เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ขอเล่าเรื่องการประชุมเครือข่ายฯสัยจร ครั้งที่ 2/2549 ต่อเลยแล้วกันนะคะ
วาระที่ 3 เรื่องสืบเนื่อง (ต่อ)
ประธานดำเนินการประชุมต่อไปโดยถามว่า แล้วในส่วนของงบประมาณล่ะครับ? ปรากฎว่าที่ประชุมเงียบอีกครั้ง ผ่านไปสักครู่ประธานก็ถามขึ้นมาว่าเมื่อกี้นี้กลุ่มเป็นหมายของเรามีกี่คนครับ?
พี่นก ยุพิน จึงตอบว่าในแต่ละอำเภอเราตั้งเป้าหมายไว้ 2 ตำบล แต่ในความเป็นจริงเราอาจขยายได้มากกว่า 2 ตำบลก็ได้ จำนวนสมาชิกที่ตั้งไว้ก็อาจมากกว่าที่เราตั้งเป้าหมายไว้ก็ได้
ดูเหมือนว่าจะเกิดการสื่อสารไม่เข้าใจกันชั่วขณะ มีการถกเถียงกันไปมาเรื่องจำนวนกลุ่มเป้าหมาย ประธานจึงถามขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งว่าตกลงตั้งเป้าสมาชิกไว้เท่าใด?
คุณกู้กิจ ตอบว่า ในส่วนของอำเภอเถินตั้งเป้าหมายไว้ 210 คน
อ.ธวัช ตอบว่า ในส่วนของอำเภอแม่พริกตั้งเป้าหมายไว้ 58 คน นี่เป็นเป้าหมายตำสุดนะครับ
ในส่วนของกลุ่มเกาะคา ดาบไพศาล ตอบว่า 150 คนครับ
ส่วนแม่ทะ มีผู้ตอบว่า 180 คน
สำหรับอำเภอเมือง บอกว่า 270 คน
รวม 768 คน
จากนั้นประธานถามถึงวิธีการดำเนินการ จะดำเนินงานอย่างไรครับ?
คุณอุทัย บอกว่า เมื่อกี้นี้ได้ยินว่าจะใช้เวลาในการดำเนินการตำบลละ 1 วัน ดังนั้น อำเภอหนึ่งจึงเท่ากับ 2 วันใช่ไหม?
พี่นก ยุพิน ได้เสริมในเรื่องนี้ว่า ไม่แน่ ตำบลหนึ่งอาจใช้เวลา 2 วัน ถ้าตำบลนั้นเป็นตำบลใหญ่ (คุณกู้กิจ ก็ช่วยเสริมเช่นกันว่า ตำบลละไม่เกิน 2 วัน แต่ถ้าทำจริงอาจใช้ครึ่งวันก็ได้)
ประธานถามกลับมาที่เรื่องงบประมาณอีกครั้ง
อ.ธวัช ยกมือขึ้นพร้อมกับกล่าวว่า ในส่วนของงบประมาณนั้นน่าจะมาลองดูว่าเราต้องไปร่วมประชุมกับทีมกลางอีก 2 ครั้ง รวมทั้งไปประชุมสัญจรอีก 4 ครั้ง (รวมครั้งนี้ด้วย) เราต้องใช้งบประมาณเท่าใด ให้ตัดออกมาเลย ที่เหลือเราก็เอาไปใช้ในการจัดกิจกรรมที่เราวางแผนไว้ (พี่นก โยนลูกมาที่ผู้วิจัยกับอาจารย์พิมพ์ว่าให้ช่วยคำนวณงบประมาณในส่วนนี้หน่อยว่าจะต้องใช้เท่าใด)
ผู้วิจัย จึงตอบกลับไปว่า เอาอย่างนี้ดีกว่า ให้ทางนี้ (คณะทำงาน) เป็นคนกำหนดดีกว่า อย่าให้พวกเรา (นักวิจัย) เป็นคนกำหนดเลย แต่ (เรา) สามารถให้ข้อมูลได้ เช่น ที่เราจะไปตราด รถตู้ค่าเช่าวันหนึ่ง 1,500 บาท/คัน ถ้าเราเดินทางวันที่ 17 (ตอนแรกคิดว่ามีงานวันที่ 18 กับ 19 ค่ะ) อยู่ร่วมงานวันที่ 18 กับ 19 แล้วเราก็เดินทางกลับ ถ้านับดูก็จะประมาณ 3 วัน แต่ไม่แน่ใจว่ารถตู้จะคิดเป็น 4 วันหรือเปล่า เพราะ วันที่ 19 เราคงเดินทางมาถึงลำปางประมาณ ตี 2 หรือ ตี 3 ซึ่งเลยเที่ยงคืนมาแล้ว ปกติเขาก็จะคิดอีกวันหนึ่ง ถ้าเป็นอย่างนั้นก็จะประมาณ 4 วัน ส่วนค่านำมันอย่างตำประมาณ 6,000 บาท/คัน
มีคนแซวขึ้นมาว่าถ้าอย่างนี้เหมา 10 ล้อไปดีไหม? ผู้วิจัยจึงตอบว่า แล้วแต่ทางนี้ก็แล้วกัน คุณกู้กิจ ซึ่งมีเครื่องคิดเลขอยู่ในมือ นั่งคำนวณสักครู่หนึ่งก็บอกว่าถ้าเอารถตู้ไป 2 คัน ค่าใช้จ่ายจะตกประมาณ 30,000 บาท
จากนั้นมีผู้ถามนักวิจัยขึ้นมาอีกว่าแล้วค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าอาหาร ค่าล้างรูป อัดรูปล่ะ เอาจากตรงไหน? ผู้วิจัยจึงตอบว่า ในส่วนของค่าอาหารระหว่างการสัมมนา รวมทั้งค่าที่พัก ทางทีมกลางจะเป็นผู้ออกให้ แต่ค่าอาหารระหว่างการเดินทางเราจะต้องเป็นคนออกเอง
คุณกู้กิจ จึงเสนอในที่ประชุมว่า ถ้าอย่างนั้นขอกันงบประมาณที่จะไปตราดไว้ 30,000 บาทได้ไหมครับ?
ปรากฎว่าที่ประชุมเงียบ ไม่มีใครพูดอะไร ทันใดนั้น พี่นก ยุพิน ก็พูดว่า อยากให้อาจารย์ (ผู้วิจัยกับอาจารย์พิมพ์) เป็นผู้เสนอ อย่าให้เราต้องคิดเองเลย
ผู้วิจัย จึงตอบกลับไปว่า เราขอเป็นผู้ให้ข้อมูลก็แล้วกัน ที่เราไม่อยากเป็นผู้กำหนดให้ก็เพราะว่า บทเรียนจากการทำงานวิจัยที่ผ่านมา รวมทั้งโครงการอื่นๆที่ทราบมาด้วย ถ้าให้นักวิจัยกำหนด เราก็จะกำหนดกันตามสบาย แต่ถ้าให้กลุ่ม/ชุมชนเป็นผู้กำหนด เขาก็มักจะกำหนดกันเองอย่างประหยัด เขาจะรู้กันเอง อย่างตอนนี้สมมติว่าให้เรากำหนด เราอาจบอกไปเลยว่าหัวละ 100 บาท แต่ชุมชนอาจบอกว่าเยอะไป 30 บาทก็พอ เรา (นักวิจัย) ก็ไม่รู้ว่าชุมชนจะทานกันอย่างไร จึงอยากให้จัดสรรเอง เราสามารถบอกได้แค่ข้อมูลเบื้องต้น เช่น ค่าเช่ารถเท่าไหร่ ค่านำมันรถประมาณเท่าไหร่ เป็นต้น เพราะ ราคาพวกนี้ค่อนข้างจะตายตัวอยู่แล้ว เป็นมาตรฐานอยู่แล้ว
จากนั้น พี่นก ยุพิน ก็ถามขึ้นมาอีกว่า อาจารย์คะ ค่ารถในการประชุมสัญจรแต่ละพื้นที่เป็นเงินเท่าไรคะ?
ผู้วิจัย จึงตอบกลับไปว่า ครั้งที่แล้วหมดไปประมาณ 3,800 บาท แต่ถ้าคิดจริงๆ คิดครั้งละ 4,000 บาทก็ได้ เพราะ กลุ่มส่วนใหญ่อยู่ในเมือง มันต้องจ่ายเยอะกว่าปกติอยู่แล้ว
ท่ามกลางความเงียบ (อยู่สักพัก) คุณกู้กิจ ก็ยกมือขึ้น พร้อมกับพูดว่า ขอใช้งบในการขยายผลประมาณ 80,000 บาทก็พอครับ นอกนั้นก็เอาไปใช้เวลาไปกรุงเทพฯ ไปตราด และการประชุมสัญจรครับ
หิวนำจังเลยค่ะ ขอออกไปหานำทานก่อนนะคะ แล้วจะเข้ามาเล่าให้ฟังต่อค่ะ
ไม่มีความเห็น