วันก่อนว่าจะเล่าให้ฟัง แต่ยังไม่มีโอกาส วันนี้เลยขอนำเสนอเรื่องนี้ ให้ผู้อ่านตัดสินกันดีกว่า ว่าเหมาะสมเพียงใด หรือมีวิธีจัดการกับคนประเภทนี้อย่างไร
เอาเป็นว่าขอเกริ่นเรื่องนโยบายของห้องสมุดก่อนนะครับ
ที่นี่ อาจารย์ 1 คนสามารถยืมหนังสือได้ 10 เล่ม และระยะเวลา 1 เดือน ค่าปรับ/เล่ม/วัน 5 บาท ครับ
เข้าเรื่องแล้ว เรื่องมีอยู่ว่ามีอาจารย์อยู่หนึ่งคนเอาหนังสือมาคืนที่ห้องสมุดแล้วระบบแจ้งเตือนว่ามีค่าปรับหนังสือแสดงว่าอาจารย์คืนเกินกำหนดระยะเวลา 1 เดือน ทางบรรณารักษ์จึงจำเป็นที่จะต้องปรับอาจารย์คนนั้น แต่ด้วยพฤติกรรมของอาจารย์ที่ชอบสร้างความวุ่นวายให้กับแผนกอื่นๆ วันนี้ถึงคราวที่บรรณารักษ์จะต้องมาปวดหัวกับอาจารย์คนนี้เหลือเกิน เมื่ออาจารย์ให้เหตุผลว่า “ต้องปรับผมด้วยหรอครับ ในเมื่อผมก็ยืมหนังสือไปสอนนักศึกษา นี่ผมใช้เพื่อการเรียนการสอนนะ ไม่ได้เอาไปอ่านเล่นหรือเอาไปดอง” ทางบรรณารักษ์ก็ให้เหตุผลว่ามันเป็นกฎระเบียบที่ห้องสมุดตั้งขึ้น ถ้าจะขอยกเว้นเรื่องค่าปรับหนังสือก็ต้องเขียนหนังสือให้เหตุผลแบบเป็นลายลักษณ์อักษร แต่อาจารย์คนนี้ก็ยังไม่ยอมจ่าย หรือไม่ยอมเขียนหนังสือใดๆ (ทั้งๆ ที่อาจารย์คนอื่นๆ เวลาทำผิดกฎเขาจะรู้ตัวเองและยอมทำตามกฎที่ห้องสมุดกำหนดไว้) แล้วอาจารย์คนอื่นก็อ้างอยู่เรื่องเดิมๆ ว่าต้องจ่ายด้วยหรอ แถมยังขู่ว่าจะเอาไปฟ้องผู้บริหารขององค์กรอีกว่า บรรณารักษ์ปรับค่าหนังสือที่คืนกำหนดกับอาจารย์ที่นำไปใช้ในการเรียนการสอน
สรุปค่าปรับแค่ 15 บาท อาจารย์คนนี้สามารถทำให้เป็นเรื่องใหญ่ได้ขนาดนี้
ความเห็นของผมนะครับ - - - ในเมื่อคนอื่นเขาทำตามกฎที่วางไว้ หากจะต้องใช้หนังสือที่เกินกำหนดก็จะมาต่ออายุการยืมออกไป และเรื่องที่ใช้เพื่อการเรียนการสอนไม่ว่าอาจารย์หรือนักศึกษาที่ยืมหนังสือทุกคนก็ยืมไปเพื่อการเรียนการสอนทั้งนั้น แสดงว่าความหมายของอาจารย์คือไม่จำเป็นต้องมีกฎของห้องสมุดใช่หรือเปล่า
ทางแก้ที่ผมคิดจะเสนอนะครับ - - - สำหรับอาจารย์อย่างเดียวคือถ้าคืนหนังสือเกินกำหนดเราจะไม่ปรับตรงบริเวณเคาน์เตอร์ยืม-คืน แต่เราจะปรับทุกสิ้นเดือน (ตัดเงินเดือนแทน) และทุกๆ ครั้งที่เปิดเทอมใหม่หลังจากเราอบรมการใช้ห้องสมุดให้นักศึกษาแล้ว ควรจะจับอาจารย์มาอบรมการใช้และกฎระเบียบของห้องสมุดด้วย (ขนาดกฎเรื่องการปรับค่าหนังสืออาจารย์ยังไม่รู้เลย สมควรอบรมและชี้แจงอย่างยิ่ง)
เพื่อนๆ ว่ามีวิธีแก้ไขเรื่องนี้อย่างไร หรือต้องการให้เรื่องนี้เป็นอย่างไร อย่าลืมมาเล่าให้ฟังนะครับ
————————————————————————————————
Update : เพื่อนสามารถอ่านข้อเสนอแนะจากพี่โตได้ในเรื่อง ว่าด้วยค่าปรับหนังสือ นะครับ
ขอบคุณสำหรับแนวความคิดที่ดีด้วยครับ พี่โต
จากบทความ http://projectlib.wordpress.com/2007/08/12/library-fine/
เมื่อผู้ที่ทรนงตัวให้คนอื่นเรียกตัวว่าเป็น อาจารย์ ไฉนเมื่อไม่ปฏิบัติตัวตามกฎของสังคม
จึงร้องหาสิทธิพิเศษเพื่อการคุ้มครองตนให้พ้นจากการถูกปรับตามโทษแห่งกฎนั้นเล่า
แม้ท่านจะมีคุณงามความดีอยู่ไม่น้อยในการเสียสละชี้แนะให้ผู้อื่นได้มีความรู้
แต่ท่านก็ควรรู้ว่า เมื่อท่านไม่ปฏิบัติตามกฎก็ย่อมต้องถูกปรับได้ด้วยเช่นกัน
นิสัยคนไทยไม่เคยหาช่องเอาเปรียบหรือให้ตนอยู่เหนือใคร
อย่าติดว่าเรียนมามากจากต่างประเทศ แล้วจะอยู่เหนือคนไทยได้
สวัสดีคะ
กฏสร้างมาเพื่อให้สังคมดำเนินไปได้อย่างเป็นระเบียบ อาจารย์ท่านนั้นน่าจะมองอีกมุมหนึ่งว่า การที่ยืมหนังสือไปเกินเวลา อาจารย์ท่านอื่นหากต้องการยืมต่อก็ไม่สามารถทำได้ การยืมหนังสือก็สามารถนำหนังสือมาต่อระยะเวลาในการยืมได้ใหม่
ดิฉันมองว่า แนวคิดที่คุณเจ้าของบล็อกเสนอ ก็เป็นแนวคิดที่พอจะนำมาจัดการกรณีนี้ได้คะ แต่เกรงว่าปัญหาเรื่องการตัดเงินจากเงินเดือน จะเป็นการเพิ่มงานต่อฝ่ายที่ต้องจัดการเรื่องเงินหรือไม่ เพราะจะว่าไปแล้ว เงินค่าปรับก็คงไม่ได้มากเท่าใด หากปัญหามีไม่มากเท่าไหร ดิฉันคิดว่าก็ยังไม่คุ้มที่จะไปเพิ่มงานให้ฝ่ายที่ต้องจัดเก็บเงินคะ
แวะมาแลกเปลี่ยน ขอบคุณมากคะ
เป็นอาจารย์ได้ยังไง เรื่องแค่นี้ยังแยกแยะไม่ออก
เป็นเรื่องที่ตลก เมื่อมีคนไม่บรรลุนิติภาวะมาสอนหนังสือให้กับนักศึกษา