เป็นไปได้


หลังจากที่อ่อนล้าจากการฝ่าฟันอุปสรรคทั้งการทำงาน และเด็กแล้ว การคิดเป็น วางตัวให้ดี เข้าสังคมตามความเหมาะสม ไม่ดึ่มเหล้า สูบบุหรี่ ชีวิตก็เป็นสุขแล้วนะ
คนเขาบอกว่าเหตุการณ์ใดๆก็ตามที่อุบัติขึ้นทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการกระทำของตัวเราเอง ตอนนั้นยังสงสัยอยู่ว่ามันจะเป็นไปได้อย่างไรมันล้วนมาจากพรหมลิขิต หรือบุญกรรมแต่ปางก่อน หรือฟ้ากำหนดซิ แต่พอใช้ชีวิตแบบลองผิดลองถูกมาอยู่พักหนึ่งจึงรู้ว่า จริงๆเเล้วไอ้ความรู้สึก สุข หรือทุกข์ เนี่ย มันอยู่ที่ใจอของคนเรานี่เอง ...เป็นความรู้สึกที่อยากบอกให้หลายๆคนรอบข้างได้รู้ว่ามันเป็นความจริง..(จริง จริง)..เพราะอะไรรู้ไหม?..เพราะว่าเรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นกับตัวเองมาแล้ว มวลประสบการณ์ทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้เป็นเรื่องจริงที่อยากตีแผ่ให้สังคมได้รับรู้ว่า ตะก่อนนะ...เป็นเด็กบ้านนอกหน้าตาค่อนข้างดี...(ซะเมื่อไหร่)เรียบร้อย เรียนเก่ง(เค้าว่า)สอบได้ที่1 ตลอด เป็นหัวหน้าห้องหรือรอง(ชั่วคราว)เสมอๆ เวลาโรงเรียนมีงานก็จะรับบทเป็นผู้กำกับการแสดง แต่เป็นครเรียบร้อยมาก..พูดไม่เก่ง วันๆ นั่งทำหน้าเศร้าเหมือนนางเอกมิวสิคเพลง ตอนที่อกหักนั่นเหล่ะ..ไม่ใช่ว่าหยิ่งหรืออะไรนะ..แต่ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร..ขึ้นต้นต้องพูดอย่างไรไม่รู้เลย...เรียบร้อยจนได้เกียรติบัตรรับรองได้ทุนการศึกษาเรียนดีและมารยาทดีมาตลอด ...จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันกับชีวิต..ได้มีโอกาสสอบติดโครงการคุรุทายาทมช. ได้มีโอกาสปรับตัวที่นั่น ได้เรียนรู้วิถีชีวิตของคนเมือง การเอาตัวรอดท่ามกลางความศิวิไลซ์ แลแวดวงคนมีการศึกษา สภาพแวดล้อมท่ได้พบเห็นและเจอ ตลอดจนความรู้สึกใฝ่ดีของคนบ้านนอกที่มีแม่ชอบเข้าวัดเข้าวา..พ่อมีอาชีพทำไร่ทำสวน ทุกคนเหนื่อยเพราะต้องขยันเก็บเงินส่งเราเรียน..เพื่อนๆที่มีแฟนทั้งเป็นตัวและเป็นตน จากคนที่ไม่กล้าพูดได้แต่ฟัง และเก็บข้อมูลต่างๆ ไว้ในสมองมากมาย..ทำอย่างไรจะไม่เสียตัวในวัยเรียน..คำถามนี้ถามตัวเองอยู่เสมอ..บังเอิญโชคดี มีหน้าตาเป็นอาวุธ เลยรอดจากสิ่งเหล่านี้..(บางทีก็อดขอบคุณพ่อแม่และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ที่ทำห้เราเกิดมามีหน้าตาสวยน้อยกว่าคนอื่นเขา..เลยปลอดภัย..)จากสภาพแวดล้อมที่ต้องเจอต้องแข่งการเรียน ต้องรักษาเกรดให้ไม่ตำกว่า 2.75 เริ่มถามตัวเองว่าเราคือใคร..? ในที่สุดก็พบว่า เวลาเราทำกิจกรรมเรามีความสุข..จากจุดนั้นเราเลยเล่นกิจกรรมทุกอย่างเลย ผลพวงจากตรงนั้นทำให้ปัจจุบัน กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่พอเป็นครูท่านผู้หลักผู้ใหญ่ผู้บริหารโรงเรียนตลอดจนเพือนร่วมงานต่างๆ มอบหมายให้เป็นพิธีกรบ้าง วิทยากรบ้าง..ความภูมิใจสุดๆ ก็คือ การฝึกซ้อมเด็กพูดสุนทรพจน์จนได้รับเหรียญทองระดับภาคเหนือที่จังหวัดพิษณุโลกที่ผ่านมา...ปัจจุบัน ไม่อายแล้วค่ะ..ไม่ก้าวร้าว ไม่พูดปด ไม่นินทา ว่าร้ายผู้อื่น ไม่ชอบใส่ร้าย แต่ชอบป้ายสี(วาดรูป)บางเวลา มองโลกในแว่ดี..ใช้ชีวิตไม่ประมาทและพอเพียงตามสภาพ..ไม่น่าเชื่อว่าสิ่งทั้งหลายทั้งมวลนี้จทำให้เราเป็นสุข..หลังจากที่อ่อนล้าจากการฝ่าฟันอุปสรรคทั้งการทำงาน และเด็กแล้ว การคิดเป็น วางตัวให้ดี เข้าสังคมตามความเหมาะสม ไม่ดึ่มเหล้า สูบบุหรี่ ชีวิตก็เป็นสุขแล้วนะ..ตะก่อนอยากออก ทีวี..นะ ..แต่ตอนนี้..เล่นgotoknow.เป็นไม่ต้องออก ทีวีก็ได้..ได้บอกแล้วสบายใจแล้วหล่ะ..ขอบคุณที่ร่วมอ่านนะคะ..
หมายเลขบันทึก: 179085เขียนเมื่อ 27 เมษายน 2008 22:18 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 23:46 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท