ลาตายคนเดียว.....แต่จะตายอีกกี่คน.....


ผมเหลือบไปเห็นหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ ตายแล้วไปไหน ผมไม่มีโอกาสได้อ่านหนังสือเล่มนั้น ผมเลยเขียนให้เห็นถึงชะตาชีวิตของคนที่ยังต้องอยู่ต่อสู้ บนโลก บูดๆเบี้ยวๆใบนี้...ตามวิถี....   กวีข้างถนน...


คุณยายนั่งอยู่ตรงนั้น....แล้วมองตามทางที่เห็น...ทุกค่ำทุกเช้าทุกเย็น...ทางไกลสุดขอบฟ้าคราม...

 นานแล้ว..หนูอยากถามว่า....น้ำตายายหลั่งรินไหล...อาบแก้มรดลาดผ่านใจ....เมื่อไหร่ยายจะหยุดมอง...

ผู้คนมากมายหลายหลาก...ถางถากโวยวายกึกก้อง...หนูยังเห็นยายนั่งร้อง...หอบกล่องลังเก่าแนบกาย..

   ยายรอใครอยู่เล่าหนา....หนูหาเป็นเพื่อนเอาไหม...แล้วหนูจะช่วยมองไกล...ดูใครที่ยายรอคอย...

ยายยื่นลังเก่าให้เปิด...ดูเถิดคนที่รอหา...หนูมองเห็นแล้วน้ำตา.....ไหลรินลงมา.......ร้อง..เป็นเพื่อน...ยาย

    ทุกวันตอนเย็นเห็นอยู่...คนคู่ต่างวัยโหยหา...ร่ำร้องเรียกยอดแก้วตา...ดวงใจปิ่มว่า....จะมลาย..

คุณยายเฝ้ามองหาลูก....ส่วนหนูนั่งดูจดหมาย....ฉบับนี้ที่แม่ลา...ตาย...ทิ้งยายกับหลานโศกตรม..

   วันนั้นหนูจำตรึงจิต...ชีวิตครอบครัวสุขสม...กลับกลายต้องมาระทม...พ่อจมอยู่ในห้วงมาร...

ทิ้งยายทิ้งแม่ทิ้งหนู....ไม่ดูแลไม่สงสาร...ชีวิตครอบครัวร้าวราน...แม่พาลติดเหล้าเมายา..

แม่โทษชะตาชีวิต...ที่ขีดให้ชั่วหนักหนา...แต่ทำไมแม่ไม่มา...ปรับปรุงแก้ไขเปลี่ยนแปลง

มัวจมอยู่ในห้วงทุกข์...เห็นลูกแม่ทำหน่ายแหนง...เห็นยายแม่พูดเสียดแทง...ระแวงต่างๆนาๆ..

สุดท้ายแม่นอนล้มเจ็บ...ยายเก็บข้าวของเร่หา...ที่ออมอดชั่วชีวา...ขายมารักษาแก้วใจ

หนูเห็นแววตาของแม่...ท้อแท้และเริ่มอ่อนไหว...แม่บอกจะขอลาไกล....จดหมายฝากไว้ให้ยาย..

" แม่จ๋า...     ลูกขอโทษลูกละอายใจตัวเองที่ทำกับแม่และหลานแบบนี้.....

ชาติหน้ามีจริงลูกจะขอกลับมาเป็นลูกที่ดีของแม่...

 ฝากดูแลลูกของหนูด้วย.."

                          รักแม่ที่สุด

นี่หรือคือรักที่สุด...ตัวหลุดพ้นละสังขาร...ทิ้งคนอยู่หลังทรมาน....ยายหลานจะอยู่อย่างไร

ข้อเขียนอยากให้ได้คิด...สะกิดเตือนให้หวั่นไหว...ว่าการที่ตนลาลัย...แล้้วไซร้ใช่้หมด..เรื่องราว...

เป็นเรื่องที่คนคิดผิด...ชีวิตเด็กเปรียบผ้าขาว...หากสิ้นยายไปอีกคราว...ผ้าขาวผืนนี้...ใครจะดูแล 

                 ไม่อยากให้เป็นเช่นนี้เลย......

            

หมายเลขบันทึก: 184360เขียนเมื่อ 24 พฤษภาคม 2008 21:55 น. ()แก้ไขเมื่อ 26 พฤษภาคม 2012 13:30 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (12)

ใช่ครับ...ครูข้างถนน

ไม่อยากให้เป็นเช่นนี้เลย

ขอบคุณที่มาเยือนครับ

              รพี

สวัสดีครับครูสุ

ใช่ครับเศร้าจริงๆ

รูปนี้ทำให้ผมร้องให้....คิดถึงยาย

                    ขอบคุณครับ

                                  รพี

บทนี่เหมือนไม่ใช่รพีนะ เศร้าเกินไป แต่หลายชีวิตในโลกนี้ มีหลายบทบาทหลายแง่มุมชีวิต กวีข้างถนน ช่างหาแง่ หามุมได้หลากหลายดีแท้ ...ทำให้ต้องติดตามตอนต่อไปอยู่เรื่อย

สวัสดีค่ะ..

  • มาทำความรู้จัก..กวีข้างถนน..ค่ะ
  • ทุกชีวิตเป็น..อนิจจัง..นะคะ

สวัสดีครับครูนงเยาว์

    ผมนั่งกินก๋วยเตี๋ยว แถวๆอ.ถลางผมเห็นคุณลุงโต๊ะข้างๆอ่านหนังสือ

เล่มหนึ่ง หน้าปกเขียนว่า ตายแล้วไปไหน ผมไม่ทราบว่าเป็นผู้ใดแต่ง

(ไม่กล้าไปแย่งมาดูกลัวจะได้รับรู้....ว่า.....ตายแล้วไปไหน...แหะๆ)

ผมก็เลยคิดถึงมุมมองของคนที่จะต้องอยู่ต่อสู้ต่อไป..

บนโลกบูดๆเบี้ยวๆใบนี้...ก็เลยเขียนสะท้อนออกมาตามมุมมองของ......

                                   รพี กวีข้างถนน

                                        ด้วความเคารพครับ

สวัสดีครับท่านศึกษานิเทศน์ วัชราภรณ์

  ยินดีที่ได้ต้อนรับท่านศึกษา ปากกาทอง ผมเขียนตามความรู้สึก และมุมมองของผมเองครับ

 (แหะๆ น้าชายของผมก็อยู่เขต 1 เหมือนท่านครับ)

                   ด้วยความเคารพครับ

                              รพี

ยิ้มไม่ออกเลยครับ...เศร้าจริงๆ

สวัสดีครับคุณร่มไม้ใหญ่ไกล้ทาง

           เขียนไปตามวิถีชีวิตครับ สุขเศร้าคละเคล้ากันไป

                                         ยินดีที่ท่านมาเยือนครับ

                                                        รพี

หมายเหตุ..ดูชื่อก็รู้ว่า  คุณเป็นผู้โอบอ้อมอารี

 

ทำไมเขียนได้ถึงขนาดนี้คะ น้ำตาไหลเลยค่ะ

คุณปัทมาครับ

     เรื่องแบบนี้ที่เกิดขึ้นจริงในสังคมเรา เป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจมากครับ

                    ยินดีที่มาเยือนครับ

                               รพี

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท