การจัดทำ Guidebook สำหรับ HA Forum 7 มีความแตกต่างไปจากครั้งที่ผ่านๆ มา
ใน 2 ครั้งที่ผ่านมานั้น ได้จัดพิมพ์เนื้อหาที่มีลักษณะวิชาการสูง เนื่องจากใช้ประโยชน์จากเอกสารที่ใช้สื่อกับวิทยากร กล่าวถึงความเป็นมา วัตถุประสงค์ และเนื้อหาที่จะนำเสนอ
ในครั้งนี้ เห็นว่าน่าจะมีเนื้อหาที่เบากว่านั้น
แต่ละครั้งที่ไปเข้าร่วมประชุมวิชาการ ผมพยายามอย่างยิ่งที่จะอ่าน abstract เพื่อว่าจะได้เรียนรู้ให้มากที่สุดแม้ไม่ได้เข้าประชุมในห้องนั้น แต่ก็พบว่ายากอย่างยิ่งที่จะฝ่าความน่าเบื่อหน่ายสองประการไปได้ นั่นคือเนื้อหาที่พูดในเชิงหลักการและนามธรรมมากจนไม่เห็นรูปธรรมเชิงปฏิบัติ กับตัวเลขสถิติที่ต้องบอกว่าไม่มีนัยยะสำคัญต่อความอยากรู้อยากเห็น
ผมอยากจะทำเอกสารประกอบการประชุมที่หลีกหนีไปจากความน่าเบื่อหน่ายดังกล่าว
จากการไปฟังการนำเสนอคัดเลือกผลงานในที่ต่างๆ พบว่าแต่ละเรื่องมีจุดที่น่าสนใจแตกต่างกัน เป็นความน่าสนใจที่ผู้นำเสนอไม่รู้ตัว ผมได้จดบันทึกเนื้อหาที่รับฟังไว้เท่าที่จะทำได้ และพบว่าสิ่งที่จดบันทึกไว้นั้นมีประโยชน์มากในการเตือนความจำ ในการดึงเอาความน่าสนใจของเนื้อหานั้นออกมา ซึ่งหาไม่ได้ในเอกสารประกอบการนำเสนอ ที่น่าเสียดายคือไม่ได้ขยันเรียบเรียงให้เป็นเรื่องเป็นราวเสียแต่เนิ่นๆ
"ที่น่าสนใจคือบริบทของชุมชนซึ่งที่อยู่อาศัย รก ทึบ บ้านใต้ถุนเตี้ย ชาวบ้านส่วนใหญ่ทำอาชีพทอผ้าขาย จะห้อยผ้าสีดำไว้ตามบ้าน เป็นที่ชอบของยุง เนื่องจากเป็นอำเภอที่แห้งแล้ง ขาดน้ำ ชาวบ้านต้องพยายามเก็บกักน้ำ แต่ภาชนะไม่ค่อยมีคุณภาพ ยุงไปวางไข่ได้" (รพ.ดอยเต่า)
“แม้เด็กๆ จะมีปัจจัยสี่ครบทุกอย่าง มียาต้านไวรัสที่ดีที่สุด แต่เด็กๆ เหล่านี้ยังโหยหาไออุ่นจากอ้อมกอด และความรักจากผู้มาเยือนยิ่งกว่าผู้ใด เด็กๆ จะเก็บเกี่ยวความรักจากทุกคนที่ผ่านแวะเวียนมา และหยิบยื่นให้ด้วยความเมตตา เด็กหลายคนผ่านประสบการณ์ที่เลวร้ายจนไม่กล้าแม้แต่จะบอกความต้องการของตนเอง รู้สึกไม่มั่นคง และไม่มีความหวังกับอนาคต การรักษาด้วยยาต้านไวรัสอย่างเดียวคงไม่เพียงพอที่จะลบเลือนบาดแผลเหล่านั้นได้” (รพ.ศรีนครินทร์)
การ rewrite สิ่งที่นักวิชาการเขียนมาให้อาจจะดูว่าไม่เคารพต่อเนื้อหาที่ผู้นำเสนอจัดทำขึ้น แต่ผมทำด้วยความเคารพและพยายามสื่อให้เจ้าของรับทราบเมื่อมีโอกาส
ช่วงตีสองของคืนวันศุกร์ที่ 3 มีนาคม หลังจากที่ผมเรียบเรียงเนื้อหาต่อเนื่องมาตั้งแต่เช้า ยกเว้นเวลากินข้าว ว่ายน้ำ และจัดการแก้ปัญหาคอมพิวเตอร์ ความอิ่มตัวของความคิด ความกดดันที่ตั้งใจจะทำให้เสร็จในเช้าวันรุ่งขึ้น และช่วงเวลาของการทำงานที่ไม่ปกติ ทำให้ได้วิธีการนำเสนอที่แตกต่างไปจากต้นฉบับโดยสิ้นเชิง แตกต่างเฉพาะวิธีนำเสนอ แต่ไม่ต่างในเนื้อหาสาระ
นี่คือผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นในดึกของคืนวันนั้น
จั่วหัวไว้ก่อนสำหรับท่านที่ไม่คุ้นเคย
PK = Phamacokinetic (เภสัชจลนศาสตร์) ศาสตร์ว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างความเข้มข้นของยาในซีรั่มหรือเนื้อเยื่อ กับปริมาณยาและระยะห่างของการให้ยา
PD = Pharmacodynamics (เภสัชพลศาสตร์) ศาสตร์ว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างระดับยาใน ซีรั่ม และ/หรือ เนื้อเยื่อ กับการออกฤทธิ์ยา
PKPD เป็นความรู้เกี่ยวกับเกี่ยวกับ “การเดินทางของยาในร่างกายผู้ป่วย” จากจุดที่ให้ยาไปจนถึงเนื้อเยื่อที่ยาออกฤทธิ์
ยาจะได้ผลในการรักษาโรคหรือไม่ จะเกิดอาการไม่พึงประสงค์หรือไม่ ขึ้นกับความเข้าใจใน PKPD ของยานั้นๆ ถือว่าเป็นสัจธรรมสูงสุดที่ผู้ให้จะต้องปฏิบัติตามให้สอดคล้อง จึงจะได้ผล
การจะใช้ยาให้ปลอดภัยจึงต้องเข้าใจสัจธรรม PKPD
ผมพบว่าผมได้เรียนรู้อย่างมากในการทำงานนี้ เรียนรู้เพราะต้องใช้สมาธิเต็มที่ที่จะต้องทำความเข้าใจกับเนื้อหาที่ต้องเขียน ทุกประโยคที่เขียนต้องออกมาจากความเข้าใจของเรา มิใช่การคัดลอกประโยคที่เราเองก็ไม่รู้เรื่อง
บางครั้งผมต้องไปเปิด internet เพื่อค้นคว้ารายละเอียดเพิ่มเติม เป็นรายละเอียดที่มั่นใจว่าตรงกับที่ผู้พูดจะนำเสนอ เช่น ในเรื่อง TPM ซึ่งผมได้ซักถามพูดคุยเป็นการเบื้องต้นกับคุณสมชายแล้ว ผมไม่ได้รบกวนให้คุณสมชายเขียนอะไรเพราะรู้ว่าท่านมีภาระกิจมากมาย แต่ผมสรุปองค์ประกอบของ TPM ไว้เพื่อประโยชน์ของผู้เข้าประชุม อย่างน้อยท่านไม่ต้องไปเสียเวลาจดเอาในห้อง
มีเรื่องหนึ่งที่ผมต้องศึกษารายละเอียดใน slide ประกอบการบรรยาย ร่วมกับการค้นหาความหมายใน internet นั่นคือเรื่อง making decision in ethical dilemma ของ Janet Farrell คำศัพท์ภาษาอังกฤษเรื่องจริยธรรม เป็นสิ่งที่คนทั่วไปไม่ค่อยคุ้นเคย ถ้าให้แต่ศัพท์โดยไม่มีความหมายให้ ก็ดูจะไม่เกิดประโยชน์เท่าใด เป็นโอกาสให้ผมได้เรียนรู้ไปด้วย บางคำก็ยังไม่ค่อยแน่ใจว่าจะให้ความหมายได้ครอบคลุมหรือไม่ คงต้องรับคำชี้แนะจากผู้รู้ในโอกาสต่อๆไป งานนี้ทำในช่วงโค้งสุดท้าย ชั่วโมงที่ 30 หลังจากกำหนดที่ควรจะเสร็จ คือควรจะเสร็จเมื่อเย็นวันศุกร์ แต่มาใกล้เสร็จเอาตอนสี่ทุ่มของวันเสาร์
การตัดสินในบนหลักการจริยธรรมจะช่วยลดอคติส่วนตัวในการตัดสินใจ และสามารถอธิบายเหตุผลของการตัดสินใจได้ หลักการจริยธรรมที่ใช้ได้แก่ autonomy (ผู้ป่วยมีอิสระที่จะตัดสินใจโดยไม่ถูกบังคับ ผู้อื่นมีหน้าที่เพียงให้ข้อมูลและข้อเท็จจริง), beneficence (ถ้าปัจจัยอื่นๆ เท่ากัน ผู้ให้บริการจะทำเพื่อประโยชน์ของผู้ป่วยเป็นสำคัญ), non-maleficence (ไม่ทำให้เกิดอันตรายแก่ผู้ป่วย), the common good (การเคารพในสิทธิและศักดิ์ศรี), double effect (ถ้าการกระทำนั้นมีทั้งผลดีและผลเสีย ให้ชั่งน้ำหนักเลือกใช้เมื่อมีผลดีมากกว่า), informed consent (การตัดสินใจเมื่อได้รับข้อมูลเพียงพอ), proportionate and disproportionate (การชั่งน้ำหนักระหว่างประโยชน์และสิ่งที่ต้องเป็นภาระ), integrity and totality (การพิจารณาบุคคลอย่างเป็นองค์รวมทั้งร่างกายและจิตใจ)
ในเอกสารประกอบการประชุม สิ่งที่กินเนื้อที่อีกไม่น้อยคือประวัติวิทยากร เป็นสิ่งที่คนไม่ค่อยได้อ่าน และใช้ประโยชน์ได้น้อยอีกเช่นกันในการที่หวังว่าจะใช้ค้นหาเมื่อต้องการ ที่ใช้อย่างจริงจังคือให้พิธีกรอ่านให้ฟังตอนแนะนำตัววิทยากรเท่านั้น
ผมพยายามฉีกรูปแบบการให้ข้อมูลวิทยากรออกไปโดยผสมผสานเข้าไปในเนื้อหาที่จะแนะนำให้ผู้เข้าร่วมประชุมได้รับทราบ แต่ก็ได้เพียงบางส่วน เพราะจำกัดด้วยข้อมูลและเวลา
"JCAHO กับ พรพ. มีหน้าที่คล้ายกัน มีความสนใจในเรื่องเดียวกัน และเริ่มสร้างความร่วมมือระหว่างกัน ในการประชุมครั้งนี้ Jerod ซึ่งมีประสบการณ์สูงมากในเรื่องของการวิจัย การประเมินผลและการวัดผลงาน จะเป็นตัวแทนของ JCAHO มาร่วมเป็นวิทยากรให้ พรพ.
"มหาวิทยาลัยบูรพา จัดตั้งศูนย์การศึกษาวิจัยเรื่องการคิด (The Center for the Study of Thinking) มีจุดมุ่งหมายเพื่อเพาะบ่มความคิดสร้างสรรรค์ในสถานที่ทำงาน โดยเริ่มจากระบบการศึกษา พรพ.ได้มีโอกาสพบกับอาจารย์สมศรีเมื่อครั้งไปประชุมที่บางแสน จึงได้ชักชวนให้อาจารย์มาช่วยเพาะบ่มความคิดสร้างสรรค์ให้กับระบบบริการสุขภาพบ้าง"
"ท่านเป็นเจ้าของวลี 'ผมเขียนหนังสือได้ แต่ไม่ดัง' ท่านชอบเขียนหนังสือมาตั้งแต่เด็ก เป็นผู้ปลุกปล้ำให้กำเนิดแก่วารสารทางการแพทย์ไม่น้อยกว่าสองฉบับ และเป็นนักเขียนประจำในคอลัมน์ต่างๆ มากมาย ด้วยความที่คลุกคลีกับการสอบสวนคดีต่างๆ ของแพทยสภา จนกระทั่งไปเกษียณอายุด้วยตำแหน่งอธิบดีในกระทรวงยุติธรรมเมื่อปีที่แล้ว ท่านจึงมีความกระจ่างชัดมากในเรื่องคดีทั้งหลายที่แพทย์ตกเป็นจำเลยอยู่ในขณะนี้"
"คุณหมอโกมาตร เป็นผู้ที่มีมุมมองลึกซึ้งในเชิงมานุษยวิทยา เห็นในสิ่งที่พวกเรามักจะไม่เห็น สามารถเชื่อมโยงวัฒนธรรมพื้นบ้าน มาแปลความหมายและให้ข้อคิดเห็นด้วยวิธีคิดที่ทันสมัยหรือก้าวล้ำนำสมัยได้ ด้วยความที่คลุกคลีกับการทำงานชุมชนมามาก จึงได้พัฒนาเครื่องมือการทำงานกับชุมชนอย่างมีความสุข และยังคงทำงานวิจัยเกี่ยวกับความสุขของคนทำงานบริการปฐมภูมิ"
"ผู้เยี่ยมสำรวจทั้งสามท่าน เผชิญกับสถานการณ์ต่างๆ มามากมาย ทั้งที่เอื้อต่อการเรียนรู้อย่างสนุกสนาน และที่เคร่งเครียดด้วยความเข้าใจไม่ตรงกัน ช่วงนี้จึงเป็นโอกาสที่ผู้เยี่ยมสำรวจทั้งสามท่านจะมาถ่ายทอดเคล็ดวิชาว่าจะใช้การเยี่ยมสำรวจให้เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและการพัฒนาคุณภาพของโรงพยาบาลได้อย่างไร มิใช่จะมาบอกเคล็ดวิชาว่าจะผ่านการรับรองได้อย่างไร นะ จะบอกให้"
ลูกของพี่เลี้ยงที่เคยเลี้ยงลูกสาวคนเล็กมาจากต่างจังหวัด บอกกับน้องของเขาว่า “คุณหมอเล่นเกมส์ทั้งวันเลยนะ” แต่ครั้นเข้ามาดูใกล้ๆ ก็คงนึกเสียดายว่า “คุณหมอทำงาน ไม่ได้เล่นเกมส์) กว่าลุงหมอจะเอาชนะเกมส์นี้ได้ก็สี่ทุ่มครึ่งเข้าไปแล้ว