ภารกิจเพาะหว่านเมล็ดพันธ์แห่งคุณธรรม จริยธรรมและความดีงาม โดย ธีระ เงินแก้ว
ธีระ ภารกิจเพาะหว่านเมล็ดพันธ์แห่งคุณธรรม จริยธรรมและความดีงาม โดย ธีระ เงินแก้ว เงินแก้ว

ลำนำวเนจร


บทกวีของคนไกลบ้าน

ลำนำวเนจร  บทกวีของคนไกลบ้าน

ความอบอุ่นบางชนิด  เป็นความอบอุ่นประหลาดที่ผ่านเรามาโดยบังเอิญ  เช่นเดียวกับความเหน็บหนาวบางอย่าง...

กลับบ้านเกิด  แน่นอนคือความอบอุ่นอย่างหนึ่ง  แต่สำหรับใครบางคน...สิ่งนี้คือความเหน็บหนาวด้วย

กลับบ้านคำที่อีกความหมายหนึ่งบอกถึงเคยไกลบ้าน

ไกลบ้าน  อีกความหมายคือการกลับบ้าน

อนิจจา...กลับบ้านของใครบางคน  อาจเป็นการกลับชั่วนิรันดร์...ไร้การจาก

แต่สำหรับใครบางคน................................................

พลันนั้น  ลมทุ่งก็พัดผ่านมาร่วมวงสนทนาด้วย........

เป็นวงสนทนาที่ดูอบอุ่นครึกครื้น  แต่แฝงไว้ด้วยความเหน็บหนาวเศร้าสร้อย

แววตาเพื่อนหนุ่มของข้าพเจ้าฉายแววอ้างว้าง

ชีวิตวันนี้ไม่เหมือนวันวาน...เมื่อสิ้นหน้านา  ชาวนารุ่นพวกเขาจำต้องเดินทางเข้ารับจ้างในกรุงเทพฯ

ไม่ใช่ชาวนาโดยสมบูรณ์แบบเหมือนบรรพบุรุษอีกต่อไป

แม้ลมทุ่งนั้นก็ดูแห้งแล้งพัดโหยแผ่วเศร้า....

หนทางใดที่ท่านจะไป  และเมื่อใดท่านจะกลับมาอีก  ลมทุ่งถาม

ข้าไม่รู้  ข้าพเจ้าตอบ

ท่านควรรู้  เพราะท่านเป็นผู้ไปและผู้กลับ  ลมทุ่งคาดคั้น

ข้าไม่แน่ใจ  ข้าพเจ้าดื้อรั้น

ท่านควรแน่ใจ  เพราะเป็นใจท่านเอง  ลมทุ่งใคร่เอาชนะ

ลมเอย...จะป่วยกล่าวไปไย  ข้าไม่รู้  ข้าไม่แน่ใจ  วันก่อนข้าเพิ่งทะเลาะกับชะตากรรม  ยังพูดกันไม่รู้เรื่อง  เขาจะจัดการข้าอย่างไร  ข้าพเจ้าเหมือนยอมแพ้สารภาพ

อย่างนั้นหรือ...ก็เอาเถิด  ถ้าว่างจะช่วยพูดกับชะตากรรมให้  ลมทุ่งเสียงอ่อน

ขอบคุณท่าน  ข้าพเจ้ากล่าว  (บ้านเกิดหมายเลข ๑  หน้า 9-10)

ลำนำวเนจร  โปรยหัวไว้ว่า  บทเริ่มต้นวิถีกวี ม้าก้านกล้วย  จากทุ่งกุลา  รจนาโดย  ไพวรินทร์  ขาวงาม  กวีซีไรท์ที่ถึงฝั่งฝันกับม้าก้านกล้วย  พิมพ์ครั้งแรกเมื่อพฤศจิกายน  2528  เป็นรวมบทกวีคัดสรรที่ตีพิมพ์ตามนิตยสารต่าง ๆ ผ่านช่วงเวลาที่ยาวนาน  ที่สำคัญลำนำวเนจรเป็นพื้นที่กวีของนิตยสารและทุกบทจะสอดคล้องกับลำนำวเนจร  และคำอุทิศที่บ่งบอกบางถ้อยว่า  แด่...เพื่อนพ้องและน้องพี่ที่ให้ความรู้สึกผูกพันระหว่างการเดินทางของชีวิต

ลำนำวเนจรแบ่งเป็น  3  ภาค  ลำนำวเนจร  กาพยาทร  ชุด  มณีฝุ่น  และมือจะคว้า  และใจจะใฝ่ฝัน

ลำนำวเนจร  ซอกซอนร่อนเร่  โซซัดโซเซ  ในกาลเวลา  บนผืนแผ่นดิน  ใต้ผืนแผ่นฟ้า  ในห้วยธารา  ภูผาถ้ำไพร...............................

นกขมิ้นบินมาล้านัก

อึกอักอึดอัดอกเอ๋ย

ยังคงหลงคว้างอย่างเคย

ชื่นเชยชีพซึ่งหนึ่งเดียว

โอ้ดอกเอ๋ยเจ้าดอกขจร

เร่ร่อนซ่อนหาในป่าเปลี่ยว

ป่ากว้างร้างกรหนาวเรียว

เกาะเกี่ยวเจ็บในใจนัก

..................................

                                  (บางบทจากการรำลึกถึงเพื่อนคนหนึ่งซึ่งมีอาชีพเป็นโสเภณี)

ถ้าเธออยู่ในโลกอย่างโชคร้าย

เธออาจหมายสิ่งใหม่ไว้ในอก

ถ้าเธอหลงในทางที่ว้างวก

เธออาจยกความคิดตรองจิตใจ

....................................(หน้า 12)

ทั้งหนุ่มสาวก้าวมาหาความรัก

ไม่รู้หนหล่นหักอยู่แห่งไหน

ระหว่างทางต่างก้าวฝีเท้าไป

สวนทางผู้ปราชัยก็หลายคน

.....................................(หน้า  47)

โพ้นโค้งรุ้งคุ้งโค้งฟ้าเบื้องหน้าโพ้น

แดดอ่อนโยนทอรุ้งสลับสี

โค้งสายรุ้งราวร้อยอัญมณี

แดดดนตรีบรรเลงเพลงสายรุ้ง

......................................(เพลงสายรุ้ง)

ไพวรินทร์    ขาวงาม  เป็นอีกหนึ่งกวีที่ทำงานอย่างสม่ำเสมอ  ยืนหยัดสู้กระแสความนิยมต่องานกวีได้อย่างน่าชื่นชม  แม้ลำนำวเนจรเล่มนี้บางบทเขียนเมื่อปี  2526  แต่การพิมพ์ครั้งหลังสุดเวลากว่ายี่สิบปี  คือการยืนยันความเป็นนักกวี  ชื่นชมและอยากแนะนำให้เยาวชนและทุกคนได้ร่วมชื่นชมด้วยกัน

ด้วยจิตคาระ

ธีระ    เงินแก้ว

15  เมษายน  2551                                  

หมายเลขบันทึก: 176960เขียนเมื่อ 15 เมษายน 2008 13:08 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 16:23 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)
  • อ่านบทกวีของคุณไพวรินทร์....คราใด...เสมือนได้ถ่ายเทอารมเหงาออกมาหมดใจก้อครานั้น
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท