ศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบจิตอาสาเพื่อสังคม


เราเต็มใจช่วยกันทำคนละไม้คนละมือ และสอนเด็กที่เป็นลูกหลานให้รู้จักความรัก สามัคคีกัน มีความเสียสละ

ข้อมูลจาก สาระเวที เติมหัวใจ ให้สังคม ทติยบท ความดี ความงาม ความรักของอาสาสมัครที่มีห้วใจเป็นมนุษย์  สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ(สช.)

 

 

 

ศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบจิตอาสาเพื่อสังคม

งานยุวจิตอาสา ของโรงเรียนหนองตาบ่ง ต.วังขนาย อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี เป็นการชมจากวีดีทัศน์ซึ่งสะท้อนภาพให้เห็นความเป็นจิตอาสาของพ่อ แม่และเด็กนักเรียนได้รับรู้ดังนี้

          ในโรงครัวของโรงเรียนเช้านี้เต็มไปด้วยพ่อ แม่ของนักเรียน และนักเรียนที่นัดกันมาเตรียมอาหาร ในบรรยากาศสนุกสนาน สนิทสนมกลมเกลียว

          ไปตลาดตั้งแต่ตีสี่ จ่ายตลาดเอาอาหารสดมาที่นี้เราเต็มใจช่วยกันทำคนละไม้คนละมือ และสอนเด็กที่เป็นลูกหลานให้รู้จักความรัก สามัคคีกัน มีความเสียสละ คุณแม่ที่เป็นแม่ครัวท่านหนึ่งกล่าวด้วยใบหน้ายิ้มละไม

          นี่คือกิจกรรมที่โรงเรียนและผู้ปกครองร่วมกันพาเด็กๆ ไปทำบุญและเลี้ยงอาหารคนป่วยที่วัด เป็นกิจกรรมจิตอาสาที่ทุกคนมาร่วมกันฝึกฝนอย่างไม่หวังสิ่งตอบแทน เมื่อทุกอย่างพร้อม  รถสิบล้อของพ่อเปี๊ยก คุณพ่อจิตอาสาอีกท่านหนึ่งก็มารับเด็กๆไปที่วัด รถคันใหญ่ไปกันได้หมดทั้งโรงเรียนในเที่ยวเดียว หลังจากถวายเพลแล้ว ก็ถึงกิจกรรมสำคัญคือการนำอาหารไปเลี้ยงผู้ป่วยที่เป็นอัมพฤกษ์ ซึ่งอยู่ในความดูแลของวัดประมาณ ๗๐ คน แม้บรรยากาศในวัดจะดูวุ่นวาย แต่เต็มไปด้วยรอยยิ้มปรากฏให้เห็นอยู่ทัวไป เด็กๆช่วยป้อนอาหารให้ผู้ป่วยที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้อย่างตั้งอกตั้งใจ

 ดีใจครับที่ได้ป้อนข้าวคุณลุงครับ ผมคิดว่าคุณลุงเป็นเหมือนตาของผมครับ เด็กชายพูดซื่อๆประสาเด็ก

          เสร็จจากการป้อนอาหาร เด็กๆต้องทำใบงานคือสัมภาษณ์เพื่อเก็บข้อมูล นี่คือเครื่องมือสำคัญที่ทำให้เด็กได้รู้ข้อมูลและได้สัมผัสความรู้สึกจากใจ เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจสัมภาษณ์ สิ่งที่เด็กๆได้กลับมาแล้ว สะท้อนให้ได้ยินดังๆ ก็คือ.....

           สงสารเค้าค่ะ แล้วเค้าก็เกิดอาการร้องไห้ เค้าบอกว่าเค้าคิดถึงบ้านค่ะ

           เสียใจครับที่ลูกๆเค้าไม่ดูแลเค้าครับ

           หนูรู้สึกสงสารเค้ามากค่ะ ที่ลูกหลานเค้าไม่มาเยี่ยมค่ะ ถ้าพ่อหนูต้องเป็นอย่างนั้น หนูรับไม่ได้ค่ะ หนูไม่ทำอย่างนั้นแน่ค่ะ

           อยากกลับไปเยี่ยมคุณลุงเค้าครับ

          อยากกลับไปให้กำลังใจเค้าครับ

         ไม่มีคนมาเยี่ยม เค้าก็จะเศร้า เหงา

        เสียงจากเด็กๆเหล่านี้ คือกลวิธีอันแยบยลของผู้คิดกิจกรรมนี้ขึ้นมาด้วยหวังใจว่าจะเป็นกิจกรรมดีดีที่ช่วยนำพาเด็กๆให้ได้เรียนรู้เรื่องความกตัญญูจากประสบการณ์จริง และสัมผัสกับความเมตตากรุณาจากหัวใจตนเอง

อาจารย์วิวรรธน์  วรรณศิริ  ผู้อำนวยการโรงเรียนหนองตาบ่ง หัวเรี่ยวหัวแรงหลักที่ริเริ่มกิจกรรมแสนวิเศษแบบนี้ เล่าให้ฟังเพิ่มเติมว่า

           เรื่องที่เราทำ เราเคลื่อนทุกขบวนการ จุดแรกเริ่มที่ครูเรามีครูอาสาด้วย การที่เราจะทำอะไรสักอย่าง ถ้าเราไม่เต็มที่ งานเราก็ไม่สำเร็จ กว่าเราจะสำเร็จตรงนี้ได้ เราใช้เวลา ๖ ปี ผมเป็นผู้บริหารใหม่ จะไปขอความร่วมมือกับใครก็ผิดหวัง บางครั้งผมก็เดินร้องไห้กลับ ปัจจุบันนี้พอเราทำสำเร็จหลายหน่วยงานมาขอแจมกับเราด้วย เราก็บอกว่าเรื่องเงินทองเราไม่ต้องการแล้ว เราต้องการจิตใจของทุกคนที่มาร่วมงานการศึกษาของเรา

        นอกจากเรื่องดีๆจากวิดีทัศน์แล้วยังมีเรื่องเล่าจากเด็กนักเรียนอีก 2 คนที่ที่เข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสา

เด็กชายทรงสิทธิ์ สุขสุผล ได้กล่าวสวัสดีคุณครูทุกท่านและแนะนำตัวเอง ว่าเป็นยุวชนจิตอาสาและเล่าเรื่องประทับใจที่ได้ทำคือ เรื่องจิตอาสาของโรงเรียนบ้านหนองตาบ่ง ซึ่งมีงานจิตอาสาหลายอย่าง ทั้งยุวชนจิตอาสา  พ่อแม่อุปถัมภ์ ครูอาสา

สำหรับยุวชนจิตอาสาก็คือ เราจะไปพัฒนาชุมชนที่บ้านเรา คือ วัด และชุมชนของเรา  เช่นเก็บขยะรอบหมู่บ้าน แล้วก็ปลูกต้นไม้ทดแทนที่ถูกตัดไป อีกหนึ่งกิจกรรมคือ พ่อแม่อุปถัมภ์ โดยคุณครูจะจัดให้มีพ่อแม่อุปถัมภ์แล้วให้เด็กๆ เจอกับพ่อแม่อุปถัมภ์เดือนละครั้ง มีพ่อแม่อุปถัมภ์หลายคนที่อยากจะมาเป็นพ่อแม่อุปถัมภ์ของเด็กๆ แต่เด็กๆที่ไม่มีพ่อแม่มีน้อย ก็เลยมีอีกหนึ่งกิจกรรมคือ ครูอาสา มีครูอาสาอ่านหนังสือ

ครูอาสาวาดภาพ ทำดอกไม้ประดิษฐ์ ดอกไม้สด ทำอาหาร ทำหลังเลิกเรียนครับ ยังมีอีกกิจกรรมอยากให้เป้เล่าให้ฟัง น้องทรงสิทธิ์ ส่งลูกให้เพื่อนอีกคนได้เล่าต่อบ้าง

          เด็กชายวันชนะ  ประนอมศิลป์ กล่าวสวัสดีและได้เล่ากิจกรรมอ่านหนังสือ


โดยใช้เวลาหลังโรงเรียนเลิกตั้งแต่สามโมงครึ่งถึงสี่โมงครึ่ง ทางโรงเรียนจัดโครงการนี้ขึ้น โดยให้เด็กฝึกอ่านหนังสือเพื่อให้มีพัฒนาการการอ่นที่ดีขึ้น และมีสมาธิ นอกจากนี้มีกิจกรรมพี่ช่วยน้อง คือพี่ที่อ่านเก่งแล้วจะไปช่วยน้องที่ยังอ่านไม่เก่งให้มีความเก่งขึ้น

          แล้วเดี๋ยวนี้ลูกอ่านหนังสือเก่งหรือยัง เสียงหนึ่งในเวทีถามเปรยขึ้นมา เก่งแล้วครับ วันชัยชนะตอบเสียงแจ๋ว ท่ามกลางเสียงหัวเราะค้วยความเอ็นดูคนผู้คนในเวทีวันนั้น

          นอกจากนี้แล้ว อาจารย์วิวรรธน์ ได้กล่าวเสริมอีกว่า โรงเรียนได้จัดกิจกรรมการเล่นดนตรีและศิลปะพื้นบ้าน อย่างลำตัด กลองยาว เพื่อช่วยให้เด็กก้าวร้าวจากการชกต๋อยให้มาตีกลอง ร้องลำตัด เป็นกลวิธีปลูกฝังคุณธรรมให้เด็ก อย่างลำตัดก็จะมีคุณธรรมสอดแทรกในทุกบทกลอน เมื่อเด็กท่องแล้ว ถ้าเกิดทำได้ด้วยก็เป็นเรื่องที่ดีมาก

          ฟังตั้งแต่ต้นจนจบด้วยความซาบซึ้ง กินใจ ไม่รู้จะใช้คำไหนอีกแล้วนอกจากคำว่า วิเศษจริง ๆ

 

...................................................................

..............เมล็ดพันธุ์ดีๆผลุดโผล่ขึ้นทีละเมล็ดๆในพื้นที่ ที่เอื้อจากการจัดวางด้วยความอยากลำบากที่ลงตัว ด้วยความมุ่งมั่นของผู้บริหารที่มีหัวใจที่เต็มเปลี่ยมไปด้วยความจริง ความดี และความงาม สะท้อนให้เห็นถึงความเกี่ยวพันธ์ผูกโยง เกื้อกูลเป็นสังคมที่เอื้ออาทร ขยายต่อไปจากคนสู่คน จากหน่วยงานสู่หน่วยงาน.....................

คำสำคัญ (Tags): #hhc
หมายเลขบันทึก: 178077เขียนเมื่อ 22 เมษายน 2008 10:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 23:41 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)
  • ดีจังเลยที่เอามาเล่า
  • เรื่องดีๆๆ
  • ชอบเด็กๆๆยุวจิตอาสา
  • แต่หนองตาบ่ง
  • ไม่ไกลจากบ้านผมเลยครับ
  • สมัยก่อนแถวๆๆนั้นชาวบ้านปลูกดอกมะลิขาย
  • ขอชื่นชมกิจกรรมดีๆๆแบบนี้ครับ

...........เรื่องจิตอาสาฝังอยู่ในสังคมความเป็นไทยมานานแล้ว นานจนเหมือนกับว่ามันถูกซ่อนอยู่ และเราจะเอาออกมาไหนค้นหาว่าเก็บไว้ตรงไหนหาไม่พบ(ลืมที่เก็บความเป็นจิตอาสา)ตอนผมยังเด็กได้มีโอกาสช่วยพ่อ แม่ เอาแกงเวียน ไปถวายพระเพลในช่วงเข้าพรรษาโดยชาวบ้านจะผลัดเปลี่ยนกันจัดอาหารอาหารไปถวายพระ ที่บ้านก็จะจัดไปเดือนละครั้งส่วนวันพระเราก็ไปทำบุญกันตามปรกติ หรืองานบูญต่างๆเช่นทอดผ้าป่า ทอดกฐิน ชาวบ้านก็จะเอาข้าวหม้อแกงหม้อ ไปรวมกันที่วัดหลังจากถวายพระเสร็จแล้ว ก็ได้เวลาที่จะเอาเลี้ยงแขก กัลยาณมิตรที่มาทำบุญร่วมกัน ตรงนี้อยู่ในสังคมเรามาเนินนานและค่อยๆจางหายไป หากเราได้เอาเล่าให้เห็นเรื่องราวดีๆ คุณค่านี้ก็น่าจะถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นไปสู่อนาคตอย่างที่ท่านผู้นำโรงเรียนได้เริ่มเอาไว้แล้ว.......

  • นี่คือตัวอย่างการเรียนการสอนด้วยวิธีไม่สอน
  • แต่ทำให้ดู ถึงแม้จะต้องใช้เวลาบ้าง
  • แต่ผลที่ได้รับจะฝังลึกเป็นรากฐานในหัวใจเด็กๆ
  • ให้มีคุณธรรมจริยธรรมที่งดงามเป็นไปตามธรรมชาติ
  • ไม่ต้องฝืนใจ
  • ใครเห็นใครชอบใคเห็นใครรักเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีค่าของชาติในอนาคต
  • อยากให้การกระทำเยี่ยงนี้เกิดขึ้นในทุกๆสังคมค่ะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท