บรรยายKMที่สถาบันพัฒนาการเด็กราชนครินทร์


ทางท่านผอ.สถาบันคืออาจารย์หมอสมัย ศิริทองถาวร ท่านก็ได้เข้ามานั่งฟังตั้งแต่ต้นจนจบ

             เมื่อ 2 มีนาคม ที่ผ่านมา ผมได้รับเชิญจากสถาบันพัฒนาการเด็กราชนครินทร์ให้ไปบรรยายในเรื่องการจัดการความรู้ให้กับเจ้าหน้าที่ของสถาบันฟังในการประชุมวิชาการที่จัด1-2 มีนาคม โดย 1 วันครึ่งเป็นการบรรยายของวิทยากรจากกรมสุขภาพจิตเกี่ยวกับการเลื่อนตำแหน่งและการจัดทำสมรรถนะ ส่วนของผมบรรยายช่วงบ่ายวันที่ 2 ซึ่งช่วงบ่ายนี่ถือว่าเป็นเวลาปราบเซียน ที่คนฟังมักจะหลับกันมาก

              ผมราวน์วอร์ดเสร็จประมาณ 8 โมงจึงเดินทางไปเชียงใหม่ ไปถึงเที่ยงครึ่งได้ทานอาหารที่สถาบันและประมาณ 13.30 น. จึงได้เริ่มบรรยายมีผู้เข้าฟังประมาณ 60 คน พี่แมวหรือคุณสินีนาฎซึ่งเป็นหัวหน้ากลุ่มการพยาบาลซึ่งเป็นผู้ติดต่อผมให้ไปบรรยายเป็นพิธีกรผู้แนะนำวิทยากร พี่แมวเป็นคนที่พูดเก่งและพูดดี พูดแล้วคนฟังจะรู้สึกภาคภูมิใจในตัวเองมาก แนะนำประวัติผมจนผมเกร็งเกรงว่าจะพูดไม่ได้ดีพอ

              ผมได้เล่าเรื่องการจัดการความรู้ 5 ขั้นตอนหรือLKASA Model โดยมีการนำถึงเรื่องแนวคิดสำคัญๆก่อนพร้อมทั้งเดินเรื่องไปตามที่เคยบรรยายมา ก็ภือว่าได้รับความสนใจดีมากจากผู้ฟฟัง สังเกตว่ามีคนหลับไม่เกิน 5 คน ทางท่านผอ.สถาบันคืออาจารย์หมอสมัย ศิริทองถาวร ท่านก็ได้เข้ามานั่งฟังตั้งแต่ต้นจนจบ ใช้เวลาเกือบ 3 ชั่วโมงเต็ม

               หลังบรรยายจบมีคำถามเยอะที่สุดเท่าที่เคยบรรยายมา แสดงว่าเจ้าหน้าที่สถาบันมีความสนใจอย่างมาก มีหลายประเด็นที่ถามแล้วผมรู้สึกจะตอบยากเหมือนกัน มีคำถามที่มักจะถูกถามซ้ำๆกันบ่อยในเกือบทุกเวทีที่บรรยายเช่น ถ้าเจ้าหน้าที่ที่ที่ไม่ให้ความร่วมมือ เราควรจะทำอย่างไรดี ผมก็คิดว่าถ้าจะทำอะไร เริ่มต้นต้องหาแนวร่วมให้ได้สัก 60-70 %ก่อน เพราะโอกาสสำเร็จจะสูงกว่าเนื่องจากมีคนเอาด้วยเกินกว่าครึ่งแล้ว แล้วพยายามกระตุ้นส่งเสริมคนที่เขาร่วมมือและมีผลงานที่ดีก็ให้เขาได้แสดงออก ส่วนคนที่ยังไม่ร่วมมือก็ให้มองทางบวกกับเขา ให้โอกาสและพยายามหาทางจูงใจทางบวกให้เขาเข้ามาร่วมมือ และถึงอย่างไรในที่สุดก็ตามในทุกองค์การก็จะมีคนกลุ่มหนึ่ง จะมากหรือน้อยแต่ไม่น่าจะเกิน 5%ที่มักจะคอยเป็นฝ่ายค้าน เป็นตัวป่วน เป็นตัวกวนของหน่วยงาน ก็พยายามอยาไปสนใจไปลงโทษเขา ให้มองอย่างให้อภัยและจำกัดกรอบให้เขาอยู่อย่างเหมาะสม และก็ทำใจ แม้จะมีความรู้สึกว่าคนที่ไม่ทำนี่เคยกวนใจกวนความรู้สึกก็พยายามระงับให้ได้ แล้วใช้ใจไปมองคนส่วนใหญ่ที่ทำที่ให้ความร่วมมือ เราก็จะมีความสุขใจมากกว่าที่จะมัวไปมองความบกพร่องเล็กๆน้อยๆของหน่วยงาน

                 อย่าเอาการประพฤติปฏิบัติที่ไม่ดีของคนอื่น มาทำลายการประพฤติปฏิบัติที่ดีของตนเอง อย่าให้ใจไปเผลอเป็นทาสความไม่ดีของคนอื่น

                 หลังบรรยายจบก็เดินทางกลับบ้านตาก และก็ได้บอกพี่แมวไปว่า ผมจะพาทีมงานมาดูงานเรื่องการพัฒนาการเด็กที่นี่เพราะกำลังจัดตั้งงานพัฒนาการเด็กอยู่ ผมกับพี่แมวจะสนิทกันมากเพราะเป็นเพื่อนที่อบรมผู้บริหารระดับกลางรุ่นที่ 18 ของ วสส.พิษณุโลกมาด้วยกัน ได้รับคัดเลือกให้เป็นขวัญใจรุ่นด้วยกัน เป็นพิธีกรงานคืนก่อนจบอบรมด้วยกันและแถมยังอยู่กลุ่มเดียวกันทำรายงานและลงพื้นที่กลุ่มเดียวกันอีกด้วย พี่แมวจะเป็นคนที่เสียงดี ร้องเพลงไพเราะและมีน้ำใจต่อคนอื่นๆมาก

หมายเลขบันทึก: 17712เขียนเมื่อ 6 มีนาคม 2006 10:00 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 14:30 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท