ครู....“โดน” หรือยัง


การสื่อสารภาษาถิ่น= อีกหนึ่งความท้าทายของครูมือใหม่(และมือเก่า)

ครู....โดน หรือยัง

ไม่มีใครคาดคิดว่าคนสาวสวย รวยทรัพย์ อย่าง มาลินี ผู้เป็นสาวมั่นในแวดวงธุรกิจเมืองกรุงจะกลายเป็น ครูมาลินี ในวันนี้ได้ยิ่งเมื่อทราบเหตุผลจากปากของเธอว่า ฉันเบื่อความวุ่นวายสับสนของสังคม ฉันอยากอุทิศตนเพื่อการสอนเด็ก ๆ ด้อยโอกาส ครูมาลินีสอบได้อันดับต้นๆ และได้รับการบรรจุอยู่ในจังหวัดหนึ่งในภาคอิสาน ณ โรงเรียนขยายโอกาสเล็ก ๆ ในแถบทุ่งกุลาร้องไห้โดยได้รับมอบหมายให้ทำการสอนวิชาสังคมศึกษาและพระพุทธศาสนาตลอดจนผู้บริหารเห็นความเป็นสาวมั่นที่มีอยู่ในตัวจึงมอบหมายงานด้านการแนะแนวและเสริมทักษะชีวิตให้แก่เด็กนักเรียนในเรื่องเพศ สองสัปดาห์ที่สอนในโรงเรียนแห่งนี้ ครูมาลินีได้รับความเคารพจากเด็ก ๆ ในโรงเรียน เพราะเธอเป็นคนที่ไม่ดุ มีความเข้าใจจิตวิทยาเด็กเป็นอย่างดี สามารถให้คำแนะนำเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยให้แก่วัยรุ่นที่เป็นวัยแห่งความอยากรู้อยากเห็นได้เป็นอย่างดี เธออุทิศเวลาให้กับการเรียนการสอนมาโรงเรียนก่อนและกลับหลังคนอื่น ในวันหยุดหลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จเธอก็จะให้เพื่อนครูที่พักด้วยกันพักผ่อนเต็มที่ที่บ้านพัก ส่วนเธอจะหลบลี้มานั่งทำงานที่โรงเรียนทุกวัน จนเป็นที่ชื่นชอบและชื่นชมต่อบุคลิกภาพที่ดีของครูมาลินี เนื่องจากเธอได้นำหลักธรรมในวิชาพระพุทธศาสนาที่เธอสอน โดยเฉพาะศีล 5 มาปฏิบัติให้เป็นตัวอย่างแก่คนรอบข้างและเมื่อเข้าสู่สัปดาห์ที่ 3 โรงเรียนมีการประชุมผู้ปกครองและบังเอิญครูและผู้บริหารในโรงเรียนต้องไปราชการในตัวเมืองภารกิจด้านการประชุมผู้ปกครองจึงต้องตกเป็นของครูมาลินี ซึ่งคนรอบข้างก็เชื่อว่าไม่ใช่เรื่องหนักหนาสาหัสสำหรับเธอและจะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง

ในวันประชุมทางโรงเรียนได้เชิญผู้ปกครองของนักเรียนตั้งแต่ชั้นป.1 ถึง ม.3 มาประชุมเพื่อรับฟังนโยบายโดยเฉพาะการจัดกระบวนการเรียนรู้แบบ Child Center ซึ่งเป็นของใหม่สำหรับโรงเรียนนี้ ในระหว่างที่รอผู้ปกครองมาจนครบครูมาลินีก็ถือโอกาสสร้างความคุ้นเคยกับผู้ปกครองด้วยการเปิดโอกาสให้ถามเรื่องสัพเพเหระก่อนที่จะเข้าสู่วาระการประชุม ครูมาลินียืนอยู่บนเวทีต่อหน้าผู้ปกครองด้วยบุคลิกที่เหมาะสมต่อการทำหน้าที่แม่พิมพ์ของชาติพร้อมกับเอ่ยผ่านไมโครโฟน ว่า ในช่วงที่รอผู้ปกครองที่ยังไม่มา แต้ส่วนใหญ่มาถึงแล้ว ดิฉันคิดว่าควรจะทำความรู้จักกันก่อน หากท่านผู้ปกครองมีคำถามก็เชิญเดินไปที่ไมโครโฟนได้เลยค่ะ ไม่มีใครลุกไปถามอะไร ต่างคนต่างมองหน้ากันไปมาจนในที่สุดก็มีคนลุกไปตั้งคำถาม

สะหวัดดีครับ ผมซื่อบุญนำ เป๋นผู้ปกคร่องของเด็กหญิงคำหนุน ซั่นปอสี่ สิถามครูว่า ครูซื่ออิหยังครับ?

ดิฉันต้องกราบขออภัยค่ะ ที่ไม่ได้แนะนำชื่อ ดิฉันชื่อมาลินี ค่ะเรียกครูนี ก็ได้ เชิญท่านต่อไปค่ะ

ข้อยซื่อ ชวน บุญนำ เป๋นผู้ปกคร่องของเด็กซายสามารถ ซั่นมอหนึ่ง สิถามครูว่า ครูสอนวิซาอิหยัง

ดิฉันสอนสังคมศึกษา และวิชาพระพุทธศาสนาทำงานดื่นโดยรับผิดชอบด้านการแนะแนวการมีเพศสัมพันธ์ที่ถูกต้องและปลอดภัยเพื่อลดปัญหาในวัยรุ่นปัจจุบันค่ะตอนนี้ครูเป็นครูที่ปรึกษาของชั้นที่เด็กชายสามารถเรียนอยู่ค่ะ มีท่านอื่นมั้ยคะ อีกซัก 2 3 คำถาม

ครูสอนเพศศึกษาให้เด็กน้อยได้นี่ แสดงว่าครูมีผัวแล้วแม่นบ่อ ยายของเด็กหญิงน้ำฝนลุกขึ้นถามด้วยภาษาชาวบ้านแต่ก็ทำให้ครูมาลินีขนลุกซู่ไม่น้อยกับภาษาชาวบ้านที่ว่า ผัวแต่ก็พยายามเข้าใจว่าเป็นภาษาชาวบ้านก่อนที่จะตอบด้วยน้ำเสียงที่เริ่มสั่น ๆ เพราะฟังภาษาพื้นบ้านไม่ค่อยออก

ยังค่ะ ครูยังโสด ยังไม่มีครอบครัว คิดว่าอนาคตยังอีกไกลตอนนี้อยากทำเพื่อเด็กและชุมชนอย่างเดียว เรื่องครอบครัวยังไม่คิดค่ะ งั้นขอคำถามสุดท้ายนะคะ ก่อนที่จะเข้าสู่พิธีการ

ยายบุญตา ยายของเด็กชายสมสุข เด็กโข่ง ประจำชั้นม.3 ลุกเดินขึ้นไปที่ไมโครโฟนอย่างงก ๆ เงิ่น ๆ เนื่องจากอายุมากแล้ว เมื่อคว้าไมโครโฟนได้ยายก็ถามคำถามด้วยเสียงแหบ ๆ ครูนีเป๋นผู้สาวที่น่าฮักหลายแต่ยายบ่เคยเห็นหน้า ยายอยากสิถามว่า ครูนีมาสอนอยู่ม่องนี่ โดนละบ่อ เมื่อคำถามจบแทบจะทำให้ครูมาลินีเป็นลม ล้มทั้งยืน เพราะไม่คิดไม่ฝันว่าจะเจอคำถามแบบนี้ ไม่ตอบก็ดูไม่ดี ครั้นจะโกหกไปก็ไม่ได้เพราะตัวเองสอนพระพุทธศาสนา จึงก้มหน้าก้มตาบิดตัวไปมา หน้าแดงก่ำ ก่อนที่จะตอบยายแม้นต่อหน้าที่ประชุมไปว่า ตั้งแต่มาสอนที่นี่เพิ่ง โดน ไปเจ็ดครั้งเองคะครั้งแรกกับ พี่แดงผู้ช่วยผู้ใหญ่ ครั้งที่สองกับนายแสงข้างวัด ครั้งที่สามกับบุญโฮมท้ายหมู่บ้าน ครั้งที่สี่กับครูสมัยครูที่โรงเรียน ครั้งที่ห้ากับอบต.สมคิด ครั้งที่หกกับพ่อใหญ่แสน ครั้งล่าสุดก็กับสมสุขหลานยายแหล่ะค่ะ ส่วนครั้งที่แปดน่าน่าจะเป็นคืนนี้ เห็นผอ.กำลังนัดอยู่ค่ะ ก่อนที่จะมีใครพูดอะไรหรือถามอะไรต่อและก่อนที่ครูมาลินีจะรวบรัดเข้าสู่พิธีการ นายสมพงศ์ซึ่งเป็นนักการภารโรง เดินจ้ำอ้าวไปหาครูมาลินีบนเวทีพร้อมกับยื่นกระดาษแผ่นหนึ่ง และทำให้ครูมาลินีเป็นลม ล้มทั้งยืนจริง ๆ หลังจากอ่านข้อความในกระดาษที่เขียนว่า เรียนคุณครูมาลินี คำว่า  โดน ในภาษาอีสาน หมายถึง นาน ครับ......สถานการณ์หลักจากนั้นน่าจะเป็นอย่างไรต่อไป? เรื่องนี้ให้ข้อคิดอะไรกับเราบ้างครับ ?

หมายเลขบันทึก: 179220เขียนเมื่อ 28 เมษายน 2008 14:52 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน 2012 19:31 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

หรอยจิง สุดยอด(คำใต้) แปลว่า มัน ได้แรงอกจิง ๆ

กลับมาอ่านบทความเก่า ๆ ของคุุณ

สังคมเมือง....ที่เคยอยู่

สังคมชนบท....ที่มาอยู่

ดูไม่ต่างกัน....ในความเป็นจริง

ถูกผิดอยู่ที่ตัว....แต่คำสำคัญที่ขีดเส้นใต้นี่สิ....

จะเป็นตัวกำหนด

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท