ดื่มอย่างไรไม่ให้เสียของ


เห็นว่ามีสาระดี มีประโยชน์สำหรับนักดื่มทุกท่าน จึงคัดลองมานำเสนอไว้เป็นความรู้ (แบบว่าประชดน่ะครับ)
เห็นว่ามีสาระดี มีประโยชน์สำหรับนักดื่มทุกท่าน จึงคัดลองมานำเสนอไว้เป็นความรู้ (แบบว่าประชดน่ะครับ)
----------------------------------------------------------------------------------
คำคมนักดื่ม

1. ผมไม่เคยดื่มอะไรที่แรงกว่าเบียร์เลย................ก่อนที่ผมจะอายุสิบสอง (ดับบลิว.ซี.ฟิลด์ส)
2. ผมน่ะศักดิ์สิทธิ์เอามากๆ เสียจนเวลาที่ผมแตะต้องไวน์.......... มันจะกลายเป็นน้ำไปเลย (อะกาข่าน ที่3)
3. ในระหว่างสงคราม ผมดื่มไวน์เยอรมัน แต่ผมยกโทษให้ตัวเองว่าผมไม่ได้ดื่มมัน............... หากกักกันมันในฐานะเชลยศึกตะหาก (วินสตัน เชอร์ชิล)
4. ผมเคยเลิกดื่มนะ ............แต่เป็นช่วงเวลาที่หลับไปเท่านั้น (จอร์จ เบสต์)
5. ผมได้รับคำบอกเล่าว่าแอลกอฮอล์คือยาพิษที่ออกฤทธิ์อย่างช้าๆ ........... ผมก็ไม่ได้รีบร้อนอะไรนี่ (โรเบิร์ต เบนชเลย์)
---------------------------------------------------------------------------------
 
 
All
ดื่มอย่างไรไม่ให้เสียของพร้อมสัมผัสกับรสชาติที่แอบซ่อน ( ลอกเค้ามา )รู้จักคำว่า ' เสียของ ' กันบ้างมั้ย ?
คนไทยเราน่ะ ชอบทำให้เสียของอยู่เรื่อยโดยเฉพาะนิสัย ' การดื่มแบบผสมมิกเซอร์ ' ทั้งหลายนั่นแหละคือการทำให้วิสกี้ชั้นดีที่บางทีไม่ควรผสมใดๆ ต้อง ' เสียของ '
วันนี้จะหยิบเอาเรื่องวิสกี้ตระกูล จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ มาพูดกันซะหน่อยเพราะว่าตระกูลนี้มีหลาย ' เลเบิ้ล ' เหลือเกิน ซึ่งมีวิธีการดื่มเฉพาะซะด้วย
 
red
เริ่มจาก ' เรด เลเบิ้ล ' (Red Label) กันก่อนเลยดีกว่าจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ เรด เลเบิ้ล น่าจะดูถูกใจคนไทยที่สุดเพราะน้องเล็กสุดขวดนี้ มี วัตถุประสง! ค์เพื่อการดื่มตลอดค่ำคืนพูดง่ายๆ ก็คือกินได้นานๆ สนุกสนานกันทั้งคืนนั่นแหละแถมวิธีการกินที่ถูกต้องนั้น ก็ต้องผสมกับ ' มิกเซอร์ ' ทั้งหลายอันเป็นวิธีการดื่มที่นิยมในหมู่คนไทยอยู่แล้วซะอีกตอนนี้ จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ เรด เลเบิ้ล ก็เลยขายดีที่สุดไปโดยปริยายง่ายๆ จะใส่น้ำแข็ง ผสมโคล่า ชามะนาว หรือโซดาก็ได้ทั้งนั้นสุดแล้วแต่ว่าจะชอบรสชาติแบบไหนหลังผสมมิกเซอร์แล้วเท่านั้นเองแต่นักดื่มมืออาชีพมักนิยมผสมน้ำก่อนแล้วจึงผสมโซดาตามลงไป
ในอัตราส่วน2:1หรือที่เรียกกันว่า " โซดาลอย " นั่นเอง...ผสมเสร็จก็ เอ็นจอย ดริ๊งกิ้ง กันได้ทั้งคืน ( แต่อย่าขับรถหลังดื่มนะ )
 
black
โตขึ้นมาหน่อย กับความเคร่งขรึมแบบ จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ แบล็ค เลเบิ้ล
วิสกี้ชั้นดีจากการหมักบ่มเพื่อให้ได้รสชาติที่คลาสสิกที่สุดนานถึง 12 ปี
วิธีการดื่มที่ถูกต้องนั้นก็คลาสสิกไม่แพ้รสชาติของตัววิสกี้ง่ายๆ เท่ๆ ดูดีด้วยสไตล์ที่เรียกกันว่า ' ออน เดอะ ร็อก ' นั่นเองหรือถ้าอยากย๊ากอยากจะผสมมิกเซอร์เหลือเกินก็ต้องใส่น้ำแข็งเข้าไปเยอะๆ วิสกี้ ครึ่งแก้ว และโซดาอีกครึ่งแก้วแค่นี้แหละ ก็จะได้สัมผัสรสชาติที่แท้จริงของ จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ แบล็ค เลเบิ้ล
 
gold
มาถึงวิสกี้ตระกูล จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ ที่ไม่ค่อยจะเห็นบ่อยนักบ้างดีกว่า
เริ่มจาก จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ โกลด์ เลเบิ้ล อายุ 18 ปีกันก่อน
แค่นำ จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ โกลด์ เลเบิ้ล ไปใส่ในช่องแช่แข็งสัก 24 ชั่วโมง
ถ้าที่ในช่องแช่แข็งยังเหลือก็นำแก้วทรงสูงเปล่าๆ แช่ไว้ด้วยพอได้เวลา
ก็รินใส่แก้วที่แช่ไว ้ข้างกันๆ นั่นแหละ แล้วดื่มเข้าไปเลยทันที
ที่วิสกี้เย็นจัดปะทะกับความอุ่นในปาก กลิ่นหอมหวนนุ่มลิ้นจะอบอวลแหม...
ยิ่งถ้ามีช็อกโกแล็ตดีๆ ไว้กินเข้าคู่ล่ะก็ จะเป็นความสุขที่ลืมไม่ลงเลยเชียว
 

green
ส่วน จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ กรีนเลเบิ้ล ที่มีจำหน่ายแบบจำกัดประเทศนั้น
หาน้ำแข็งก้อนใหญ่ๆ สักก้อน ใส่ในแก้วปากกว้างเพียงแค่ก้อนเดียว
ไม่ต้องกลัวว่าน้ำแข็งก้อนนั้นจะเหงา เพราะเราจะเฝ้ามองอย่าทะนุถนอม
จากนั้นริน จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ กรีน เลเบิ้ล ลงไปไม่ต้องท่วมน้ำแข็ง
แกว่งแก้วเล็กน้อย ให้อุณหภูมิของวิสกี้ชะอุณหภูมิของน้ำแข็งก้อนโต
ดมกลิ่นวิสกี้ที่ระเหยขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนลิ้มรสวิสกี้ที่อุณหภูมิพอเหมาะพอดี
งานนี้จะได้ รสชาติ กลิ่น และแสงที่วิสกี้ตกกระทบกับก้อนน้ำแข็งชวนมอง

blue
 ปิดท้ายกันที่วิสกี้ชั้นสูง จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ บลู เลเบิ้ล อายุ 25 ปี
ที่หมักบ่มจากมอลต์คุณภาพสูง ตามวิธีการคลาสสิกแบบศตวรรษที่ 19
วิธีการดื่มวิสกี้ชั้นสูงนี้ก็คลาสสิกมาก เตรียมแก้วบรั่นดีสวยๆ ไว้สัก 2 ใบ
แก้วนึงรินวิสกี้รอไว้ ส่วนอีกแก้วนึงรินน้ำแร่เย็นๆ ไว้เช่นกัน
ดื่มน้ำแร่เย็นๆ เพื่อปรับอุณหภูมิในช่องปากกันก่อน
จากนั้นจิบ จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ บลู เลเบิ้ล ในแก้วบรั่นดีอีกใ บตาม
เมื่อน้ำแร่เย็นๆ ที ่หลงเหลืออยู่ในช่องปากผสมกับวิสกี้ชั้นดีนี้
รสชาติที่แอบซ่อนจะซึมผ่านเพดานปากไปมัดใจนักดื่มเหล้าทั้งหลายไม่รู้ลืม
 
เสร็จสิ้นครบทั้ง 5 เลเบิ้ลของตระกูล จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ กันแล้วต่อจากนี้นักดื่มเหล้าชา วไทยทั้งหลาย ก็จะดื่มได้แบบไม่เสียของกันแล้ว
แต่ที่สำคัญที่สุด ดื่มแล้วจะมึนน้อยหรือมึนมาก ก็อย่าขับรถเลยเก็บชีวิตที่มีค่าไว้สัมผัสกับสิ่งดีๆ ที่รอเราอยู่มากมายในวันข้างหน้าดีกว่า ...
คำสำคัญ (Tags): #ไม่สำคัญ
หมายเลขบันทึก: 178804เขียนเมื่อ 26 เมษายน 2008 12:38 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 15:54 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)
  • JJ มัก บักจอห์น ย่าง และ Zero ครับ

  • ดื่มให้หมด
  • กระดกให้หมดแก้ว
  • แล้วแจวเข้าห้องนอน(คนเดียว)

P

จริงครับอาจารย์ JJ 
 ดื่มแล้วเข้านอนไม่สร้างปัญหาให้ใครครับอาจารย์
 เหอะๆๆ
  • ว้า บอยไม่ดื่มค่ะ
  • อืมดื่มไม่ได้ค่ะ อิอิ

สวัสดีครับ

  • โอ้วววว เสียดาย มาเจอ เมื่อผมปฏิญานเลิกดิ่มเสียแล้ว

ไม่ดื่มดีที่สุดครับคุณพี่ naree suwan P คุณ ครูข้างถนน

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อล่ะครับว่า ประเทศไทยเรา ติดอันดับ 1 ใน 5 ของยอดนักดื่มครับ หึหึ ภูมิใจ.....ซะไม่มี แหะๆๆ

 

หวัดดีค่ะ...คุณรินทร์

แวะมาเยี่ยม ๆ ค่ะ...

ขากลับชักมึน ๆ

นี่แค่เบาะๆ ตระกูล จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ อย่างเดี่ยวนะครับเนี้ยครู windyP

มึนซะแล้วเหอะๆๆๆ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท