ร่างกายที่แข็งแรงอยู่ที่การเคลื่อนไหว จิตที่แข็งแกร่งอยู่ที่การสงบนิ่ง


เมื่อวานนี้  ลูกสาวคนเล็กอ่านหนังสือเตรียมสอบเพื่อแยกห้องเรียนเธออ่านหนังสือวิชาชีววิทยา  มีศัพท์ภาษาอังกฤษมากมาย มีระบบ  วงจรชีวิต 

ครูอ้อยไม่รู้เจตนาว่าเธออ่านออกเสียงดังเพื่ออะไร   แต่เมื่อเธอพูดออกมาเองว่า......ไม่ค่อยมีสมาธิ  ครูอ้อยจึงแนะนำวิธีการอ่านหนังสือ และต้องทำความเข้าใจด้วยการเขียน ความคิดรวบยอดไว้ให้ตนเองเข้าใจด้วย  mind map ที่เคยเรียนมา นำมาใช้  เขียนให้เป็นระบบจากความเข้าใจ  จัดเก็บไว้ในลิ้นชักของสมอง  เมื่อถึงเวลาสอบจะได้ดึงออกมาใช้ให้เป็นระบบ 

ครูอ้อยไม่รู้ว่าเธอทำตามแนะนำหรือเปล่า  แต่สักครู่ได้ยินเธอบอกว่า....เจ็บคอเลย 

เมื่อถึงเวลาตอนเช้ามึด  ครูอ้อยตื่นแล้ว  ก็ปลุกให้เธออ่านหนังสือแต่เช้ามึด  สมองแจ่มใส  แต่เธอก็ไม่ตื่น  ไม่ฝึกฝนตนเองให้ถูกเวลาในการอ่านหนังสือ 

จิตไม่นิ่ง เมื่ออ่านหนังสือก็ไม่จำ


*****


ในขณะที่ครูอ้อยขับรถมาโรงเรียน ฟังวิทยุด้วย  ดีนะ ที่ตำรวจไม่จับผู้ที่ฟังวิทยุ  จับแต่คนขับที่ใช้โทรศัพท์มือถือ เรื่องที่ฟัง  ก็ไม่พ้นเรื่องสุขภาพอนามัย 

ติดใจประโยคสุดท้าย.....ร่างกายที่แข็งแรงอยู่ที่การเคลื่อนไหว จิตที่แข็งแกร่งอยู่การสงบนิ่ง.....    เป็นจริงดังคำพูดนี้เลย  ครูอ้อยรู้สึกตัวเองว่า  ระยะนี้ไม่ค่อยแข็งแรง เพราะไม่ได้ออกกำลังกาย

ปิดภาคเรียน อยู่กับกองหนังสือ กับเก้าอี้ คอมพิวเตอร์   แต่เมื่ออยู่โรงเรียน ได้เดิน ได้วิ่งได้ตะโกน  สอนนักเรียน  และเป็นไข้บ่อยมาก เพราะแพ้อากาศ การเคลื่อนไหวของครูอ้อยก็เชื่องช้า  ปวดเมื่อยไปหมด  เพราะครูอ้อยอ้วนมากขึ้นทุกวัน  ทั้งๆที่ครูอ้อยก็ไม่ได้กินมากเลย.....

ดังนั้น  ครูอ้อยต้องเพิ่มกิจวัตรประจำวัน  ในการออกกำลังกายด้วย ครูอ้อยจะต้องไปเดิน วิ่งที่สวนรถไฟแล้วล่ะ  ...ตั้งใจไว้ 

ส่วนเรื่อง ....จิตที่แข็งแกร่งอยู่ที่การสงบนิ่ง....ครูอ้อยก็เห็นด้วยกับคำนี้เลย  ได้กับตัวเอง  ที่มีการระงับความโกรธ  ระงับความคิดเล็กคิดน้อยได้ไปมากเลย

ครูอ้อยอ่านบันทึกของ ดร.กมลวัลย์แล้วชอบมากๆ  ...มีีทุกข์ --> มีีปัญญา...

ทุกข์นั้นไม่มีใครเป็นเจ้าของ มันเป็นของมันเอง..มันไม่ใช่ตัวเรา.....

ทุกข์ทั้งหลายนี้...จะหายไปตามเวลา... จะไม่มีอะไรคงทนถาวร แม้กระทั่งทุกข์ ... จนบางครั้งจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเคยทุกข์เช่นนั้นเช่นนี้..

ครูอ้อยคิดว่า.....คิดได้ และทำได้

หมายเลขบันทึก: 181185เขียนเมื่อ 8 พฤษภาคม 2008 08:45 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 23:56 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

สวัสดีครับ ครูอ้อย

ขอบคุณนะครับสำหรับประสบการณ์ใกล้ตัว ผมเห็นด้วยนะ เมือก่อนตอนผมเป็นเด็กๆ ถ้าไม่มีสมาธิเราก็จะไม่จำ แล้วผมก็ไม่อ่าน จนกว่าเมื่อไหร่ทีเราีมี ฉันทะ มีใจรักก่อน ถึงจะเริ่มอ่านหนังสือ หรือทำการบ้าน ผิดกับเดี๋ยวนี้ครับ มีสมาธิหรือไม่มี รักไม่รักก็ต้องอ่าน ต้องทำ เพราะปล่อยไว้จะฟุ้งซ่านมากกว่านี้ อีกอย่างอ่านแล้วไม่จำก็อ่านๆ ไป เพราะหัวเราไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ต้องอ่านหลายรอบมาก ถึงจะจำได้

เฮ่อ จิตหวั่นไหวในร่างกายใกล้ร่วงโรย อ่าๆๆๆ

ถูกต้องแล้วครับ ตรงกับพุทธภาษิตที่ว่า จิตตัง ทันตัง สุขาวะหัง จิตทีฝึกดีแล้ว ย่อมนำสุขมาให้ จิตใจทีแข็งแกร่งย่อมเกิดจากการปฏิบัติสมาธิ ไม่ว่าจะเป็นการยืน เดิน นั่ง นอน ผมเป็นห่วงสุขภาพพี่ครับ เห็นพีทำงานหนัก อยากให้พี่พักผ่อนมาก ๆ ใช้เวลาส่วนหนึ่งในการปฏิบัติสมาธิครับ ผมรู้จักพี่มานานผ่าน go to know นี่แหละครับ แต่ก็ร้างมานานเพราะไม่มีอะไรนำเสนอ ตอนนี้ผมมีความภูมิใจที่จะนำเสนอแล้วละครับ เป็นเว็บไซต์การเรียนภาษาอังกฤษ ก็อย่างที่พี่รู้ ตอนนี้สร้างบทสนทนาได้ 3 ตอนแล้ว แต่ละเรื่องใช้เวลาทำราว 2 ชั่วโมง และมีเกมส์คำศัพท์ อีก 16 ชิ้น อาจจะไม่ดีเลิศเท่าไหร่ เพราะความสามารถทำได้เท่านั้น ว่าง ๆ ก็ลองเข้าไปเยี่ยมชม และแนะนำด้วยครับ ผมไม่เก่งแต่ผมรักและตั้งใจทำสุดฝีมือครับ ที่อยู่ครับ

http://202.143.164.22/noppanat

สวัสดีค่ะ พี่ครูอ้อย

ส่งลูกไปโรงเรียนแล้วกลับมานั่งทำงาน อดแวะมาเยี่ยมไม่ได้ มีสาระดีจังค่ะ แล้วก็ได้สติด้วยค่ะ เรื่องของลูกสาวพี่ครูอ้อยคล้ายกับเรื่องลูกชายครูนงเยาว์เลย วันนั้สอบจัดชั้นเรียนพอดี..เย็นนี้คงรู้ผล คุณแม่กำลังนั่งทำใจให้นิ่งอยู่ค่ะ..ใจจริงอยากเต้น

สวัสดีครับ ครูอ้อย เป็นข้อคิดที่ดีมากครับ

ร่างกายที่แข็งแรงอยู่ที่การเคลื่อนไหว จิตที่แข็งแกร่งอยู่ที่การสงบนิ่ง.....  

    ผมเองส่วนใหญ่มันจะกลับกันครับ

     ร่างกายมักจะหยุดนิ่ง

     แต่เจ้าจิต  มันเคลื่อนไหวแทน

                ตอนนี้ปิดเทอมก็ปล่อยๆไปก่อน

                 เปิดเทอมค่อยว่ากันอีกที

                                ขอบคุณครับ

                 

คนที่มีจิตนิ่งสงบต่อสภาพแวดล้อมหรือสถานการณ์คับขันต่างๆได้ ผมถือว่าเป็นยอดคนเลยครับ

สมพงศ์ ตันติวงศ์ไพศาล

สวัสดีครับ .....คุณครูอ้อยครับ

ผมมาแลกเปลี่ยนอีกแล้วครับ ..ร่างกายที่แข็งแรงอยู่ที่การเคลื่อนไหว จิตที่แข็งแกร่งอยู่ที่การสงบนิ่ง...

เล่าเรื่อง การทำสมาธิ (กัมมฐาน)ก่อนครับ ว่า อดีตกาล มี 2 ครับ..คือ สมถกัมมฐาน และวิปัสสนากัมมฐาน แล้ว สมถะเป็นกัมมฐานที่ทำให้จิตนิ่งครับ แต่วิปัสสนา เป็นการไตร่ตรอง หรือใคร่ครวญให้ดีครับ เพราะฉะนั้น ถ้าจิตนิ่งแล้วแข็งแกร่ง แต่ขาดปัญญาก็ไม่มีประโยชน์เท่าใดนักครับ (เหมือนช้างครับทนจริง)

แล้วร่างกาย เป็นสิ่งที่ต้องการการออกกำลังกาย แต่ไม่ตลอดเวลาครับ ต้องมีเวลานอนนิ่ง (อาจจะไม่เฉย ๆ ก็ได้ครับ) อย่างน้อย 8 ช.ม.ใน 24 ช.ม.ครับ เพราะเราไม่ใช่เครื่องจักรครับ ...

ที่กล่าวไว้ข้างต้นครับ ผมเห็นด้วยแต่ต้องเหมาะสม ตามเวลา ตามสถานที่ครับ มนุษย์เรายังมีสังคมครับ เพราะฉะนั้น คุณครูขับรถไป ย่อมจะไม่นั่งสมาธิครับ และไม่เคลื่อนไหวร่างกาย แบบแอโรบิคในรถครับ จะเกิดอุบัติเหตุได้ครับ หรือขณะที่คุณครูหลับสบายก็ไม่สามารถทำสมาธิได้ครับ และออกกำลังกายได้ครับ...วันหนึ่ง ร่างกายคนปกติ ต้องการออกกำลังกาย แค่ ไม่เกิน 1 ช.ม. ครับ และการนั่งสมาธิไม่กำหนด แต่ไม่ควรเกิน 4 ช.ม.ครับ แต่พอเหมาะพอดี ชีวิตเป็นสุขครับ

สวัสดีค่ะท่านอาจารย์....

  • ครูอ้อย อ่านไปก็ยิ้มไป  เก่งจริงๆค่ะ อาจารย์ เตือนสติครูอ้อยตลอดเวลาเลย
  • แบบนี้  ต้องอ่านบันทึกครูอ้อยทุกวัน ครูอ้อย เก่งและรอบคอบแน่เลยค่ะ

สรุก...คิดถึงค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท