203 บราวน์นี่ถาดแรกในชีวิต


ทำเอง อร่อยดีและถูกกว่า

 

 

วันนี้ ได้ฤกษ์ทำบราวน์นี่ Brownie ถาดแรกให้ลูกๆ ทาน เนื่องจากภรรยารู้สึกไม่สบายนิดหน่อย ลูกบอกอยากทานขนมเค็ก พ่อจึงอาสาทำบราวน์นี่ให้โดยขอให้แม่เ็ป็็้นคนกำกับการแสดง วิธีทำมี ดังนี้  

ส่วนประกอบของบราวน์นี่ชอกโกแล๊ต

ผงบราวน์นี่ชอกโกแล๊ต 1 ซอง ขนาด 415 กรัม (ทำได้ประมาณ 12-16 ชิ้น) ซื้อที่เดลี ราคา 140 รูปี (ประมาณ 120 บาท)

ไข่ไก่ขนาดกลาง 1 ฟอง

น้ำมันพืช 30 ซีซี

น้ำหรือนมสด 75 ซีซี

เม็ดมะม่วงหิมพานต์ โรยหน้าพอประมาณ

นำส่วนประกอบต่างๆ (ยกเว้นเม็ดมะม่วงหิมพานต์ที่โรยก่อนเข้าเตาอบ) มาผสมกันในโถแก้วโดยใช้เครื่องปั่น

พอทุกส่วนเข้ากันแล้ว นำเข้าเตาอบ ความร้อนที่ 180 องศา เซลเชียส ใช้เวลาประมาณ 20-25 นาที

ผลปรากฏว่า.............................................:)

บราวน์นี่ ทำแบบนี้เอง....หนอ

เป็นบราวน์นี่ถาดแรกที่ทำด้วยมือของตัวเอง ในชีวิตของผู้ชายคนหนึ่ง เป็นความรู้สึกที่ดี  แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยมากๆ แต่ก็รู้สึกอยากจะทำและอยากบันทึกไว้  ณ วันอาทิตย์นี้

พูดถึงเรื่องการทำของทานเองนั้น ผมเคยคิดอยากจะทำซาลาเปาทานเอง แต่ทราบว่ายากมากโดยเฉพาะแป้ง ก็เลยไม่ได้ทำซะที บัดนี้ทำบราวน์นี่ได้ สงสัยต้องไปหาสูตรทำซาลาเปาไว้ทานเองบ้างแล้ว

แต่...คงไม่ง่ายแบบบราวน์นี่แน่นอน :)

เชิญชิมกันได้ครับ

หมายเลขบันทึก: 181749เขียนเมื่อ 11 พฤษภาคม 2008 16:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 23:59 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (19)

สวัสดีค่ะท่าน

ดีจังค่ะ ลูกๆ ได้ทานขนมฝีมือคุณพ่อด้วย

เวลาดิฉันทำอาหารเองก็จะรู้สึกดีค่ะ แม้ว่าจะอร่อยบ้างไม่อร่อยบ้าง

แต่เวลาที่ทำงานช่างแบบผู้ชาย จำพวก เปลี่ยนหลอดไฟ ซ่อมประปา จะภูมิใจมาเลยค่ะ ไม่รู้ทำไม

ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะ ผู้ชายนั้นหากลงมือทำอาหาร มักจะทำได้ดีมากๆนะคะ ดูอย่างเชฟดังๆทั่วโลก มักเป็นผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ทำไมเป็นเช่นนั้นไปได้ ก็ผู้หญิงเราเป็นคนสอนให้แท้ๆ

บราวน์นี่ถาดนี้ต้องอร่อยเลิศรสจากความรักและความตั้งใจที่ใส่ลงไปนะคะ คงได้ชม ชิม ซาละเปาเร็วๆนี้ใช่มั้ยคะ

คุณ Jaewjingjing ครับ

ผมคิดว่าเป็นเพราะเราทำสำเร็จครับ ไม่ว่างานนั้นจะเล็กหรือใหญ่ สำคัญหรือไม่สำคัญ แต่ทำด้วยมือของเราเองก็น่าภูมิใจครับ

นึกถึงภาพหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงที่พึ่งตนเอง อะไรที่ทำเองได้ ก็ทำ บางครั้งสิ่งที่ทำนั้นก็มีคุณค่ามากกว่าใช้เงินซื้อที่สำเร็จรูปนะครับ

ในโลกที่ทันสมัยจึงให้คุณค่าหัตถกรรมค่อนข้างสุง เช่นขนมที่ขายในตลาดในยุโรปที่ผมเคยไปสัมผัสมานั้น ถ้ามีคำว่า Homemade ละก้อจะมีราคาแพง

บางครั้งอาหารที่ทำอาจไม่อร่อย แต่มีคุณค่า ก็ถือว่าใช้ได้นะครับ

เจริญสุขนะครับ

คุณนายดอกเตอร์

ครับ สมัยที่อยุ่ที่ตูลูซ ก็เคยไปทำงานในร้านอาหารฝรั่งและเอเชียมาแล้ว(ช่วงปิดเทอม)เชฟเป็นผู้ชายทั้งนั้น

มีโอกาสได้ใกล้ชิดในครัว จะเห็นว่างานทำอาหารนั้นเป็นวิชาที่ต้องเรียนระดับวิทยาลัยครับ

งานค่อนข้างหนัก ทีเดียว เชพที่มีประสบการณ์จะต้องผ่านงานมาตั้งแต่ลูกมือซึ่งต้องทำทุกอย่าง อุปกรณ์ทำครัวของฝรั่งก็ล้วนหนักและมีขนาดใหญ่ แต่เป็นระบบมาก

ช่วงที่ไปอยุ่ที่บรัสเซลส์ไปเยี่ยมโรงเรียนที่สอนทำอาหารระดับประเทศของเขา

ดูวิชาที่เรียนแล้วหนักจริงๆ ครับ

ผู้หญิงก็มีเรียน แต่มักจะเลือกชำนาญเฉพาะด้าน เช่นทำขนมหวานหรือเบเกอร์รี่

ต้องฝึกบราวน์นี่ให้ชำนาญก่อนครับ

สำหรับซาลาเปาคงยุ่งยากขึ้นมาก.....

เจริญสุขครับ

สวัสดีค่ะ

:) เห็นเม็ดมะม่วงถูกจัดเรียง ยิ้มเลยค่ะ...ดูเป็นศิลปะบนหน้าเค็กเลย...และก็น่ากินด้วยค่ะ...

คุณจันทรรัตน์ครับ

เป็นศิลปินสมัครเล่นก็แบบนี้ละครับ

อีกหน่อยอาจจะใช้องค์ประกอบที่มีสีต่างๆ กัน เพื่อสร้างศิลปะบนชิ้นเค็กนะครับ

ที่สำคัญ ลูกๆ ชอบกันมากครับ

ลืมความอ้วนไปได้เลย :)

ขอบคุณและเจริญสุขครับ

สวัสดีบราวน์นี่

และสวัสดีพ่อครัวหัวป่าก์

มาทักขนมก่อน เพื่อโอกาสหน้า จะมีโอกาสได้ชิมกับเขาบ้าง ทำขนมไม่เป็นค่ะ อ้อ ถ้าเอาเยลลี่ มาชงแล้วแช่เย็นพอได้ค่ะ

ซาละเปาก็ชอบ ใส้หมูสับนะคะ หรือถั่วแดงก็ได้ค่ะ

ความสำเร็จ ทำให้คนเรามีกำลังใจ และประทับใจเสมอค่ะ

โยคีน้อย

เคยคิดอยากจะทำอาหารให้คนทาน ทั่วโลก จะได้มีความสุขกัน

ได้พยายามปรุงอาหารใจให้แก่คนทั่วไปมาแล้ว

คราวนี้ได้ทำขนมทานเองในครอบครัว

ก็มีความสุขดี

ต้องเพิ่มเมนูซะแล้ว

ขอส่งมาทางจิตก่อนนะ

ขอให้อิ่ม อร่อยและมีความสุขกันถ้วนหน้า

กราบสวัสดีค่ะ ท่าน พลเดช วรฉัตร

กลับจากตลาดน้ำอัมพวา หากอยู่ไม่ไกล ในชีวิตจริงคงได้หิ้วขนมไปฝากนะคะ ด้วยความระลึกถึงค่ะ

 

ครูปูครับ

สิ่งหนึ่งที่เคยอยากแต่ยังไม่ได้ทำคือ ท่องเที่ยวในเมืองไทย

ทราบดีว่าในเมืองไทยมีที่เที่ยวดีๆ มากมาย

ชีวิตผมบังเอิญไปอยู่ในต่างประเทศเกือบครึ่งชีวิต

รอเกษียณเมื่อไหร่ คงได้ไปเที่ยวที่ต่างๆ โดยเฉพาะตลาดน้ำเช่นที่ครูปูไปมาครับ

ขอบคุณที่แวะมาชมบราวน์นี่ครับ

ซาลาเปาไส้หมูสับ แบบนวดมือจ้า..

สูตรนี้ได้ซาลาเปาขนาดกลาง ๆ ประมาณ 20 - 22 ลูกนะจ๊ะ

ส่วนผสมแบ่งเป็น (แป้ง 2 ส่วน และไส้ 1 ส่วน)

ส่วนที่ 1

1. แป้งสาลีตราบัวแดง (สำหรับทำซาลาเปา) 175 กรัม

2. ยีสต์ 2 ช้อนชา

3. น้ำเปล่า 120 กรัม

4. น้ำตาลทราย 60 กรัม

1. นำน้ำตาลทราย ละลายผสมกับน้ำเปล่าให้เข้ากันคะ พักไว้ก่อน

2. จากนั้น นำแป้ง ยีสต์ ร่อนรวมกันค่ะ

3. นำแป้งที่ร่อนไว้แล้วใส่ภาชนะคะ จากนั้นค่อย ๆ เทส่วนของน้ำลงไปช้า ๆ คะ แล้วค่อย ๆ นวดให้เข้ากัน นวดให้เข้ากันคล้าย ๆ กับการนวดแป้งทำขนมบัวลอย หรือขนมปังค่ะ

4. เมื่อนวดได้ที่คือเป็นเนื้อเดียวกันแล้วให้คลุมด้วยผ้าขาวบาง วางไว้ในที่แห้งและอับค่ะ เพื่อให้แป้งขึ้น อย่างน้อย 1 ชั่วโมง แป้งจะขึ้นเป็น 2 เท่า คล้าย ๆ กับการทำขนมปังคะขั้นตอนนี้ถือว่าสำคัญมากซาลาเปาที่ขึ้นและนุ่มหรือไม่นั้นขั้นตอนนี้มีส่วนคะ จากนั้นมาทำไส้กันคะ

ส่วนผสมไส้หมูสับค่ะ

1. หมูสับ / หมูบด /ไก่บด 300 กรัม

2. หอมใหญ่สับละเอียด ½ หัว

3. เห็ดหอมแห้งแช่น้ำ หั่นละเอียด 5-6 ดอก

4. น้ำแช่เห็ดหอม 1-2 ช้อนโต๊ะ

5. ผัดชี – ต้นหอม หั่นละเอียด 2-3 ต้น

6. แครอทหั่นละเอียด ½ หัว

7. ไข่ต้มแข็งหรือไข่แดงของไข่เค็มหั่น (เท่าจำนวนซาลาเปา)

8. รากผักชี (ตำละเอียด) 2-3 ราก

9. แป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ

11. น้ำมันงา 1 ช้อนชา

10. พริกไทย / ผงรสดี / น้ำตาลทราย / ซอสหอยนางรม / ซีอิ้วขาว สำหรับปรุงรส

- นำส่วนผสมให้เข้ากันค่ะ ยกเว้นไข่ต้ม(ห้หั่นเป็นเสี้ยว 1 ฟองผ่า 2 ซีก 1 ซีกแบ่ง 3 เสี้ยว คะ พักไว้ต่างหาก) นวดส่วนผสมให้เข้ากันค่ะ เน้นรสเข้ม(เข้มน้า..ไม่ใช่เค็ม) จากนั้นให้พักไว้ในตู้เย็นจนกว่าจะนำมาห่อค่ะ (ประมาณ 1ชั่วโมงขึ้นไป)

ส่วนที่ 2

1. แป้งสาลีตราบัวแดง (สำหรับทำซาลาเปา) 75 กรัม

2. ผงฟู 1+1/2 ช้อนชา

3. เกลือป่น ¼ ช้อนชา

4. เนยขาว (เท่านั้นห้ามใช้เนยสดหรือมาการีน) 40 กรัม

5. กระดาษขาว ตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมสำหรับวางซาลาเปา

1. ผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมงคะ นำแป้งที่เราหมักไว้มาเปิดผ้าดู จะเห็นว่าแป้งมีการขยายตัว พองอืดขึ้นถ้าเอามือจับแป้งจะเป็นใย ๆ

2. เตรียมส่วนผสมของแป้งส่วนที่ 2 ร่อนรวมกันแล้วพักไว้ก่อนค่ะ เตรียมเนยขาวด้วยนะจ๊ะ (เนยขาวจะทำให้ซาลาเปาเนียน และขาวขึ้นค่ะ)

3. จากนั้นเทแป้งส่วนที่ 2 และเนยขาวลงในชามที่ใส่แป้งส่วนที่ 1 ไว้ แล้วใช้มือนวดให้เข้ากันคะ การนวดจะคล้ายกับการนวดขนมปัง นวดประมาณ 10 นาทีค่ะ (ไม่นานเพราะแป้งเราน้อยค่ะ)

4. นวดจนเนียนคือส่วนของเลยผสมเป็นเนื้อเดียวกับก้อนแป้งนะจ๊ะ จับแล้วไม่สากคะ แป้งจะนิ่มและเนียนค่ะ จากนั้นนำก้อนแป้งวางพักบนโต๊ะสะอาด (ถ้ากลัวติดให้โรยแป้งนวลลงไปนิดหน่อยได้คะ อะอะ..จำได้ไม๊เอ่ยแป้งนวลคืออะไรค่ะ แป้งนวลก็คือแป้งชนิดเดียวกับขนมที่เราทำ นำมาโรยที่ภาชนะนิดหน่อยเวลาจะนวดแป้งเพื่อไม่ให้แป้งติดโต๊ะไงจ๊ะ เพราะฉะนั้นแป้งนวลครั้งนี้หมายถึง...แป้งบัวแดงค่ะ^^”) ตัดก้อนแป้งแล้วชั่งค่ะ หนักประมาณ 20 กรัมค่ะ

5. จากนั้นนำก้อนแป้งมาคลึงกลมวางพักไว้ค่ะ (อย่าลืมหาผ้าขาวบางชุบน้ำบิดให้หมาด ๆ ย้ำว่าหมาด ๆ นะจ๊ะ) มาคลุมแป้งเพื่อไม่ให้แป้งแห้งไว้ก่อนด้วยนะจ๊ะ

6. ตอนนี้ให้นำไส้ที่เราแช่ตู้เย็นไว้ออกมาเตรียมไว้ได้เลยคะ การคลึงแป้งไม่ใช่คลึงยาวออกนอกตัวแบบขนมปังนะจ๊ะ ถ้าเราคลึงแบบนั้นแป้งจะยาวเป็นวงรี แต่ให้คลึงทะแยงออกจากกึ่งกลางวงกลม คือพอเราคลึงด้านที่1 แล้วก็หมุนแป้งคลึงอีกด้าน ทำไปเรื่อย ๆ ให้แป้งแผ่ขยายออก แต่เป็นวงกลม ๆ (ใหญ่ขึ้นเหมือนพิซซ่า แต่ไม่ใหญ่ขนาดนั้นค่ะ) การคลึงแป้งซาลาเปา ส่วนตรงกลางแป้งจะหนานิดนึงเพราะต้องรองรับไส้ ส่วนขอบ ๆ จะบางคะ ถ้าเพื่อน ๆ ไม่มีไม้คลึงให้ใช้ขวดแทนได้นะจ๊ะ (ขวดน้ำที่หนัก ๆ ค่ะ)

7. จะได้แผ่นแป้งซาลาเปาแบบในรูปนะจ๊ะ จะให้กว่าฝ่ามือนิดนึง ตักไส้ใส่ลงไปคะ ถ้าชอบไข่ต้มหรือไข่เค็ม ก็หั่นใส่ลงไปด้วยค่ะ

8. จากนั้นก็จับจีบค่ะ โดยพับริมซาลาเปา แล้วหมุนแป้งถ้าจะให้ง่ายขึ้น ส้มจะใช้ช้อนเล็ก(ช้อนกาแฟ) กดเบา ๆกรงกลางไส้เพื่อให้ไส้จมลง แล้วก็หมุนซาลาเปาพร้อมจับจีบจนครบลูกคะ จากนั้นก็บิด ๆ ตรงจุกแป้งข้างบนให้มันติดกันให้สนิท วางในกระดาษขาว แล้ววางพักไว้ก่อนประมาณ 10 นาทีคะ ระหว่างที่วางพักให้ตั้งน้ำเตรียมนึ่งได้เลยคะ น้ำตั้งให้เดือดๆๆ ฟองขึ้น (ไฟแรง) พอเดือดแล้วจึงลดไฟลงเป็นไฟกลางแล้วจึงวางซาลาเปาลงไปนึ่งค่ะ

9. นึ่งประมาณ 15 นาที ขึ้นอยู่กับขนาดซาลาเปานะจ๊ะ

10. ซาลาเปานึ่งสุกแล้ว วางพักให้คลายร้อน อุ่น ๆ แล้วเก็บใส่กล่องหรือจัดเสริฟนะจ๊ะ (ถ้าเราเก็บตอนซาลาเปาเย็นสนิท แป้งซาลาเปาจะแข็งไม่อร่อยคะ) ผ่าให้ดูน่ากินอะป่าว ไมค่อยสวยแต่อร่อย

สูตรนี้จากwww.zomzaa.com ขอขอบคุณค่ะ

หนูอิ๊บครับ

ขอบคุณมากครับ

เป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์จริงๆ

ดูแล้วยุ่งยากพอสมควร แต่คิดว่าถ้าได้ซาลาเปาชุดแรกในชีวิตเมื่อไหร่ คงจะอร่อยเป็นแน่

แล้วจะนำมาเล่าสู่กันฟังต่อไปครับ

เจริญสุขครับ

กราบสวัสดีค่ะ  ท่าน พลเดช วรฉัตร ค่ะ

  • ขอบพระคุณที่เมตตา ให้กำลังใจโยคีน้อย ด้อยประสบการณ์นะคะ
  • พยายามค่ะ พยายามจะเป็นคนดีๆ คิดให้ดีๆ ทำให้ดีๆ พูดให้ดีๆ เหมือนที่คนไร้รากพูดเสมอ ๆ ค่ะ
  • เพราะคิดว่าถ้าทุกคนเขาพยายามทำกันอย่างนี้หมด
  • โลกนี้คงโสภาน่าดูชม
  • หากมีโอกาสกลับมาเมืองไทย ครูปู จะเป็นไกด์พาเที่ยวตลาดน้ำเองนะคะ
  • ขอบพระคุณค่ะ

ครูปูครับ

ยินดีครับ

ยังไม่ทราบว่าปีนี้ จะได้กลับเมืองไทยหรือไม่

ขอบคุณล่วงหน้าครับ

เจริญสุขครับ

ผมลองทำขนมเค้กถาดแรก

เพื่อนๆที่ทำงานบอกว่า เหนียวกว่ากาละแม อีก ฮ่าๆๆ

  • พี่พลเดช แณณอยากทำบ้างค่ะ ตอนอยู่อังกฤษ เคยทำขนมอบบ่อยๆ แต่อยู่ที่นี่ไม่มีเตาอบค่ะ อดเลยค่ะ
  • พี่หน่อยกับพี่ น่ารักมากๆ นะคะ แฮปปี้ แฟมิลี่จริงๆค่ะ
  • เมื่อวานวันเกิดแณณ ตอนแรกบอลจะพาไปทานอาหารโรงแรม แต่สุดท้าย เราสองคนกลายเป็นช่วยกันทำอาหารทานกันเองที่บ้าน ซึ่งแณณว่ามีความสุขกว่ากันมากเลยค่ะ
  • บราวนี่ของพี่น่าทานมากๆ ค่ะ อาจารย์สอนภาษาฝรั่งเศสของแณณก็ซื้อมาให้ทานกัน 1 ถาดค่ะ อร่อยมาก เป็นคนฝรั่งเศสทำค่ะ   

แณณ

 16 พค. วันเกิดน้องแณณ

อวยพรวันเกิด ด้วยภาพนี้

                   

(ทำนองเสนาะแบบไทยๆ)

อวยพรวันเกิด สิ่งประเสริญ ประมวลมา

ให้สุขีปรีดา สมปรารถนา ดังใจปอง

ให้อายุยืนนาน จิตสราญ มั่งมีเงินทอง

ชีวิตเจริญ เรืองรอง ธรรมะคุ้มครอง สวัสดีเอย

สุขสันต์วันเกิดจ๊ะ

บอลกับแณณก็เป็นครอบครัวที่สุขสันต์เช่นกัน

และพี่ดีใจมากที่ทั้งคู่อยู่ที่บังกลาเทศอย่างมีความสุข

สุขในชีวิต

สุขในงาน

สุขในจิตใจ

ถือว่าเป็นคู่ที่เกิดมาเพื่อกันและกัน

อนาคตช้างหน้า ประเทศชาติจะได้มีนักการทุตและฝ่ายในที่เก่งทั้งคู่

ขอให้มีความสุขมากๆ จ๊ะ

ด้วยความปรารถนาดี

ปล. (ถาพนี้รักมากที่สุด กำลังวาดเป็นสีน้ำมันบนผ้าใบจริงๆ ต้องจุดธุป 5 ดอก ขออนุญาตท่านวาด)

กราบสวัสดี ท่าน พลเดช วรฉัตร ค่ะ

  • เผอิญพี่จงพิศ เขียนบันทึกเรื่องตลาดน้ำอัมพวา มีภาพสวย ๆ ประกอบ ด้วยค่ะ  ที่นี่ นะคะ หากมีเวลาเรียนเชิญศึกษาบรรยากาศก่อนเลยค่ะ

 

 

ครูปูครับ

ขอบคุณมาก

เป็นวิถีชีวิตที่อยากไปสัมผัสมาก

เด็กๆ อาศัยอยุ่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาเช่นกัน ใกล้ท่าน้ำวัดระฆัง เสียดายที่ต่อมาครอบครัวอพยพไปอยู่แถวฝั่งธนบุรี จึงไม่ได้สัมผัสกับแม่น้ำอีกเลย

ภาพบรรยากาศริมน้ำนั้นมีเสน่ห์ ตรึงใจ เป็นธรรมชาติที่ทำให้ใจสงบเป็นพื้นฐาน

วันใดกลับไปเมืองไทยจะต้องไปเที่ยวอัมพวาแน่นอนครับ

เจริญสุขครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท