กองทัพอากาศสหรัฐเคยคิดจะทิ้งระเบิดปรมาณูถล่มเวียดนามและลาว
เป็นข่าวเล็กๆของหัวค่ำคืนนี้ครับ
ผู้จัดการออนไลน์-- เอกสารลับของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ได้เผยให้เห็นว่าสหรัฐฯ มีแผนที่จะใช้อาวุธนิวเคลียร์ถล่มเวียดนามถึง 2 หนคือ ในปี 2502 และ 2511 กับลาวในปี 2504 เพื่อที่จะทำลายล้างกองกำลังคอมมิวนิสต์ให้สิ้นซาก
เอกสารที่ข่าวกล่าวอ้างเอกสารชื่อ The War in Northern Laos 1954-1973 (ซึ่ง declassified แล้วตามกฏหมาย Freedom of Information Act)
ประวัติศาสตร์ย่อเรื่องนี้ The National Security Archive ของมหาวิทยาลัยจอร์จวอชิงตัน (GWU) ได้เรียบเรียงไว้ พร้อม annotation ขอเชิญท่านผู้สนใจศึกษาได้ (ภาษาอังกฤษ) ดังความบางตอน
The War in Northern Laos shows how the Joint Chiefs of Staff created a plan for U.S. military intervention in Laos as early as 1959, almost two years before previously thought. As part of the activity surrounding the first Laotian crisis in 1959, caused by the failure to integrate the Pathet Lao communist military into the Royal Laotian Armed Forces and the consequent outbreak of civil war, the Air Force pressed to deploy a squadron of B-47 bombers to Clark Air Force Base in the Philippines. They were to be used for possible bombing missions to interdict Pathet Lao lines of communication into North Vietnam. The use of nuclear weapons had already become so tightly interwoven into Air Force doctrine and training that both the contingency plan and the bomber deployment envisioned possible use of nuclear weapons and may have been a reason why the Eisenhower administration rejected this course. (pp. 23-25)
The Air Force history volume for 1968 discloses additional evidence of the synergistic impact of U.S. measures taken to cope with different crises. For example, B-52 heavy bombers sent to the Pacific to respond to the Pueblo crisis were used in strike missions to support American forces in the battle of Khe Sanh. In this section, the study provides information on the Air Force chief of staff's support for General Westmoreland's proposal for a nuclear weapons plan for Khe Sanh. (p. 9) Air Force planning for new campaigns against North Vietnam included a massive attack on the lines of what ultimately occurred in 1972. (pp. 25-29) And the document contains the most detailed analysis yet made public of U.S. military planning for a negotiated settlement of the Vietnam war, including provision for a large residual force that, under one option, would have included a permanently-stationed two-division ground force. (pp. 39, 47-51, 61-63)
ท่านอาจจะมีความรู้สึกรุนแรงกับเรื่องนี้ เนื่องจากเรา "เป็นผู้มีส่วนได้เสีย"
อย่างไรก็ตาม ถ้ารับความจริงไม่ได้ (ว่ามีคนคิดแต่ไม่ได้ทำ) ก็เหมือนมีชีวิตอยู่ในจินตนาการ
ความเห็น (9)
- เรื่องนี้ช่วยกระตุกหลายเรื่อง ว่าระหว่างเราดำเนินชีวิตไปเรื่อยๆ ฝ่าปัญหาต่างๆ เราไม่ทราบว่า คนอื่น คนรอบข้าง เขาคิดอะไร กระทบเราไหม เรื่องไม่รู้ หรือไม่มีทางรู้ ยังซ่อนอะไร มีเบื้องหลังอะไร น่าสนใจมาก แต่เราก็หาทางเข้าถึงอยาก โลกนี้มีขาว มีดำ มีที่ลับ มีที่แจ้ง ชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้ายจริง
- ถ้าเกิดเขาหย่อน ตูมกัน ประวัติศาสตร์ไทยจะเปลี่ยนไปยังไงไม่รู้ เพราะไม่ใช่เรื่องโลกร้อนแล้ว ชะตากรรมร้อนด้วยพิษรังสี มีปัญหาใหญ่เป็นมรดก เหมือนญี่ปุ่น
- รึบางที การมีวิกฤติใหญ่ อาจจะช่วยให้เกิดการล้างกระดานกฎหมาย ระบบ ค่านิยมโหล โล๊ะทิ้งทั้งหมดได้ แล้วมายกร่างใหม่แบบยกชุด
- อาจจะมีผู้คิดว่า อ้าวเราก็แก้รัฐธรรมนูญไง อ๋อ นั่นมันคนละอย่างกับการล้างทุกอย่างแบบเบ็ดเสร็จ
- ถ้าไม่โดนปรมาณู ญี่ปุ่นอยากจะไม่เจริญเพียงนี้ก็ได้
- ของเราละ ..แก้รัฐธรรมนูญ แบบแก้ผ้าเอาหน้ารอดเป็นคราวๆไป เทียบกันแล้ว ยังเหลวไหล
- - " ใกล้บ้านเราจัง โชคดีที่ไม่ตัดสินใจทำ แค่ฝนเหลืองยังส่งผลยาวมาจนถึงทุกวันนี้ บางเรื่องคิดแล้วไม่ทำก็ดีเหมือนกัน แท้งๆ ไปซะบ้างโครงการอกุศลแบบนี้
<ul>
เคยฉุกคิดสักนิดไหมว่า
</ul>
<ul>
ทำอะไรไปที่ไม่ทันได้คิด
</ul>
<ul>
ความผิดพลาดเกิดซ้ำแล้วซ้ำอีก
</ul>
<ul>
เพราะความคิดแบบว่า ข้าพแต่ผู้เดียวที่สามารถควบคุมโลกใบนี้ได้ จึงต้องสร้างทุกอย่างไม่ว่ากำลังอาวุธทำลายล้างโลก กำลังอำนาจเงิน กำลังอำนาจเทคโนโลยี
</ul>
<ul>
แต่มีอำนาจบางอย่างที่เอาชนะไม่ได้สักที่ คืออำนาจธรรมชาติ
</ul>
ความสำเร็จในการใช้อาวุธปรมาณูที่ใช้กับ "ฮิโรชิมา" และ "นางาซากิ" ทำให้สหรัฐฯ กลายเป็นมหาอำนาจขึ้นในฉับพลัน
การคิดที่จะทิ้งระเบิดปรมาณูอีกครั้งในเวียดนามและลาว ... จะเป็นการยืนยันความเป็นมหาอำนาจของตัวเอง
โดยอยากให้ชื่อว่า การใช้อาวุธยุติ "ทฤษฎีโดมิโนของคอมมิวนิสต์ที่ตัวเองเชื่อ"
อำนาจ ที่เหนืออธิปไตยของประเทศอื่น
อำนาจ ชี้ขาดด้วย อาวุธ
สำหรับเวียดนามแล้ว .. คุณคิดว่า เค้าจะยอมแพ้กับแค่ระเบิดปรมาณูหรือ
และประชาคมอเมริกันที่ต่อต้านสงครามเวียดนามอีก
บริบทรอบด้านที่เป็นตัวชี้วัดการเข้ามาทำสงครามและการยุติสงคราม มันเยอะไปหมด
ขอบคุณครับสำหรับการเปิดประเด็นนี้ ยังมิเคยทราบมาก่อนเช่นกัน
:)
มีเรื่องที่มนุษย์สร้างขึ้นอีกมากมายที่เราไม่รู้ ไม่ทราบ
และมีเรื่องที่มนุษย์สร้างขึ้นแล้วอีกมากมายและเราทราบ แต่เข้าใจผิด เพราะการบิดเบือน เพราะไม่ได้ตั้งใจ เพราะ..ฯ
เรื่องนี้บ่งบอกความเป็น อเมริกา หลายอย่าง หลายแง่มุม
นึงถึงท่าน ม.ร.ว.คึกฤทธิ ปราโมท สมัยที่ท่านเขียนบทความในสยามรัฐ ท่านเคยด่าเจ็บลุงแซมมาแล้วหลายครั้ง ..
ไม่นึกว่ามาได้อ่านข่าว manager ที่นี่ด้วย
สิ่งที่ดีคือเขามี Freedom of Information Act ทำให้เรารู้เรื่องที่น่ากลัวนี้ ซึ่งผมอยากให้บ้านเรามีกฎหมายแบบนี้บ้างเหลือเกินครับ
อืมม... แต่ระบบเอกสารบ้านเรานั้น แม้จะมีกฎหมายแบบนี้ก็อาจจะหาไม่เจอได้... คือไม่ได้เจตนาซ่อนแต่มันหายไปเองจริงๆ
@อ.ธวัชชัย รู้สึกว่าบ้านเราก็จะมีอยู่เหมือนกันนะครับ
บันทึกนี้ อาจอยู่ดีๆก็กลายเป็นบันทึกร้อนได้ -- จะปล่อยทิ้งไว้ให้เย็น ไม่แตะเรื่องความเห็น แต่จะให้ข้อมูลเพิ่มครับ
- Freedom of Information Act บ้านเราเรียก พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐ ครับ [สำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ (สขร)]