddddddd
















    

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 184876เขียนเมื่อ 28 พฤษภาคม 2008 05:38 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 00:15 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

สวัสดีค่ะ

  • ครูอ้อยมาทักทายยามเช้าค่ะ
  • ชาวนา ชาวไร่ ชาวสวนที่รัก เป็นกำลังใจให้ทุกท่านค่ะ

ขอบคุณค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท