เดินทางบนที่นอน


มีหนึ่งความรู้สึก ในอารมณ์ร่วมจากการเดินทางของชีวิต จากโอกาสในการมองเห็นผู้คน การอ่านเรื่องราวของผู้คน ข้อคิด ข้อเขียน การนั่งคิดนอนคิดถึงชีวิต และเรื่องราวมากมายอันแวดล้อม อยู่ภายในหัวและภายในห้วงความคิดของชีวิต มีแง่มุมบางอย่างของการเดินทาง ด้วยการเดินทางที่ง่ายที่สุดในชีวิต แต่เป็นการเดินทางอันยาวนาน นานหลายสิบปี สำหรับคำสารภาพของนักเดินทาง ด้วยคำบรรยายถึงการเดินทางบนที่นอน

เดินทางบนที่นอน

อ้างอิง - ภาพ http://bangnoikoyrak.multiply.com/

ผมมักติดนิสัย

ตั้งแต่เด็กยันโตจนทุกวันนี้

ในความอ้อยอิ่งของชีวิตบนที่นอน

รู้สึกอิดเอื้อนในทุกครั้ง เมื่อจะเริ่มต้นการตื่นนอน จนกระทั่งต้องถูกบ่นถูกดุจากแม่ จนกระทั่งหวดให้ใจได้จำ ว่าชีวิตต้องลุกจากที่นอนให้ไว จะมัวอ้อยอิ่งหรือมานอนขี้เกียจในขณะที่คนอื่นทำงานไม่ได้ ต้องลุกขึ้นมาทำงาน จะลุกมาปัดกวาดเช็ดถูอะไรก็ได้ หรือลุกมานั่งดูโทรทัศน์ก็ยังดี

ยังดีกว่าจะปล่อยให้ชีวิตนอนจมบนที่นอน

หรือถูกบ่นให้ตะวันเลียก้นโด่ง

จนต้องถูกเอ็ดซ้ำสอง

แต่จนแล้วจนรอดนับจากโตขึ้นมา กระทั่งไปนอนหอเพื่อน ไปนอนอพาร์ทเม้นท์ของตัวเอง หรือในวันคืนที่เดินทางผ่านชีวิตไปมากมาย จนวันหนึ่งที่กลับมานอนบ้าน วิถีชีวิตที่ยังไม่ขาดหายไป เหมือนเป็นเครื่องกำกับความรู้สึก คือความอ้อยอิ่งบนที่นอน ที่นอนคิดนอนฝันนอนนึกถึงเรื่องราว

กระทั่งนอนซม

จมอยู่ทั้งพิษไข้ในใจ

และพิษไข้นอกใจตัวเอง

ผมก็ยังคงชื่นชอบกับการนอนจมบนที่นอน คอยให้วันคืนได้เดินผ่านชีวิตไปอย่างช้าช้า หรือกระทั่งทำกิจวัตรมากมายบนที่นอน กินน้ำ กินข้าว อ่านหนังสือ ดูโทรทัศน์ นอนคุยโทรศัพท์ นอนจดบันทึกเรื่องงาน กระทั่งทำทุกสิ่งที่ชีวิตคิดว่าเป็นการพักผ่อนบนที่นอน หรือแม้แต่งานที่คิดว่าดี

ก็ล้วนงอกออกมาจากช่วงเวลาบนที่นอน

ไม่นับกับความเกียจคร้านในนิสัย

ที่ติดตัวติดใจมายาวนาน

จนหลายครั้งที่ผมพยายามทำลายสถิติ ในการนอนข้ามวันข้ามคืน นอนทำทุกอย่างไปเรื่อยเปื่อย จนถึงที่สุดที่นอนต่อไม่ได้ เพราะทนเบื่อกับความขี้เกียจ หรือกระทั่งต้องมีเรื่องราวให้ทำกับชีวิต มากกว่าที่จะมัวนอนซมบนที่นอน แต่ไม่ว่าอย่างไร สถานะของชีวิตบนที่นอนล้วนดีงาม

ล้วนเป็นหนึ่งในวิถีชีวิต

ที่ผมพยายามมองย้อนตัวเองเสมอ

ว่ามีความดีงามใดเกิดขึ้นในชีวิตผมบ้าง

จากพฤติกรรมความเกียจคร้าน ที่แม้กระทั่งวันวัยในการทำงานทุกวันนี้ ผมก็ยังคงใช้พื้นที่บนที่นอน เป็นเครื่องกำกับชิ้นงานเสมอ หลายครั้งที่ผมนั่งเขียนงาน ก่อนจะเริ่มต้นพิมพ์ลงในคอมพิวเตอร์ หรือลำดับเรื่องราวก่อนเขียนงาน เพื่อส่งให้ที่ทำงานตามระยะเวลา บ่อยครั้งที่งานเดินทางได้ดั่งใจ คิดออกได้ตามที่ใจต้องการ หรือกระทั่งส่งงานได้ทันเวลา

หลายครั้งที่การกลิ้งไปกลิ้งมา ทำให้ผมคิดออก

หลายครั้งที่การนอนคว่ำตัวไปมา

พร้อมกองหนังสือรอบตัว

ทำให้ผมเสร็จงานก่อนกำหนดอยู่บ่อยครั้ง หลายครั้งที่ผมผ่านช่วงเวลาอันน่าประทับใจ พร้อมกองหนังสือที่วางอยู่รายล้อม รอบตัวล้วนวางกองหนังสือ ที่คิดว่าจะพยายามอ่านให้จบ รีบอ่านเพื่อให้ทันใจที่โลดแล่น บ่อยครั้งที่ผมออกเดินทางตามความคิดของนักเขียนมากมาย บนที่นอน

 

บนที่นอนนุ่ม

ไม่มีสิ่งใดมาทำร้ายผมได้

ยิ่งในยามที่ผมปิดประตูห้องนอน

ปิดอุปกรณ์สื่อสารทุกอย่างของโลกนี้ ที่อาจจะทำให้ใครสามารถกวนความสุขและความทุกข์บนที่นอนของผม ผมจะยิ่งรู้สึกเสมอ ถึงพลังบางอย่างซึ่งที่นอนมอบให้ ไม่มีการกวนใจ ไม่มีเสียงด่าทอ ไม่มีการตำหนิติเตียน มีเพียงการเดินทางไปในใจตัวเอง บนที่นอนนุ่ม

สถานที่อันยิ่งใหญ่เสมือนใยไหม

ห่อหุ้มทุกความสุขทุกข์ชีวิต

ห่อและพันจิตใจผม

ยิ่งในยามที่ทุกข์ทนจนไม่อยากอธิบายความคิดให้ใครฟัง ผมจะเริ่มต้นการเดินทางบนที่นอน วางหนังสือที่คิดว่าจะอ่าน กองหนังสือที่คิดว่าตัวเองจะได้รับคำตอบ คำตอบจากเรื่องราวที่อาจไม่ตรงที่ตรงทาง ไม่จำเป็นต้องเป็นคำตอบที่ต้องการ แต่ผมต้องการการเดินทางบนที่นอน

บางครั้งอาจเปิดโทรทัศน์

คว่ำหน้านอนฟังเสียงชีวิตที่ผ่านไปมา

นอนฟังเรื่องราวคำอธิบายและข่าวสารของผู้คน

บ่อยครั้งก็เริ่มต้นปิดเสียงโทรทัศน์ เพียงเพื่อนอนดูเรื่องราวที่ผ่านหน้าจอแก้ว มองไปมองมา เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง อะไรที่อยากฟังค่อยเปิดเสียง อะไรที่ไม่ต้องการฟังก็ผ่านชีวิตไป จนกระทั่งพลิกหน้าหนังสือ อ่านแต่ละเรื่องราวชีวิต จนได้รับคำตอบที่พอใจ บางครั้งก็ไม่ได้คำตอบ

แต่ต้องลุกขึ้นจากที่นอนชีวิตอันอบอุ่น

เพราะปวดท้องเข้าห้องน้ำ

บ่อยครั้งก็เบื่อตัวเอง

ต้องลุกไปอาบน้ำ ให้สดชื่นเพียงพอที่จะกลับมานอนต่อ หรือกลับมานอนอ่านหนังสือที่ค้างหน้าติดพันไว้ หลายครั้งหลายเล่มของการเดินทางผ่านหนังสือ หรือการเดินทางผ่านที่นอนด้วยหนังสือ ผมมีความประทับใจมากมายในการอ่าน ซึ่งบอกผ่านการนอนอ่านหนังสือ จะกลิ้งหน้าคว่ำหัว

หรือนอนม้วนตัวอ่าน

ผมล้วนผ่านการเดินทางกับหนังสือ

บนภารกิจสำคัญของชีวิตบนที่นอนมาแทบทั้งสิ้น

ยิ่งวันคืนของการพักผ่อนอันยาวนาน ผมยิ่งตระหนักต่อคุณค่าและความจริงของที่นอน นอกเหนือจากชั่วขณะของการงีบหลับ ผมเชื่อว่าช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่เราเข้าใจภารกิจของที่นอน คือช่วงเคลิ้มตัวก่อนหลับ และช่วงที่เราสะลึมสะลือตื่นขึ้นมา แล้วกลิ้งตัวไปมาบนที่นอนอันอบอุ่น

ไม่ว่าผมจะชื่นชอบการเดินทางในโลกกว้างเช่นไร

แต่หนึ่งการเดินทางที่นอกเหนือจากหนังสือ

และการพูดคุยกับผู้คนมากมาย

ผมยังเดินทางบนที่นอน

เป็นหนึ่งในการเดินทางอันแสนสุขของชีวิต

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 181678เขียนเมื่อ 11 พฤษภาคม 2008 02:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 23:59 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

สวัสดีคะ

ได้อ่านบันทึกนี้ นึกถึงบรรยากาศและภาพที่คุณ Kati วาดผ่านตัวหนังสือได้ออกแจ่มแจ้งเลยคะ

วิถีการดำเนินชีวิตของแต่ละคนก็แตกต่างกันไป ตามชีวิตและความสุขของแต่ละคนคะ

แวะมาเขียนบันทึกบ่อยๆ นะคะ

ขอบคุณคะ

.... ให้ตายสิ คุณ kati   

คิดได้ไงคะเนี่ย โอ ... เดินทางบนที่นอน น่ารักซะไม่มี เก๋ไก๋ด้วย

... ยอมรับเลยค่ะว่า ไม่เคยคิดและเห็นความสำคัญของประเด็นนี้เลย

... ด้วยชีวิตที่เดินทางตลอด ... ก็จะหลงใหล ชื่นชอบการเดินทางบนโลก

... แต่ปูไม่เคยใส่ใจเวลานอนเลย ... ซ้ำยังรีบลุก นอนช้า นอนแป็บเดียว

 

   pix- www.baandin.org

... ฝันโน่นนี่ .. แบบเสียดาย (งก) เวลา หากจะหมดไปกับการนอน 

... ขอบคุณ อีกหนึ่งมองมุมต่าง ที่ทำให้ต้องมาพิจารณาและ

... มาเดินทางบนที่นอน ด้วยความเพลิดเพลิน เพื่อความแสนสุขบ้าง

 

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท