-ช่วงที่คุณแม่ตั้งครรภ์เป็นเวลาที่ต้องระมัดระวังทั้งในเรื่องการกิน ความเครียด การทำงาน การเป็นอยู่
การมาฝากครรภ์ในสถานพยาบาลและได้รับความรู้ไปปฏิบัติตน จะเป็นประโยชน์ต่อคุณแม่และลูกในท้องมาก ศูนย์อนามัยที่ 6 ได้พัฒนาแนวทางการฝากครรภ์แนวใหม่ตามมาตรฐานองค์การร่วมกับคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น
-การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ควรเริ่มส่งเสริมสุขภาพตั้งแต่ทารกเริ่มปฏิสนธิในครรภ์มารดา การที่ทารกในครรภ์มารดาจะเจริญเติบโตแข็งแรงได้มากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับการปฏิบัติของมารดาในระยะตั้งครรภ์ ถ้ามารดามีความรู้ความเข้าใจและสนใจเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ การมีพฤติกรรมการดูแลตนเองที่ถูกต้องเหมาะสม และได้รับการเฝ้าระวังดูแลจากผู้มีความรู้จะทำให้มารดาและทารกในครรภ์มีสุขภาพที่ดีทั้งร่างกายและจิตใจตลอดระยะเวลาตั้งครรภ์ได้ในการดูแลผู้ตั้งครรภ์ โดยทั่วไปผู้ตั้งครรภ์ต้องมาตรวจครรภ์ประมาณเดือนละ 1 ครั้ง และเมื่อใกล้คลอดจะมาตรวจครรภ์ทุก 1 สัปดาห์ ซึ่งอาจต้องมาตรวจครรภ์ประมาณ 10 – 12 ครั้งจนกว่าจะคลอด จากการวิจัยขององค์การอนามัยโลกเกี่ยวกับการดูแลผู้ตั้งครรภ์ตามมาตรฐานเดิม (ฝากครรภ์ประมาณ10-12ครั้ง) กับการดูแลผู้ตั้งครรภ์ตามมาตรฐานใหม่(ฝากครรภ์ 4 ครั้ง ) พบว่าไม่มีความแตกต่างกันในเรื่องภาวะโลหิตจาง ภาวะครรภ์เป็นพิษ การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ และทารกแรกเกิดน้ำหนักน้อย ฯลฯ ผู้ตั้งครรภ์ทั้งสองกลุ่ม มีความพึงพอใจในการดู แลสุขภาพที่ได้รับเท่าๆกัน ซึ่งผู้ตั้งครรภ์ที่ได้รับการดูแลแนวใหม่ บางคนอาจมีความกังวลในระยะห่างของการนัดอยู่บ้าง นอกจากนั้นการฝากครรภ์แนวใหม่ยังสามารถลดค่าใช้จ่ายและเวลาของผู้รับบริการลงได้โดยคุณภาพไม่ต่างไปจากเดิม
สิ่งสำคัญที่ต้องเน้นคือการดูแลผู้ตั้งครรภ์แนวใหม่ ขององค์การอนามัยโลกใช้เฉพาะกับผู้ตั้งครรภ์ที่ไม่มีภาวะแทรกซ้อนใดๆ
สวัสดีค่ะ
แวะมาทักทายค่ะ