วันนี้ เห็นชาวมูลนิธิข้าวขวัญ ส่งข่าวมาก็รู้สึกดีใจ ชื่นชมที่หน่วยงานนี้ยังทำงานอยู่อย่างเข้มแข็ง แม้จะไม่ใช่หน่วยงานภาครัฐ (พูดก็พูดเถอะ ก็ขอสักหน่อยนึง ปัจจุบัน ประเทศไทยมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย มีนักวิชาการที่เก่งๆ ด้านสายพันธุ์ และแต่มักจะอยู่เฉพาะแต่ในศูนย์วิจัย หรือสำนักงาน ทำงานแต่การตั้งรับเป็นส่วนใหญ่ น้อยนักที่จะออกไปอยู่ในโลกของความเป็นจริงร่วมกับเกษตรกร ถ้าเกษตรกรไม่มาหาก็จะไม่ได้องค์ความรู้กลับไปพัฒนา) เคยมีโอกาสไปค้างคืนที่มูลนิธิ 1 คืน ตอนปี 2547 ได้เรียนรู้เบี้องต้นเกี่ยวกับการทำนา การคัดเลือกสายพันธุ์ การไม่ใช้สารเคมีในการผลิต และรุ่งเช้าก็ได้ไปเก็บผักสดปลอดสารพิษมาทำอาหารเช้า ก็ประกอบด้วยผัดผัก และไข่เจียว อิ่มอร่อยและปลอดภัย เอ้าพี่น้อง(ที่ทำงานด้านเกษตร หรือผู้ที่เกี่ยวข้อง) ช่วย ๆ ชาวนาไทยกันหน่อย เรามีโอกาสแล้ว เร่งดูแลจัดการการปลูกข้าวให้เป็นระบบ การจัดการเรื่องน้ำ การคัดเลือกสารพันธุ์ และลดการใช้ปุ๋ยเคมี เพื่อให้ชาวนาไทยลดต้นทุนในการผลิต มีกำไรที่พออยู่ได้ ตอนนี้ไม่มีใครอยากทำนาแล้ว...ยิ่งได้ข่าวมีบริษัทนายทุนกำลังกว้านซื้อไร่นาเพื่อทำการผลิตข้าวและทำเป็นระบบครบวงจรก็ยิ่งกังวลใจ เพราะ หากเราไม่ช่วยกัน ชาวนาไทยก็จะลำบากกว่านี้ และเราทั้งหมดก็จะลำบากด้วยกันในที่สุด
โรงเรียนชาวนา ดีจัง..อยู่ที่ไหนครับ จะนำลูกไปฝากเรียน
ผอ.ประจักษ์ครับ รายละเอียดสอบถามที่มูลนิธิข้าวขวัญดูครับ Blog ของ มูลนิธิข้าวขวัญ http://gotoknow.org/blog/ngos