Medication Reconciliation (Drug Reconciliation)
เนื่องจากแต่ละขั้นตอนของกระบวนการใช้ยามีความซับซ้อนและก่อให้เกิดปัญหาหลายประการที่อาจส่งผลเสียต่อผู้ป่วย บ่อยครั้งปัญหาเหล่านี้ เกิดจากการขาดการติดต่อสื่อสารระหว่างทีมผู้ดูแลทางด้านสุขภาพหรือระหว่างทีมผู้ดูแลฯ กับผู้ป่วย และส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการสั่งใช้ยา ทำให้เกิดความคลาดเคลื่อนทางยา และเพิ่มความเสี่ยงต่อผู้ป่วยในการเกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาด้วย ซึ่งจะเกิดขึ้นในขั้นตอนของการรับผู้ป่วยการย้ายหอผู้ป่วย และการจำหน่ายผู้ป่วยออกโรงพยาบาล
Medication Reconciliation หมายถึง กระบวนการจัดทำรายการการใช้ยา ของผู้ป่วยให้ครบถ้วนถูกต้องและต่อเนื่องตลอดการรักษา มีการระบุชื่อยา ขนาดยา ความถี่ และวิธีการใช้ยาของผู้ป่วยที่ได้รับก่อนเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเปรียบเทียบกับรายการยาที่แพทย์สั่งในขั้นตอนของการรับ ส่งต่อ และ/ หรือจำหน่ายผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาล โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับยาที่ถูกต้อง ณ จุดที่มีการส่งต่อหรือเปลี่ยนการรักษา
กระบวนการ Medication Reconciliation
ประกอบด้วย 3 ขั้นตอนหลัก ดังนี้
1. รวบรวมประวัติการใช้ยาที่ถูกต้องและสมบูรณ์ของผู้ป่วย เพื่อจัดทำรายการการใช้ยา
2. ตรวจสอบความถูกต้องของรายการยาและขนาดยาที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วย
3. ตรวจสอบความแตกต่างของรายการยา โดยเปรียบเทียบรายการยาที่ผู้ป่วยเคยได้รับกับรายการยาที่แพทย์สั่ง เมื่อมีการส่งต่อหรือเปลี่ยนระดับการรักษา เช่น การรับเข้า ส่งต่อ หรือจำหน่ายผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาล ในกรณีที่พบความแตกต่างจะต้องสอบถามแพทย์ว่า เป็นความคลาดเคลื่อนทางยาหรือไม่ และต้องมีการประสานงานกับแพทย์เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดจากความคลาดเคลื่อนทางยาของผู้ป่วยด้วย
I. การตรวจสอบความสอดคล้องต่อเนื่องของรายการยาในขั้นตอนการรับผู้ป่วย
การตรวจสอบความสอดคล้องของรายการยาในขั้นตอนนี้ จัดเป็นขั้นตอนแรกของกระบวนการ medication reconciliation เริ่มจากการวบรวมประวัติและข้อมูลการใช้ยาของผู้ป่วยอย่างครบถ้วนในขั้นตอนการรับผู้ป่วย เพื่อให้แน่ใจว่า ผู้ป่วยจะได้รับยาทั้งหมดที่เคยได้รับก่อนการเข้ารักษาในโรงพยาบาล ในขนาดยา ความถี่ และวิธีการใช้ยาที่ถูกต้อง โดยมีวิธีรวบรวมรายการยาในรูปแบบต่าง ๆ เช่น สัมภาษณ์ผู้ป่วยหรือญาติ ตรวจสอบยาเดิมที่ผู้ป่วยนำมาด้วย ดูจากบันทึกการใช้ยาของโรงพยาบาล ทั้งนี้ ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบในขั้นตอนนี้ ขึ้นกับการกำหนดบทบาทและหน้าที่ความรับผิดชอบของโรงพยาบาลแต่ละแห่ง และบันทึกรายการยาที่รวบรวมได้ทั้งหมดลงในแบบฟอร์มที่สร้างขึ้นสำหรับเป็นเครื่องมือในการสื่อสารข้อมูลระหว่างทีมดูแลผู้ป่วย หลังจากนั้นจะนำรายการยาที่รวบรวมได้มาเปรียบเทียบกับรายการยาที่แพทย์สั่ง ถ้าพบความแตกต่าง จะต้องสื่อสารกับแพทย์ผู้สั่งใช้เพื่อตรวจสอบว่า เป็นความแตกต่างที่เกิดขึ้นโดยที่แพทย์ตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ และก่อให้เกิดความคลาดเคลื่อนทางยาหรือไม่
II. การตรวจสอบความสอดคล้องต่อเนื่องของรายการยาในขั้นตอนย้ายหรือส่งต่อผู้ป่วย
ในขั้นตอนนี้จะทำโดยการเปรียบเทียบหาความแตกต่างของรายการยาที่ผู้ป่วยกำลังได้รับในปัจจุบันขณะที่อยู่ในโรงพยาบาลกับคำสั่งใช้ยาของแพทย์เมื่อย้ายไปยังหอผู้ป่วยอื่นซึ่งสิ่งที่สำคัญมากในขั้นตอนนี้ คือ ความเหมาะสมของยาที่จำเป็นต้องใช้ยาต่อเนื่องขณะที่ผู้ป่วยอยู่ในโรงพยาบาลเช่นเดียวกับการประเมินรายการยาที่ผู้ป่วยเคยได้รับก่อนเข้ารักษาในโรงพยาบาลว่า ผู้ป่วยมีความจำเป็นที่จะต้องใช้ยาต่อหรือไม่ ซึ่งกระบวนการรวบรวมและบันทึกประวัติการใช้ยาที่สมบูรณ์และถูกต้อง เมื่อผู้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ร่วมกับการตัดสินใจในการให้ยาที่ผู้ป่วยได้รับขณะอยู่บ้าน และยาที่ได้รับในปัจจุบันขณะที่อยู่โรงพยาบาล โดยตระหนักถึงภาวะทางคลินิกของผู้ป่วย จะช่วยให้การตรวจสอบความสอดคล้องของรายการยา
III. การตรวจสอบความสอดคล้องต่อเนื่องของรายการยาในขั้นตอนการจำหน่ายผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาล
ควรมีการตรวจสอบความสอดคล้องของรายการยา 3 ประเภท คือ
1. รายการยาที่ผู้ป่วยได้รับก่อนเข้ารักษาในโรงพยาบาล ซึ่งอาจมีการหยุดใช้ ปรับเปลี่ยนหรือใช้ต่อเมื่อผู้ป่วยเข้ารักษาในโรงพยาบาล
2. รายการยาที่ผู้ป่วยใช้ภายใน 24 ชั่วโมง ก่อนจำหน่ายออกจากโรงพยาบาล ซึ่งอาจเป็นยาชนิดใหม่ที่เริ่มใช้ขณะผู้ป่วยรักษาในโรงพยาบาล
3. รายการยาที่แพทย์วางแผนให้ผู้ป่วยใช้ต่อเนื่อง หลังจากจำหน่ายออกจากโรงพยาบาล ซึ่งอาจเป็นยาชนิดใหม่ที่จะเริ่มใช้เมื่อจำหน่ายผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาล ซึ่งอาจเป็นยาชนิดใหม่ที่จะเริ่มใช้เมื่อจำหน่ายผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาล
เครื่องมือช่วยในการตรวจสอบความสอดคล้องของรายการยา อาจมีการพัฒนาแบบฟอร์ม
ในการจำหน่ายผู้ป่วย ซึ่งคล้ายกับแบบฟอร์มในการรับหรือส่งต่อผู้ป่วย
บทสรุป
Medication Reconciliation เป็นกระบวนการที่เพิ่มความปลอดภัยในการใช้ยาของผู้ป่วยโดยสามารถป้องกันความคลาดเคลื่อนทางยา และเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาของผุ้ป่วยในจุดที่มีการเปลี่ยนระดับการรักษา ซึ่งโรงพยาบาลแต่ละแห่งควรมีการพัฒนาและแนะนำกระบวนการนี้มาปฏิบัติในขั้นตอนการรับส่งต่อ และจำหน่ายผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาล โดยมีเป้าหมาย เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับยาที่ถูกต้อง ณ จุดที่มีการเปลี่ยนระดับการรักษา
สวัสดีค่ะ
- แวะมาเรียนรู้ด้วยคนค่ะ
เก็บเข้าแพลนเนตแล้วนะจ๊ะ
ขอบคุณที่แวะมาชมค่ะ....
ขอบคุณสำหรับความรู้ดี ๆ จะนำไปประยุกต์ใช้กับงานเภสัชกรรมในหน่วยงานครับ
นพดล