การปลูกฝังคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในตัวผู้เรียน ถือเป็นเรื่องใหญ่ของหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน 2544 ที่จริงจังกับการกำหนดคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในเด็กไทย และ ถือเป็นเงื่อนไขสำคัญประการหนึ่งในการที่นักเรียนจะจบ-ไม่จบหลักสูตร โดยมีการกำหนดเกณฑ์ตัดสินการผ่านช่วงชั้น(จบชั้น ป.3 ป.6 ม.3 และ ม.6) ดังต่อไปนี้
1. ต้องเรียนรู้ตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ 8 กลุ่ม และได้รับการตัดสินผลการเรียนผ่านตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด
2. เข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและได้รับการตัดสินผ่านการประเมิน ตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด
3. ได้รับการตัดสินผลการประเมิน การอ่าน การคิด วิเคราะห์ และการเขียนสื่อความ ระดับ “ผ่าน”
4. ได้รับการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ระดับ “ดี” หรือ “ดีเยี่ยม” ตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด
อย่างไรก็ตาม ในสภาพปัจจุบัน ในเรื่องการพัฒนา/
ส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์นี้ สถานศึกษาส่วนใหญ่ยังไม่จริงจังกับ 1) การกำหนดคุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่เป็นความเห็นร่วมกันระหว่างโรงเรียนกับชุมชนหรือผู้ปกครอง 2) กระบวนการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ยังไม่เป็นระบบ ทั้งการส่งเสริมผ่านรายวิชา ผ่านกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ผ่านกิจกรรมต่าง ๆในโรงเรียน และผ่านครอบครัวหรือชุมชน และ 3) การประเมินผลเพื่อผ่านช่วงชั้น ยังไม่จริงจังกับการตรวจสอบหรือประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์(มักจะประเมินแบบผ่าน ๆ)
ถึงเวลาหรือยังที่เขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษาจะต้องดำเนินการในเรื่องนี้อย่างจริงจังตามเจตนารมณ์ของหลักสูตร สำหรับในระดับสถานศึกษา อาจดำเนินการดังนี้
1) กำหนดคุณลักษณะอันพึงประสงค์ร่วมกับเครือข่ายผู้ปกครอง หรือ ทบทวนคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามที่มีการกำหนดไว้แล้ว ควรมีการประชาพิจารณ์ในหมู่ผู้ปกครอง เพื่อให้เห็นพ้องต้องกัน
2) จัดกิจกรรมพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในตัวผู้เรียน หลายช่องทาง อาทิ
(1) จัดกิจกรรม ผ่านการเรียนการสอนในรายวิชา
(2) จัดกิจกรรม ผ่านกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน กิจกรรมชุมนุม
ต่าง ๆ รวมทั้งกิจกรรมภายในโรงเรียนโดยทั่วไป
(3) จัดกิจกรรมที่บ้าน โดยโรงเรียนจัดทำชุดกิจกรรมแนะนำสำหรับพ่อแม่ หรือผู้ปกครอง เพื่อนำไปปฏิบัติที่บ้านหรือในชุมชน(อาจรวบรวมกิจกรรมที่เป็น Best Practice จากครอบครัวต่าง ๆ แล้วทำเป็นชุดกิจกรรมกลาง ๆ สำหรับทุกครอบครัว)
3) ประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในตัวผู้เรียนอย่างจริงจัง และถือเป็นเงื่อนไขสำคัญในการจบหลักสูตร(การสร้างคนดี น่าจะเป็นทางเลือกสำคัญในการพัฒนาและแก้ปัญหาประเทศไทยในอนาคต)
5สทสาเพนจ่ใว6